วันนี้ในอดีต

14 พ.ย.2551 "เราเลิกกันเถอะ" ลับ ลวง จริง ภาคพิเศษ!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ครอบครัวของผมเอง มีคุณอ้อ (คุณหญิงพจมาน) เป็นเสาหลักสำคัญ เป็นคู่คิด คู่ชีวิต ผ่านทุกข์สุขมาด้วยกันมากมาย ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ต่างประเทศ

          อื้อหือ!!! ช่างไปขุดค้นมาจนได้ อย่าเพิ่งต่อว่าต่อขานกันแบบนี้ เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ในอดีต อดไม่ได้ที่จะหยิบยกเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง ก็มันฮอตจริงๆ อ่ะ!!

          โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 10 ปีก่อน หรือวันที่ 14 พ.ย.2551 อันเป็นเรื่องราวที่คนไทยเห็นข่าวพาดหัวแล้ว...ต้องครางฮือ

          เมื่อพบว่า คู่รัก “ผัวแก้วเมียขวัญ” ที่อยู่กินกันมากว่า 32 ปี ต้องมาจรดปากกาเซ็นต์ใบหย่าทางใครทางมันกันในที่สุด!

          โดยข่าวกระจายอย่างกว้างขวางในเช้าของวันที่ 15 พ.ย. ระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และ คุณหญิงพจมาน ได้ตัดสินใจแยกทางกันแล้ว โดยทั้งคู่ทำการจดทะเบียนหย่าที่กงสุลไทย ในฮ่องกง

14 พ.ย.2551  "เราเลิกกันเถอะ"  ลับ ลวง จริง ภาคพิเศษ!!

          แน่นอน คนไทยย่อมควานหาสาเหตุของการหย่าร้างว่ามีที่มาจากเหตุใดกันแน่ ในขณะที่สื่อบางค่ายบอกเลย ซัดรัวๆ พาดหัวข่าวว่า

          “ทักษิณ-พจมาน” หย่ากันแล้ว! เมียสุดทนรับสภาพ - “แม้ว” เดินเกมเต็มสูบ" (https://mgronline.com/politics/detail/9510000135447)

          หลังจากนั้น รายละเอียดข่าวก็ทยอย ออกสู่ประชาชน ระบุว่าเมื่อวันที่ 14 พ.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีภัยการเมืองไปต่างประเทศนั้น พร้อมคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา ได้เดินทางไปจดทะเบียนหย่าที่สถานกงสุลใหญ่ไทยประจำฮ่องกงแล้ว หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางไปที่รัฐดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

          ข่าวยังระบุอ้างแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุถึงสาเหตุการหย่าว่า เนื่องจากคุณหญิงพจมานไม่เห็นด้วยที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเล่นการเมืองต่อไปอีก

          เพราะที่ผ่านมาครอบครัวถูกแรงกดดันจากการเมืองอย่างมาก คุณหญิงพจมานพยายามหลายครั้งแล้วที่จะกล่อมให้ พ.ต.ท.ทักษิณเลิกเล่นการเมือง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ยอมวางมือ ทำให้ถูกแรงกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คุณหญิงพจมานรับไม่ได้กับสภาพการณ์เช่นนี้ และออกปากขอหย่าในที่สุด

          เวลานั้น สำหรับลูกทั้ง 3 คน คือ พานทองแท้, พิณทองทา และ แพทองธาร ชินวัตร ต่างก็รับทราบเรื่องแล้ว แต่ละคนก็พยายามทำใจกันอยู่

          ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณหลังจากทำใจได้แล้วคงจะเปิดฉากแสดงบทบาททางการเมืองมากขึ้น

          โดยยังมีข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา ช่วงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 รายงานระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณเล่าว่าครอบครัวได้ออกจากประเทศไปอยู่ด้วยกันช่วงหนึ่ง ต่อมาคุณหญิงพจมานอยากกลับเมืองไทย เนื่องจากคิดถึงเพื่อนและญาติ พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่า เขาต้องการกลับมาเพื่อต่อสู้ทางการเมืองอีกครั้ง คุณหญิงพจมานบอกว่าเข้าใจและเห็นใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการต่อสู้ทางการเมือง แต่เธอไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก

          พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าการจดทะเบียนหย่าเป็นความต้องการของคุณหญิงพจมาน 

14 พ.ย.2551  "เราเลิกกันเถอะ"  ลับ ลวง จริง ภาคพิเศษ!!

