20 ก.พ. 2545 17 ปีแห่งคำถาม โจ้ทำกับเราแบบนี้ทำไม
จนเมื่อข่าวได้แพร่กระจายออกไป น้ำตาของแฟนคลับก็แทบท่วมแผ่นดิน พอๆ กับคำถามที่ว่า "เขาทำแบบนี้ทำไม" ที่เริ่มเกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 17 ปีก่อน จนถึงนาทีนี้
***********************
เสียงปืนลั่นในลิฟท์ของที่พักแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ใครเลยจะคาดคิดว่า ผู้ลั่นไกปลิดชีพตนเอง คือ นักร้องขวัญใจคนไทย อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ หรือ ที่เราเรียกกันว่า โจ้ วงพอส
จนเมื่อข่าวได้แพร่กระจายออกไป น้ำตาของแฟนคลับก็แทบท่วมแผ่นดิน พอๆ กับคำถามที่ว่า “เขาทำแบบนี้ทำไม” ที่เริ่มเกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 17 ปีก่อน จนถึงนาทีนี้ เรายังคงมีคำถามนี้ทุกครั้งเมื่อนึกถึงโจ้
แน่นอนตลอดระยะเวลานับจากวันนั้น ได้มีการตั้งสมมุติฐาน และทฤษฎีการตายของโจ้ออกมาต่างๆ นานา เช่นโจ้ผิดหวังในความรัก โจ้รู้สึกสูญเสียตัวตน โจ้กลัวถูกลืม ฯลฯ
แต่มีคนเดียวที่จะเติมคำตอบลงใน “ที่ว่าง” นั้นได้ ก็คือเจ้าตัวเท่านั้น
วันนี้เรามารำลึกถึงเจ้าของเสียงอันล้ำลึก ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนกันด้วยประวัติของเขาดังนี้
อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ชื่อเล่น โจ้ หรือรู้จักกันในนาม โจ้ วงพอส เกิดวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2514 เป็นอดีตนักร้องนำของวงพอส โดยมีเอกลักษณ์ติดตัวคือหัวฟูและน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาก็คือการร้องเพลงในระดับเสียงสูง
โจ้เป็นที่รู้จักจากเจ้าของรางวัลชนะเลิศประเภทขับร้องเดี่ยว จากเวทีประกวดดนตรีเยาวชน โค้กมิวสิคอวอร์ด 1993 ประจำปี 2536
โจ้เป็นชาวอุทัยธานี เป็นบุตรคนที่สองจากจำนวนทั้งหมดสี่คน มีบิดาคือ นายสกล เหลืองบริบูรณ์ และมารดา คือ นางพิมพ์ เหลืองบริบูรณ์ มีพี่สาว 1 คน น้องชาย 1 คน และน้องสาว 1 คน โดยที่บ้านมักนิยมเรียกว่า “เหี่ยว” และโจ้ เป็นสมาชิกแฟนบอลของลิเวอร์พูลอีกด้วย
โจ้ เข้าร่วมเวทีประกวดดนตรีเยาวชนชิงถ้วยพระราชทาน โค้กมิวสิคอวอร์ด 1993 ครั้งที่ 4 เมื่อปี พ.ศ. 2536 โดย์ใช้เพลงประกวดได้แก่ เพลง “อย่าหยุดยั้ง” ของวง ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์ และเพลง “Carrie” ของวง ยุโรป จนคว้ารางวัลชนะเลิศและชิงถ้วยพระราชทาน ประเภทขับร้องเดี่ยว
หลังจบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เมื่อ พ.ศ. 2538 อัมรินทร์ถูกรับเลือกเข้าร่วมโครงการ ‘College Artists’ ของนิตยสารบันเทิงคดี และพบกับ นอ-นรเทพ มาแสง, เอ-พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ ทั้งคู่เป็นนักศึกษาดุริยางคศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ก่อนภายหลังจะมารู้จัก บอส-นิรุจ เดชบุญ รุ่นน้องชั้นปี 1 จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จนมีโอกาสได้เป็นวงแสดงสดในงาน งานของคลื่น “ไพเรท เรดิโอ” ที่ฮาร์ตร็อค คาเฟ่ สยามสแควร์ ทำให้เบเกอรี่ มิวสิค สนใจและเซ็นสัญญากับเบเกอรี่ในที่สุด และออกอัลบั้มในนามพอสทั้งหมด 4 ชุด
