วันนี้ในอดีต

สิ้น "เจ้าจอมอาบ" หนึ่งในห้าเจ้าจอม "ก๊กออ" อันลือลั่น

สิ้น "เจ้าจอมอาบ" หนึ่งในห้าเจ้าจอม "ก๊กออ" อันลือลั่น

22 พ.ย. 2561

รู้จักเจ้าจอมอาบ และเจ้าจอมก๊กออ ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของล้นเกล้า ร. 5

          วันนี้เมื่อ 57 ปีก่อน คือวันที่ "เจ้าจอมอาบ บุนนาค ท.จ." ถึงแก่อนิจจกรรม

         เธอเป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 โดยเป็นหนึ่งในเจ้าจอม "ก๊กออ"

          ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า เจ้าจอมอาบ เกิดที่ จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2424 เป็นบุตรคนที่ 12 ในจำนวน 14 คน ของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) ที่เกิดกับท่านผู้หญิงอู่

สิ้น \"เจ้าจอมอาบ\" หนึ่งในห้าเจ้าจอม \"ก๊กออ\" อันลือลั่น

          มีพี่น้องร่วมบิดาทั้งสิ้น 62 คน โดยในจำนวนนี้ มี 5 คน ที่เกิดจากท่านผู้หญิงอู่ (สกุลเดิม: วงศาโรจน์) และได้เป็นเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ทั้ง 5 คน คือ เจ้าจอมมารดาอ่อน, เจ้าจอมเอี่ยม, เจ้าจอมเอิบ, เจ้าจอมอาบ และเจ้าจอมเอื้อน

          เจ้าจอมอาบ ขณะอายุได้ 10 ปี ได้เข้ากรุงเทพ เพื่อร่วมขบวนแห่โสกันต์ของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ เมื่อ พ.ศ. 2434 และเข้าถวายตัวรับราชการฝ่ายในเมื่อ พ.ศ. 2438 เมื่ออายุได้ 14 ปี มีหน้าที่ถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร่วมกับเจ้าจอมเอิบ และเจ้าจอมเอื้อน

          เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เจ้าจอมอาบได้พำนักอยู่ที่ตำหนักในวังสวนสุนันทา ต่อมาภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ได้ย้ายไปมาอยู่ที่เรือนสร้างใหม่ริมคลองสามเสน บนที่ดินพระราชทานแก่ "เจ้าจอมก๊กกออ" ที่เรียกว่า "สวนนอก" ริมถนนสุโขทัย ติดกับสวนของเจ้าจอมเอิบและสวนเจ้าจอมเอื้อน ปัจจุบันคือ สำนักเลขาธิการสภาการศึกษา

          ต่อมาภายหลัง ท่านเจ้าจอมอาบ ได้ย้ายไปพำนักอยู่ด้วยกันกับ "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภา" หรือ เสด็จพระองค์อาทรฯ ซึ่งเป็นพระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม ซึ่งทรงถูกพระอัธยาศัยกันกับท่านเจ้าจอม ท่านเจ้าจอมจึงย้ายไปพำนักอยู่ด้วยกันกับเสด็จพระองค์อาทรฯ ที่ตำหนักทิพย์ ส่วนเรือนของท่านเอง จนกระทั่งเสด็จพระองค์อาทรฯ สิ้นพระชนม์ในปี 2501 ท่านเจ้าจอมอาบเป็นผู้ดูแลเตรียมงานพระศพจนลุล่วงไปด้วยดี และท่านก็ยังคงพำนักอยู่ ณ ตำหนักทิพย์ต่อมา

          ท่านเจ้าจอมอาบ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 ด้วยอาการหัวใจวาย ที่โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุ 80 ปี

         กล่าวสำหรับ "เจ้าจอมก๊กออ" หรือ "เจ้าจอมพงศ์ออ" เป็นชื่อที่ใช้เรียกพระสนมเอกทั้งห้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีนามขึ้นต้นด้วยอักษร อ. อ่าง อันได้แก่ เจ้าจอมมารดาอ่อน, เจ้าจอมเอี่ยม, เจ้าจอมเอิบ, เจ้าจอมอาบ และเจ้าจอมเอื้อน ซึ่งทั้งหมดเป็นสตรีจากสายราชินิกุล "บุนนาค" เป็นบุตรีของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) กับท่านผู้หญิงอู่ ภริยาเอก

         เจ้าจอมมารดาอ่อน (19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2410 - 29 มกราคม พ.ศ. 2512), เจ้าจอมเอี่ยม (12 พฤษภาคม พ.ศ. 2416 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2495), เจ้าจอมเอิบ (22 เมษายน พ.ศ. 2422 - 11 สิงหาคม พ.ศ. 2487), เจ้าจอมอาบ (20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2424 - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504), เจ้าจอมเอื้อน (พ.ศ. 2430 - พ.ศ. 2470)

สิ้น \"เจ้าจอมอาบ\" หนึ่งในห้าเจ้าจอม \"ก๊กออ\" อันลือลั่น

เจ้าจอมมารดาอ่อน

         เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ ผู้บิดาเป็นบุตรของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ กับหม่อมหรุ่น ซึ่งสืบเชื้อสายจากเฉกอะหมัด วานิชชาวเปอร์เซียที่เข้ามาค้าขายในไทยช่วงกรุงศรีอยุธยา ส่วนมารดาคือ ท่านผู้หญิงอู่ เป็นบุตรีของพระยาภักดีนฤบดินทร์ (กุ้ง วงศาโรจน์) เจ้าเมืองราชบุรีคนที่ 5

