31 พ.ค.2525 ตำนานนักสู้สะท้านโลกันต์ สู่ชีวิตพลิกผันของโผน
จุดเด่นที่หมัดแยปรวดเร็ว ฟุตเวิร์กคล่องแคล่ว หาจังหวะชกฉาบฉวยได้ดี และมีปฏิภาณไหวพริบในการชก ไม่ใช่มวยหมัดหนักแบบ "โป้งเดียวจอด"
วันนี้เมื่อ 36 ปีก่อน คือวันที่อดีตนักมวยขวัญใจชาวไทย ผู้โด่งดังสุดขีด เป็น “วีรบุรุษนักชก” ต้องจบชีวิตลงอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด! ซึ่งอันที่จริง ชีวิตของเขาก็มีเรื่องไม่คาดคิดหลายอย่าง แม้จนวาระบั้นปลายของชีวิตช่วงสุดท้าย!
แต่เชื่อว่าสิ่งที่หนึ่งที่อยูในใจคนไทยทุกคนที่รู้จักเขา ก็คือ การที่เขาสามารถคว้าแชมป์โลก ชาวไทยคนแรกได้ในประวัติศาสตร์!!
และเพื่อเป็นการไว้อาลัย รำลึกถึง ตลอดจนส่งต่อเรื่องราวให้คนไทยรุ่นหลังได้รู้จักเขา วันนี้ในอดีตจึงขอนำประวัติชีวิตของเขามาบอกเล่ากันอีกครั้ง
โผน มีชื่อจริงว่า “มานะ สีดอกบวบ” มีชื่อเล่นว่า “แกละ” เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2478เขาเป็นบุตรคนที่ 7 ในจำนวน 9 คน ของนายห้อย และนางริ้ว สีดอกบวบ โดยเป็นชาวหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยกำเนิด
โผนเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมสาธุการจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วจึงเรียนต่อที่โรงเรียนประจำอำเภอหัวหิน จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากนั้น จึงไปเรียนที่โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย จบการศึกษาระดับมัธยมปีที่ 6
ด้วยความเป็นคนรักกีฬา ชอบเล่นกีฬาทุกประเภท แต่ที่ชอบมากที่สุด คือ มวยสากล ถึงขนาดเคยลั่นวาจาต่อหน้าเพื่อนๆ ว่า เขาจะเป็นแชมป์โลกคนแรกของไทยให้ได้ (เนื่องด้วยก่อนหน้านั้น จำเริญ ทรงกิตรัตน์ เคยชิงแชมเปี้ยนโลกมาแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ)
ตอนแรกโผนชกอยู่ที่บ้านเกิด จนกระทั่งพี่ชาย หรือ สง่า สีดอกบวบ พี่ชายคนโต มองการณ์ไกล พาน้องชายของเขาก้าวเข้าสู่โกลแห่งสังเวียนผ้าใบ โดยการชกมวยสากลอาชีพอย่างจริงจัง โดยไปฝากน้องรักไว้กับ นายห้าง ทองทศ อินทรทัต เจ้าของค่ายมวย “กิ่งเพชร” ย่านถนนเพชรบุรี (ซอยเพชรบุรี 10) ช่วงปี 2497
และฉายา โผน กิ่งเพชร ของเขาก็ได้มาจากที่นี่ โดยมีตำนานว่า ที่มาของชื่อ “โผน” นั้น เป็นชื่อของน้องชายนายห้างทองทศ ซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์กบฏวังหลวง พ.ศ. 2492 ซึ่งก็คือ พ.ต. โผน อินทรทัต อดีตเสรีไทย และผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ ในขณะนั้น
ที่สุด ฝีมือของโผนพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนใครก็รั้งไว้ไม่อยู่ ขึ้นชกครั้งแรกช่วงปี 2498แพ้บ้างชนะบ้าง แต่ในที่สุดการชกครั้งที่ 3 ในชีวิต ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จัก นั่นคือ การชนะน็อก “กู้น้อย วิถีชัย” แชมป์ฟลายเวทของเวทีมวลราชดำเนิน เมื่อ 14 กรกฎาคม 2499ทั้งๆ ที่โผนยังอ่อนประสบการณ์กว่ามาก!