ที่สุด โจ้ อัมรินทร์ได้เข้ามาเป็นนักร้องนำวงพอส โดยมีผลงานออกมาทั้งสิ้น 4 อัลบั้มตลอดระยะเวลาช่วง 5 ปี อันประกอบไปด้วย Push (Me) Again - 2539, Evo & Nova-2541, Mild-2542 และ Rewind-2543 โจ้ได้มีโอกาสทำงานเดี่ยวของตัวเองร่วมกับ ธีร์ ไชยเดช ในชื่อชุด Simply Me ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งในคอนเสิร์ตใหญ่ ’เบเกอรี่เดอะคอนเสิร์ต’ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2544
อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์อุปสมบทในปี พ.ศ. 2544 เพื่อทดแทนแก่พ่อแม่ที่วัด วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม จังหวัด อุทัยธานี
ก่อนเสียชีวิตราวปีเดียว คือ เมื่อ พ.ศ. 2544 โจ้ได้อุปสมบทเพื่อทดแทนแก่พ่อแม่ ที่วัดมณีสถิตกปิฏฐารามม หรือวัดทุ่งแก้ว จ.อุทัยธานี โดยได้รับฉายาว่า ปิยสีโล
การตายของโจ้ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นแค่ปีเดียว นับว่าเป็นเรื่องสุดคาดคิดของทุกๆ คน เพราะช่วงนั้น วงพอส กำลังมีแพลนที่จะออกงานเพลงชุดใหม่
ขณะที่ช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 พอสได้ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกครั้ง แต่ผ่านไปแค่สี่วัน ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 เมื่อเวลา 04.00 น. มีคนพบโจ้เสียชีวิตภายในลิฟต์ที่พักแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 50 ในช่วงกลางดึก
ผลการชันสูตร พบว่าเกิดจากการฆ่าตัวตาย บาดแผลกระสุนปืนบริเวณขมับขวา 1 นัด รวมอายุทั้งสิ้น 31 ปี โดยพิธีฌาปนกิจศพของโจ้จัดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2545 ที่วัดมณีสถิตปิฏฐาราม
แน่นอนหลังจากนั้น เรื่องราวของโจ้ยังคงวนเวียนอยู่ในแวดวงเสียงเพลง มีการจัดคอนเสิร์ตรำลึก ออกผลงานรำลึก และอื่นๆ อีกมากมายและวงพอสเองก็ได้กลับมาโลดแล่นอยู่ในเส้นทางสายตัวโน้ตอีกครั้ง
แต่ไม่ว่าจะยังไง โจ้จะเดินทางไปไกลแค่ไหน แต่ทุกวันนี้ สังคมไทยโดยเฉพาะแฟนคลับ ยังเหมือนติดอยู่กับบ่วงคำถาม เพราะทุกคนรักโจ้ ติดตามผลงานของโจ้
และบางคนก็รู้สึกขุ่นเคือง เมื่อนึกถึงว่า ความรักจากแฟนคลับของโจ้ ไม่ได้ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาในห้วงขณะหนึ่งก่อนจะลั่นไกปืนเลยหรือไม่ ถ้าเพียงแต่เขาคิดสักนิด เขาอาจเปลี่ยนใจก็ได้
โจ้ทำกับเราแบบนี้ทำไม?
วันนี้เราจะไม่พูดถึงข้อสันนิษฐานถึงการสาเหตุการตัดสินใจลาโลกของโจ้อีกแล้ว เพื่อให้เกียรติโจ้ของเรา แต่ขอทิ้งทวนไว้ด้วยเพลงนี้ “20202” ซึ่ง ธีร์ ไชยเดช แต่งเพลงนี้ให้กับ “โจ้” ชื่อเพลงมาจากวันที่ 20 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2002 ซึ่งเป็นวันที่โจ้ได้จากโลกใบนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
*** ถ้าวันนี้โจ้ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะอยู่ในวัย 48 ปี ***
******************************