          แรกเริ่มมีเจ้าจอมมารดาอ่อน และเจ้าจอมเอี่ยม เริ่มเข้าถวายตัวเป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในปี พ.ศ. 2428-9 ตามมาด้วยเจ้าจอมเอิบในปี พ.ศ. 2429, เจ้าจอมอาบในปี พ.ศ. 2434 และเจ้าจอมเอื้อนในปี พ.ศ. 2447

สิ้น \"เจ้าจอมอาบ\" หนึ่งในห้าเจ้าจอม \"ก๊กออ\" อันลือลั่น

เจ้าจอมเอี่ยม

          ซึ่งเจ้าจอมท่านสุดท้ายนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสขอเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์และท่านผู้หญิงอู่เพื่อให้มีจำนวนครบห้าคน               สำหรับ เจ้าจอมมารดาอ่อน ได้สนองพระเดชพระคุณประสูติกาลพระราชธิดาสองพระองค์คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรประพันธ์รำไพ และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอดิศัยสุริยาภา

          ส่วนเจ้าจอมเอี่ยม ตั้งครรภ์พระองค์เจ้าแต่ตกเสียไม่เป็นพระองค์สองครั้ง ขณะที่เจ้าจอมท่านที่เหลือมิได้ให้ประสูติกาลพระราชบุตรเลย

สิ้น \"เจ้าจอมอาบ\" หนึ่งในห้าเจ้าจอม \"ก๊กออ\" อันลือลั่น

เจ้าจอมเอิบ

          อย่างไรก็ตามเจ้าจอมก๊กออทั้งห้าเป็น "พระสนมคนโปรด" ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (มีเพียงเจ้าจอมอาบเท่านั้นที่มิได้เป็นพระสนมเอก)

          ส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเพราะความซื่อสัตย์และจงรักภักดีของผู้เป็นบิดา คือ เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์

           แต่อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ผูกพระราชหฤทัยมิเสื่อมคลาย และทำให้ "เจ้าจอมก๊กออ" เป็นที่โปรดปรานเป็นระยะเวลามากว่า 30 ปี ก็คือ "คุณสมบัติพิเศษ" ของเจ้าจอมก๊กออในแต่ละท่าน

          อาทิ เจ้าจอมเอี่ยม เป็นผู้ชำนาญงานนวด เพราะได้ศึกษาเกี่ยวกับกายภาพจนทราบดีถึงกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รู้จังหวะหนักเบาในการกดคลึง ทำให้หายขบเมื่อยและรู้สึกเบาสบาย

          ส่วนเจ้าจอมเอิบ เป็นผู้ที่มีไหวพริบและเอกอุในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีหน้าที่ในการแต่งฉลองพระองค์ของพระราชสวามี, มีความสามารถในการถ่ายภาพ และสามารถทำอาหารได้พิถีพิถันต้องพระราชหฤทัยโดยเฉพาะ "การทอดปลาทู"

สิ้น \"เจ้าจอมอาบ\" หนึ่งในห้าเจ้าจอม \"ก๊กออ\" อันลือลั่น

 เจ้าจอมเอื้อน

          อย่างไรก็ดี หลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เหล่าเจ้าจอมก๊กออและพระราชธิดาทั้งสองคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรประพันธ์รำไพ และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอดิศัยสุริยาภายังคงพำนักอยู่ในในวังสวนสุนันทา

สิ้น \"เจ้าจอมอาบ\" หนึ่งในห้าเจ้าจอม \"ก๊กออ\" อันลือลั่น

เจ้าจอมอาบและเจ้าจอมเอื้อน

          แต่ต่อมาภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เจ้าจอมก๊กออได้ย้ายไปมาอยู่ที่เรือนสร้างใหม่ริมคลองสามเสนกับถนนนครราชสีมา โดยสร้างบนที่ดินพระราชทานกันคนละแปลงแบ่งเป็นสัดส่วน เรียกว่า "สวนนอก" ส่วนของเจ้าจอมมารดาอ่อนและพระราชธิดาเรียกว่า วังสวนปาริจฉัตก์ หรือ สวนท่านอ่อน ส่วนที่เป็นของท่านเจ้าจอมน้องๆ ทั้งสี่ท่านที่เหลือ ก็เรียกตามชื่อตัวว่า สวนท่านเอิบ, สวนท่านอาบ และสวนท่านเอี่ยม ตามลำดับ และพำนักอยู่จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรม

สิ้น \"เจ้าจอมอาบ\" หนึ่งในห้าเจ้าจอม \"ก๊กออ\" อันลือลั่น

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉายกับ เจ้าจอมอาบ (ซ้าย) และเจ้าจอมเอี่ยม เจ้าจอมเอื้อน

         ส่วนเจ้าจอมก๊กออที่ถึงแก่อสัญกรรมเป็นลำดับท้ายสุดคือ เจ้าจอมมารดาอ่อน ที่ถึงแก่อสัญกรรมในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเมื่อปี พ.ศ. 2512 สิริอายุได้ 101 ปี

///////////

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก วิกิพีเดีย