ต่อมา โผนขึ้นหม้อจนได้ครองแชมป์เวทีมวยราชดำเนิน ชกชนะนักมวยชื่อดังในรุ่นฟลายเวต และแบนตัมเวทในยุคนั้นมาแล้วหลายคน เช่น บุญธรรม วิถีชัย, พร พัลธุมเกียรติ, สมยศ สิงหพัลลภ, ประยุทธ ยนตรกิจ เป็นต้น
ที่สุด โผนขึ้นชกกับนักมวยต่างชาติครั้งแรกเมื่อ 29 กรกฎาคม 2499 ชนะน็อค มินธัม กัมพุช แชมป์รุ่นแบนตัมเวทของกัมพูชา และได้ขึ้นชิงแชมป์ภาคตะวันออกไกลฯ (OPBF) โดยชนะคะแนน แดนนี่ คิด เจ้าของตำแหน่งชาวฟิลิปปินส์ โผนจึงได้มีชื่อติดอันดับโลก และเป็นการกรุยทางสู่การชิงแชมป์โลก ซึ่งก็เป็นที่มาของการชกครั้งที่ตราตรึงคนไทยมากที่สุด
คือ การขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทกับ “ปาสคาล เปเรซ” เจ้าของตำแหน่งในขณะนั้นชาวอาร์เจนตินา ซึ่งโผนชนะคะแนนได้เป็นแชมป์โลกคนแรกของไทยตามที่ตั้งใจไว้ แม้จะเสียตำแหน่งไป โผนก็ยังชิงแชมป์คืนกลับมาได้ ได้เป็นแชมป์โลกถึงสามสมัยก่อนจะแขวนนวมไป
มีข้อมูลที่บอกเล่าถึงความโด่งดังสุดขีดของ “โผน กิ่งเพชร” ได้เเป็นอย่างดี คือ ในการชกชิงแชมป์โลกของโผน กับ ปาสคาล เปเรซ แชมเปี้ยนชาวอาร์เจนตินา ณ เวทีมวยลุมพินี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2503 นั้น ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรด้วย
การชกในวันนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน โดยมีการแต่งเพลงออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงด้วยทำนองเพลงกราวกีฬาว่า
“วันที่ 2 เมษามหาฤกษ์ ชาวไทยเอิกเกริกกันทั่วหน้า โผนจะได้ชิงมงกุฏสุดโสภา เป็นมิ่งขวัญประชาชาติไทย”
โดยก่อนถึงวันชก มีการโปรโมตตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น แต่งเพลงเชียร์โผนเป็นทำนองเพลงมาร์ช ปลุกใจ ตามวิทยุ หรือ รถกระจายเสียง ซึ่งผู้แต่ง คือ สุรพล โทณะวณิก และผู้ขับร้อง คือ มีศักดิ์ นาครัตน์ มีเนื้อร้องบางช่วงว่า
“เราเชียร์โผน...เราเชียร์โผน...เราเชียร์โผน..โผน...โผน...โผน...โผน เปเรซจะแข็งอย่างไร แต่โผนเลือดไทย....ต้องเชียร์ไว้ดีกว่า.....”
แต่ก็มีเด็ก ๆ ไปแปลงเนื้อเป็น “โผน กิ่งเพชร เปเรซ กิ่งไผ่ โผน มือไวต่อยไข่ เปเรซ”
นี่ก็คือสิ่งตอกย้ำว่า โผน กิ่งเพชร โด่งดังเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รักของทุกคนขนาดไหน!