          “คุณหญิงพจมานบอกว่า ปล่อยให้เธอกลับบ้าน ส่วนคุณจะทำอะไรก็เรื่องของคุณ อย่าเอาเธอไปเกี่ยวข้องกับการเมืองในทุกกรณี”

           การจดทะเบียนหย่าเกิดจากความเข้าใจซึ่งกันและกัน และเราต้องดูแลลูก เรายังมีเพื่อนโดยจดทะเบียนหย่าขาดกันที่กงสุลไทยในฮ่องกงในเดือน พ.ย. 2551

           เราต้องต่อสู้อีกมาก เธอพูดอีกครั้งว่า “ไม่ชอบการเมือง แต่เธอเข้าใจดีว่าถ้าผมไม่ต่อสู้ ผมจะไม่มีวันได้กลับบ้าน” คุณหญิงพจมานบอกว่า “ดังนั้นก็ควรจะให้ฉันอยู่คนเดียว”

          พ.ต.ท.ทักษิณเล่าว่า หลังจากจดทะเบียนหย่าก็ไม่ได้พบกันอีก เขารู้สึกเสียใจมาก แต่ได้ติดต่อกันทางโทรศัพท์เพราะจะต้องให้คำปรึกษาในเรื่องลูก เรื่องทรัพย์สิน เรื่องคดีความที่ถูกกลั่นแกล้งซึ่งต้องปรึกษาหารือกันอย่างมาก (https://www.isranews.org/isranews-scoop/25064-tk.html)

         แต่ไม่ว่าจะยังไง ยังมีอีกหลายคน ที่เชื่อว่าการหย่าครั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุผลทางการเมืองทั้งสิ้น โดยที่ทั้งคู่มิได้หมดรักจากกัน หรือเกี่ยวข้องกับข่าวคราวความหวือหวาที่สื่อพยายามนำประเด็นหญิงสาวคนอื่นๆ มาเกี่ยวข้องเลย

          การหย่าครั้งนี้จึงอาจเป็นการ "หย่าการเมือง" คือ มิได้เลิกรากันจริงๆ นี่คือลับ ลวง พรางเท่านั้น!?         

       ซึ่งแนวคิดนี้ สอดคล้องกับความคิดเห็นในโลกโซเชียลอย่าง “พันทิป” มีการตั้งกระทู้เรื่องนี้ ก็ได้มีคอมเม้นท์เข้ามาตอบอย่างมากมายเช่น

       “เขาเซฟลูกเมียให้ปลอดภัยจากกฎหมายครับ”

       “หย่ากัน จะทำธุรกรรมอะไรต่อไปนี้ ก็ไม่ต้องให้คู่สมรสเซ็นต์ยินยอมนะครับ อยู่กันคนละประเทศนะครับ ยังงี้ดีแล้ว”

14 พ.ย.2551  "เราเลิกกันเถอะ"  ลับ ลวง จริง ภาคพิเศษ!!

        "นักธุรกิจ ส่วนใหญ่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีปัญหา สภาพคล่องทางการเงิน เขาจะจดทะเบียนอย่าไว้ก่อนเพื่อป้องกัน ภาระผูกพันธ์ทางกฏหมาย ก็แค่นั้นเอง"

         และบางคอมเม้นท์ที่กล่าวว่า "ส่วนตัวคิดว่า เพราะคุณหญิงต้องอยู่ดูแลธุรกิจและครอบครัวที่เมืองไทย การหย่าเป็นการวางแผนเพื่ออนาคตของทุกคนในสครอบครัวให้ขับเคลื่อนต่อไปได้"

          “...ไม่มีอะไรให้เล่นงาน ก็เริ่มขุดเรื่องส่วนตัวมาเล่น ไม่โอเคนะคะ” อันนี้ก็สะเทือนใจคนเขียนคอลัมน์เหมือนกัน (ฮา)

          แต่เอาน่า ในเมื่อเป็นคนดังระดับประเทศ หรือเผลอๆ จะระดับนานาชาติด้วยซ้ำ ก็อดไม่ได้ เลยต้องขอย้อนรอยความหวานของคนคู่นี้สักนิด

          ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้พบรัก คบหาดูใจ กระทั่งสมรสกับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ (ปัจจุบันใช้ พจมาน ณ ป้อมเพชร) หลังลาออกจากราชการตำรวจ ในปี พ.ศ. 2523

14 พ.ย.2551  "เราเลิกกันเถอะ"  ลับ ลวง จริง ภาคพิเศษ!!

