วันนี้ในอดีต

28 มีนาคม 2481 รู้จัก "ดาวสภา" ตกเก้าอี้ และสาเหตุทำเอาอึ้ง!

28 มีนาคม 2481 รู้จัก "ดาวสภา" ตกเก้าอี้ และสาเหตุทำเอาอึ้ง!

28 มี.ค. 2561

นายอินทร สิงหเนตร ผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ได้ชื่อว่าเป็น "ดาวสภา" คนหนึ่ง ได้อภิปรายคัดค้านในสิ่งหนึ่งที่ทำเอาต้องหลุดจากเก้าอี้ ส.ส.!!

                วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทยชนิดที่ทำเอาหลายคนอดคิดไม่ได้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในการเมืองไทย!

                เมื่อสภาผู้แทนราษฎรของไทย ที่ใช้ระบบสภาเดี่ยว ได้มีมติ “ขับ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วยกันออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

                เรื่องนี้มีข้อมูลจาก สถาบันพระปกเกล้า เรียบเรียงโดย ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร เล่าว่า ก่อนจะมีเหตุการณ์นี้ ย้อนไปสัก 3 วันคือในวันที่ 25 มีนาคม 2481 สภาผู้แทนราษฎรได้ประชุมหารือกันเรื่องที่จะกำหนดวันเปิดประชุมสามัญประจำปี

                ในการหารือวันนั้น ผู้เสนอญัตติในเรื่องนี้ เป็นผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งในจ.ยะลาจากภาคใต้ของประเทศ ไทย ชื่อแวเละ เบญอานัชร์ และก็ได้มีผู้เสนอในสภาผู้แทนราษฎรว่าให้กำหนดเอาวันที่ 24 มิถุนายน โดยถือว่าเป็นวันสำคัญของประเทศชาติ เพราะเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ

                ข้อเสนอที่ว่านี้ฟังดูก็น่าจะดี แต่ในรัฐสภานั้นจะให้มีเสียงเห็นด้วยโดยไม่มีเสียงคัดค้านนั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่มีคนไม่เห็นด้วย ผู้ไม่เห็นด้วยเป็น ส.ส.มาจากการเลือกตั้งเหมือนกัน แต่มาจากภาคเหนือ คือจากจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ “อินทร สิงหเนตร

 

28 มีนาคม 2481 รู้จัก \"ดาวสภา\" ตกเก้าอี้ และสาเหตุทำเอาอึ้ง!

 

                ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ บันทึกเล่าตอนนี้เอาไว้ว่า

                “นายอินทร สิงหเนตร ผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “ดาวสภา” คนหนึ่ง ได้อภิปรายคัดค้านความว่า การที่ถือเอาวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันสำคัญของชาตินั้นไม่เห็นด้วย เพราะวันนั้นหากผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองทำการไม่สำเร็จก็ต้องเป็น “วันกบฏ” และเสนอความเห็นว่าควรเป็น “วันที่ 27 มิถุนายน” เพราะเป็นวันที่ราษฎรได้รับพระราชทานรัฐธรรมนูญ”

                คำพูดของอินทร สิงหเนตร ทำให้มีผู้ไม่พอใจ!

                “นายซิม วีระไวทยะ สมาชิกประเภทที่ 2 ได้ประท้วงคำกล่าวนั้น และขอให้ผู้กล่าวถอนคำพูดที่ว่า วันที่ 24 มิถุนายนเป็นวันกบฏเพราะได้มีการนิรโทษกรรมแล้ว นายอินทร สิงหเนตร ได้ยอมถอนคำพูดตามที่มีสมาชิกทักท้วง” ที่ประชุมก็ตกลงกันได้เรื่องกำหนดวัน โดยให้เริ่มสมัยประชุมในวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งทุกคนที่อยู่นอกสภาก็คิดว่าเรื่องคงจบแค่นี้