ที่สุด โผนเป็นแชมป์โลกคนแรกของประเทศไทย โดยชนะคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ 15 ยก เหนือ ปาสคาล เปเรซ ซึ่งการชิงแชมป์โลกครั้งนั้นได้รับการรับรองโดยสมาคมมวยนานาชาติ (NBA ซึ่งคือ WBA ในปัจจุบัน) ในเวลาเดียวกัน ในสมัยนั้นถือว่าโผนเป็นแชมป์ฟลายเวตของโลก เพราะไม่ได้แยกสถาบันอย่างชัดเจนเหมือนตอนนี้
สำหรับ ชีวิตครอบครัว หลังจากได้เป็นแชมป์โลกแล้ว โผนจึงรู้จักกับ มณฑา เพชรไทย ซึ่งเป็นบุตรสาวของ พ.ต.ต. พยุง เพชรไทย แต่งงานกันเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ก่อนที่โผนจะไปป้องกันแชมป์โลกกับไฟติ้ง ฮาราด้า โผนมีบุตรสาว 2 คน
อย่างไรก็ดี หลังจากนั้น โผนผ่านการชกท้าชิงอีกหลายครั้ง และในที่สุดก็ได้เจอกับผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่นอีก คือ เอบิฮาร่า โดยชกกันเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2506 และโผนก็ตกเป็นฝ่ายแพ้น็อกในเพียงแค่ยกแรกเท่านั้น แต่ต่อมาก็สามารถชกแก้มือ ชิงแชมเปี้ยนโลกคืนจากเอบิฮาร่าได้อีกเป็นสมัยที่สาม
แต่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตแชมเปี้ยนโลกของโผน เขากลับติดสุราอย่างแรง ผลการชกก็ตกลงเรื่อยๆ จนเสียตำแหน่งแชมเปี้ยนโลกให้กับ ซัลวาโตเร่ เบอรูนี่ ที่อิตาลี
โผนชนะ ทีเคโอ ปาสคาล เปเรซ ที่ โอลิมปิก ออดิทอเรียม ลอส แอนเจลิส
ทั้งนี้ โผนเป็นนักมวยที่มีจุดเด่นที่หมัดแยปรวดเร็ว ฟุตเวิร์กคล่องแคล่ว หาจังหวะชกฉาบฉวยได้ดี และมีปฏิภาณไหวพริบในการชก ไม่ใช่มวยหมัดหนักแบบ “โป้งเดียวจอด”
เมื่อโผนเลิกชกมวยแล้ว เคยมีนักมวยรุ่นหลังมาฝึกมวยกับโผนหลายคน รวมทั้ง พเยาว์ พูนธรัตน์ ส่วน ชาติชาย เชี่ยวน้อย แชมป์โลกคนที่ 2 เคยมาเป็นคู่ซ้อมของโผนอยู่ระยะหนึ่ง เมื่อราว พ.ศ. 2519 - 2520 มีชาวญี่ปุ่นมาเชิญโผนไปสอนมวยสากลที่ญี่ปุ่น แต่โผนปฏิเสธ โดยกล่าวว่าเขาไม่ต้องการให้วิชามวยนี้ไปอยู่ต่างประเทศ แต่ไม่มีหน่วยงานใดๆ ในไทยมาเชิญโผนไปสอนมวยสากลอย่างจริงจัง ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นมีฟิล์มภาพยนตร์บันทึกภาพการชกของโผนไว้ศึกษาในพิพิธภัณฑ์
แต่อีกด้านหนึ่งชีวิตของโผน ก็ตกต่ำอย่างที่สุด เพราะทรัพย์สินเงินทองเมื่อครั้งได้จากการชกมวยก็ร่อยหรอ แม้แต่โรงเรียนมานะวิทยา ที่เคยสร้างไว้ที่บ้านเกิด เมื่อครั้งรุ่งเรือง ก็ต้องขายทิ้ง ประกอบอาชีพค้าขายก็ขาดทุน เพราะไม่เจนจัดเล่ห์เหลี่ยมการค้า ส่วนตัวโผนเองก็มีโรคประจำตัวเรื้อรังคือ โรคเบาหวาน
ท้ายที่สุด ขณะรับประทานอาหารกับครอบครัวที่บ้านหัวหิน อาหารเกิดสำลักเข้าไปติดอยู่ในหลอดลม ทำให้เกิดการบูดเน่าและโลหิตเป็นพิษ อาการของโผนทรุดหนัก เพราะเป็นหวัดอยู่ด้วยและเป็นโรคปอดแทรกซ้อนเข้ามา ครอบครัวต้องนำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นการด่วน อาการก็ไม่ดีขึ้น จนในที่สุด เวลา 5 ทุ่ม ของคืนวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 โผนก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ด้วยวัยเพียง 47 ปี 3 เดือน 20 วัน
ขอรำลึกวีรบุรุษนักชก โผน กิ่งเพชร มา ณ ที่นี้!
//////////////////
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากวิกิพีเดีย
และคลิป Youtube // user: tuxtucis