ภาพจากไอจีอุ๊งอิ๊ง โพสต์ภาพเก่าทักษิณ-คุณหญิงอ้อ วันวานยังหวานอยู่

          ครั้งหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เคยกล่าวถึงอดีตภรรยาและครอบครัวไว้ในหนังสือ ‘ทักษิณ ชินวัตร ตาดูดาว เท้าติดดิน’ ของสำนักพิมพ์มติชน ตอนหนึ่งว่า

          “รากฐานชีวิตที่สำคัญที่สุดนั้นคือ ครอบครัว ครอบครัวเป็นกำลังใจที่ดีที่สุด ยามเราท้อแท้แทบยอมแพ้ ครอบครัวจะเป็นกองหนุนอันแข็งแกร่งให้เราลุกขึ้นฝ่าฟันอุปสรรค และด้วยความรักที่เรามีต่อครอบครัว ถึงจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน เวลาหันกลับมามองลูกที่ให้กำเนิด เมียที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมานาน เราก็จะมีแรงฮึดสู้เสมอ”

          “สำหรับผม ชีวิตที่แท้จึงเป็นครอบครัว พ้นจากครอบครัวไปก็คือภารกิจ เช่น งานในบริษัทเมื่อทำธุรกิจอยู่ และขณะนี้คือหน้าที่ด้านการเมือง อย่างไรก็ตาม ต่อให้เราประสบความสำเร็จขนาดไหน เราก็ต้องมีวันหมดเทอม มีวันเกษียณ มีวันสิ้นสุดแรง แล้วเราก็ต้องกลับไปหาครอบครัว เพราะถึงจะเป็นคนเด่นดังบนเวที ประชาชนปรบมือให้ทั่วประเทศ แต่ผู้ที่อยู่เคียงข้างตอนป่วย ผู้ที่จัดงานศพให้เรา ยังคงเป็นครอบครัว...”

14 พ.ย.2551  "เราเลิกกันเถอะ"  ลับ ลวง จริง ภาคพิเศษ!!

          หรืออีกครั้ง ที่เขาเคยพูดถึงเมียรัก ในหนังสือ ‘คุณหญิงพจมาน ชินวัตร คือคนที่ยืนเคียงข้าง’ ของ ณัฐนันท์ ศิริเจริญ ไว้ตอนหนึ่งว่า

          “ครอบครัวของผมเอง มีคุณอ้อ (คุณหญิงพจมาน) เป็นเสาหลักสำคัญ เป็นคู่คิด คู่ชีวิต ผ่านทุกข์สุขมาด้วยกันมากมาย ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ต่างประเทศ กระทั่งสร้างธุรกิจอย่างยากลำบากจนตั้งตัวได้สำเร็จ คุณอ้อเป็นกำลังสำคัญ”

          ขณะที่ในงานครบรอบวันเกิดปีที่ 48 ของคุณหญิงพจมานนั้น อดีตสามียังกล่าวอย่างให้ความสำคัญว่า

         “ขอเรียนว่า วันนี้เป็นวันพิเศษของผม ผมให้ความสำคัญวันนี้มากกว่าวันเกิดผมเอง เพราะวันนี้ยอมรับว่าผมรายได้ไม่พอรายจ่าย เงินเดือน 9 หมื่นกว่าบาท แต่มีลูกสองร้อยกว่าคน (ส.ส.ในพรรคไทยรักไทย) เพราะฉะนั้นผมไม่มีตังค์พอใช้ ต้องขอเมีย วันนี้สำคัญกว่าแน่นอน ขอขอบคุณ ส.ส.ที่มา เพราะผมก็ต้องขอเงินเมีย ไม่อย่างนั้นพรรคจะเปิดแคมเปญได้อย่างไรในการเลือกตั้งงวดหน้า แต่ฝ่ายจัดหาอยู่ที่นี่..”

14 พ.ย.2551  "เราเลิกกันเถอะ"  ลับ ลวง จริง ภาคพิเศษ!!

         ก็ชัดเจนว่า คุณหญิงอ้อมีความสำคัญกับคนชื่อแม้วขนาดไหน

         และคนไทยทุกคนรู้กันดีหมดแล้วว่า บทบาทของคุณหญิงพจมาน แม้จะไม่ปรากฏชัดว่ามาเจ้ากี้เจ้าการอะไรในทางการเมืองของอดีตสามี

        แต่หากไปถามคนใกล้ตัวแล้ว ต่างพูดตรงกันว่า สตรีคนนี้คือผู้ที่มีบทบาทสูงยิ่งต่อชีวิตของคนชื่อทักษิณ!!

         แล้วก็ไม่รู้ทำไม แม้ขนาดที่ทั้งคู่เป็นอดีตสามีภรรยาต่อกันไปแล้วถึง 10 ปีจนถึงวันนี้ แต่ลึกๆ ในใจคนไทยบางกลุ่มบางคน ก็ยังเชื่อว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป นอกจากกระดาษใบเดียว และระยะทางที่ห่างกันแค่นั้น...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