                ที่ไหนได้ อีก 3 วันต่อมา ในวันที่ 28 มีนาคม 2481 ได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง และประเภทที่ 2 ที่มาจากการแต่งตั้ง ได้ร่วมกันเสนอญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎร ว่าการอภิปรายของอินทร สิงหเนตร เมื่อ 3 วันก่อนนั้นมีเจตนาร้าย มีความมุ่งหมายให้มีการดูหมิ่นเกลียดชังระบอบประชาธิปไตยไม่สมควรเป็นผู้แทนราษฎรในระบอบที่เป็นอยู่ในเวลานั้น โดยมีผลตามที่ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ บันทึกเอาไว้ว่า

                “ที่ประชุมลงมติให้นายอินทร สิงหเนตร ออกจากสมาชิกภาพด้วยคะแนน 113 ต่อ 15 ซึ่งเกินกว่าจำนวน 2 ใน 3 ของสมาชิก ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ นายอินทร สิงหเนตร จึงพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร”

                ทั้งนี้ เหตการณ์นี้เกิดขึ้นสมัยที่รัฐบาลมีหลวงพิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี มีพระยามานวราชเสวี เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร

                กล่าวสำหรับ อินทร สิงหเนตร เกิดที่อำเภอเมือง บิดาชื่อ นายดวงชื่น มารดาชื่อนางบัวจันทร นายอินทร เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2440 ตอนที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้นมีอายุประมาณ 35 ปี อายุใกล้เคียงกับผู้ก่อการหลายคน

               ในด้านการศึกษา เรียนจบที่โรงเรียนปริ้นสรอแยลวิทยาลัย แล้วย้ายไปเรียนที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ส่วนการศึกษาระดับอุดมศึกษานั้นก็มาเรียนที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ที่เพิ่งเปิดการเรียนการสอนเมื่อปี 2477 อันเป็นการเปิดสอนแบบ “ตลาดวิชา”

                เล่ากันว่าท่านศึกษาโดยหาตำราอ่านและมาสอบเอาก็ได้เป็นธรรมศาสตร์บัณฑิต และมีอาชีพเป็นทนายความได้ ภรรยาชื่อ เสงี่ยม ชุณหศิริ เป็นทนายความเหมือนกัน

             ท่านได้ลงเลือกตั้งครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2480 ตอนนั้นเชียงใหม่มีผู้แทนได้ 3 คน ท่านลงสมัครในเขต 2 การเลือกตั้งครั้งนั้นประชาชนเลือกตั้งผู้แทนได้โดยตรง และท่านก็ชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้แทนสมใจ

             หลังเลือกตั้งแล้วนายกรัฐมนตรีก็ยังเป็นพระยาพหลพลพยุหเสนาตามเดิม แต่สภาชุดนี้อายุสั้น เพราะมีปัญหาขัดแย้งและรัฐบาลแพ้เสียงในสภา จึงมีการยุบสภา โดยจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ปี 2481ซึ่งนายอินทรก็ลงเลือกตั้งและได้รับเลือกตั้งกลับเข้าสภาอีกครั้ง เข้าสภาครั้งนี้ได้ไม่นานก็เกิดเรื่องที่ทำให้นายอินทรต้องเดือดร้อน

             นั่นก็คือเหตุการณ์ดังข้างต้นที่กล่าวมานั่นเอง 

             ครั้งนั้น การบันทึกของ ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ จึงเป็นบันทึกการให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ้นจากตำแหน่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ส่วนผู้ที่ได้รับเลือกเข้าสภามาแทนอินทร คือ สี่หมื่น มณีสอน

             ต่อมาประเทศอยู่ในภาวะสงครามสมาชิกสภาจึงได้รับการขยายอายุ และมามีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2489 อินทร จึงลงสู่สนามเลือกตั้งอีกครั้งและคนเชียงใหม่ก็เลือกเขาเข้าสภาอีกครั้ง

             2 ปีต่อมาในวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2491ท่านก็ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2492 แต่แล้วต่อมาท่านถูกลอบยิงเสียชีวิตขณะเดินออกกำลังกายในตอนเช้าที่หน้าวัดศรีดอนไชย จังหวัดเชียงใหม่

///////////////////

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก วิกิพีเดีย

และ สถาบันพระปกเกล้า ตามลิงค์นี้ 

http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3_%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3