29 พ.ย 2494 รัฐประหารตัวเอง ถามจอมพล.ป. แบบนี้ก็ได้หรือ?
โดยหลักการแล้ว การทำรัฐประหารตัวเอง คือ รัฐประหารแบบหนึ่งซึ่งผู้นำประเทศ แม้เข้าสู่อำนาจโดยชอบ กลับหันไปใช้วิถีทางอันมิชอบ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจพิเศษ!!!
จะต้องยกเป็นดินแดนแห่งการทำรัฐประหารที่มากที่สุดประเทศหนึ่ง
เพราะประเทศไทยในห้วงปี พ.ศ. 2494 ก็ยังมีการทำรัฐประหารเกิดขึ้นอีก!!! และนี่คือครั้งที่ 5 แถมคราวนี้มาแปลก เพราะเป็นการทำรัฐประหารตัวเอง!!!
หืม ...แบบนี้ก็ได้เหรอ?
ได้สิ และเกิดขึ้นแล้ว เมื่อวันนี้ของ 66 ปีก่อน ในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ทำการรัฐประหารขึ้น แต่เป็นรัฐประหารครั้งแรกที่เรียกได้ว่า เป็นการ รัฐประหารตัวเอง หรือการยึดอำนาจตัวเอง!
เหตุเนื่องจาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีขณะนั้น อ้างว่าไม่ได้รับความสะดวกในการบริหารราชการแผ่นดิน เหตุสืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2492 อันเป็นรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ขณะนั้น ไม่เอื้อให้เกิดอำนาจ คือให้ผู้ที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาจะเป็นข้าราชการประจำไม่ได้
การยึดอำนาจกระทำโดยไม่ใช้การเคลื่อนกำลังใดๆ เพียงแต่มีความเคลื่อนไหวโดยมีตำรวจและทหาร รวมทั้งรถถังเฝ้าประจำการในจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มาตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน จนกระทั่งในเวลาหัวค่ำ ของวันที่ 29 พฤศจิกายน ก็ได้มีการประกาศผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ว่า
"บัดนี้คณะนายทหารส่วนใหญ่จากคณะรัฐประหาร พ.ศ. 2490 อาทิ เช่น พลเอกผิน ชุณหะวัณ, พลอากาศเอกฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี, พันเอกสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นต้น ได้กระทำการยึดอำนาจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อผดุงไว้ซึ่งความมั่นคงของประเทศชาติ จากภัยคอมมิวนิสต์ที่กำลังคุกคามอย่างรุนแรง โดยเรียกตัวเองว่า "คณะบริหารประเทศชั่วคราว"
"และได้ความร่วมมือจากทั้ง 3 กองทัพ และตำรวจ ซึ่งมีคำปรารภในการรัฐประหารครั้งนี้ว่า เนื่องจากสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันตกอยู่ในความคับขันทั่วไป ภัยแห่งคอมมิวนิสต์ได้ถูกคุกคามเข้ามาอย่างรุนแรง ในคณะรัฐมนตรีปัจจุบัน นี้ก็ยังดี ในรัฐสภาก็ดี มีอิทธิพลของคอมมิวนิสต์เข้าแทรกซึมอยู่เป็นมาก แม้ว่ารัฐบาลจะทำความพยายามสักเพียงใด ก็ไม่สามารถจะแก้ปัญหา เรื่องคอมมิวนิสต์ได้ ทั้งไม่สามารถปราบการทุจริตที่เรียกว่า คอร์รับชั่น ดังที่มุ่งหมายว่าจะปราบนั้นด้วย ความเสื่อมโทรมมีมากขึ้น จนเป็นทีวิตกกันทั่วไปว่า ประเทศชาติจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในสถานการณ์การเมืองอย่างนี้ จึงคณะทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 คณะรัฐประหาร พ.ศ. 2490"
"พร้อมด้วยประชาชนผู้รักชาติ มุ่งความมั่นคงดำรงอยู่แห่งชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์บรมราชจักรีวงศ์ และระบอบรัฐธรรมนูญ ได้พร้อมกัน เป็นเอกฉันท์ กระทำการเพื่อนำเอารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับลงวันที่ 10 ธันวาคม พุทธศักราช 2475 กลับมาใช้ให้เป็นความรุ่งเรืองสถาพรแก่ประเทศชาติสืบไป"
จากนั้นคณะบริหารประเทศชั่วคราวได้สั่งยกเลิกรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2492 หันกลับไปใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2475 อันเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกมาใช้แทน ซึ่งการรัฐประหารครั้งนี้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นการกระทำที่ประหลาดที่สุดในโลก และเป็นเหตุให้พรรคฝ่ายค้าน คือ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศคว่ำบาตรรัฐบาลทุกประการ เช่น ไม่ร่วมเลือกตั้งในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2495 เป็นต้น
อนึ่ง การรัฐประหารครั้งนี้ได้เกิดขึ้นก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งขณะนั้นได้ประทับอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ จะเสด็จนิวัติพระนครเพียง 2 วันเท่านั้น โดยที่คณะบริหารประเทศชั่วคราว ได้ขอให้ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ลงพระนามในประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ แต่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัตฯ มิได้ทรงลง โดยทรงให้เหตุผลว่า ควรจะยกให้เป็นพระราชวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม ในวันต่อมา ก็ได้มีประกาศว่า คณะรัฐมนตรีชั่วคราว ถืออำนาจแทนพระเจ้าแผ่นดิน ได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญแล้ว
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่ยังมีมุมอื่นให้ศึกษา จากการไฮไลท์ให้ความหมาย และความสำคัญของการทำรัฐประหารครั้งนี้แตกต่างกันไปในบางมุม ใครอยากรู้ลึกซึ้ง ต้องลองค้นคว้ากันดู!
แต่โดยหลักการแล้ว การทำรัฐประหารตัวเอง หรือ self-coup หรือ autocoup ก็คือ รัฐประหารแบบหนึ่งซึ่งผู้นำประเทศ แม้เข้าสู่อำนาจโดยชอบ กลับหันไปใช้วิถีทางอันมิชอบ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจพิเศษที่ไม่อาจมีได้ในสถานการณ์ปรกติ เป็นต้นว่า ยกเลิกรัฐธรรมนูญ แล้วอ้างอำนาจเผด็จการ!!
ก็น่าจะพอทำให้เห็นภาพว่า รัฐประหารของบ้านเราแต่ละครั้ง ไม่ได้เกิดขึ้นเฉยๆ แต่จะเต็มไปด้วยเหตุผลประดามีทั้งสิ้น!!!
////ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย