1 พ.ย.2559 เปิดศูนย์ไซเบอร์กองทัพฯ ภารกิจตะลุยเวบหมิ่นฯ !
1 พฤศจิกายน 2559 อันเป็นวันเปิดป้ายศูนย์แห่งนี้ จึงถือว่าเป็นวันที่ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก ประกาศลั่นกลองรบกับอาชญากรไซเบอร์อย่างเป็นทางการ!
วันนี้ เมื่อปีที่แล้ว ได้มีพิธีเปิดป้ายศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก (ศซบ.ทบ.) ที่่กองบัญชาการกองทัพบก โดยเป็นการแปรสภาพมาจากหน่วยศูนย์เทคโนโลยีทางทหาร
ทั้งนี้ หลังจากบ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ ประกอบกับภัยคุกคามทางคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยข่าวสารข้อมูลที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง โดยเฉพาะเรื่องการหมิ่นสถาบัน จากกลุ่มคนที่มีการโพสต์ข้อความทางสังคมออนไลน์เข้าข่ายหมิ่นหรือผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
และกระทรวงกลาโหม (กห.) กําหนดให้ภัยคุกคามด้านไซเบอร์ เป็นภัยคุมคามที่เป็นภยันตรายต่อความมั่นคงของชาติ และกําหนดให้การป้องกันภัยคุกคามดังกล่าว เป็นภารกิจที่สําคัญของ กห., บก.ทท., และเหล่าทัพ
ดังนั้น ในการนี้ รัฐบาลโดยกองทัพบกฯ จึงได้เอาจริงกับเรื่องนี้ โดยได้กลับมาแปรสภาพ "ศูนย์เทคโนโลยีทางทหาร" ให้มีภารกิจที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม โดยในพิธีเปิดในวันนั้น มี พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก และมี พล.ต.ฤทธี อินทราวุธ ผู้อำนวยศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก ร่วมด้วย
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า กองทัพให้ความสำคัญในเรื่องไซเบอร์ที่เกี่ยวข้อง 1.งานพัฒนากองทัพให้ทันสมัย สอดคล้องกับหน่วยอื่น 2.ปกป้องงานของตัวเองโดยเฉพาะการถูกแทรกแซงจากแฮกเกอร์ 3. งานที่เกี่ยวข้องกับกองปฏิบัติการข่าวสาร ซึ่งได้เน้นย้ำในเรื่องการพัฒนาคนและเครื่องมือ ถือเป็นศูนย์ไซเบอร์กองทัพบกมีพื้นฐานและศักยภาพในการป้องกันอยู่แล้ว
และยังยอมรับว่าในปัจจุบันภัยคุกคามด้านไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงเป็นเรื่องน่าห่วง โดยเฉพาะการเผยแพร่ข้อมูลต่างที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และเป็นลักษณะงานของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และสื่อสารต่อๆกันไปโดยข้อมูลขาดข้อเท็จจริง โดยอาศัยเครื่องมือเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาตลอดเวลา ถือเป็นกระบวนการน่าห่วงและกังวล
"ผมมีความเป็นห่วงเรื่องการบิดเบือนและเผยแพร่ออกไปมีจำนวนเยอะมาก เราต้องสร้างกลไกในการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ทั้งนี้ในแต่ละหน่วยงานของกองทัพบกมีศูนย์ไซเบอร์ของตัวเองอยู่แล้ว แต่ต้องพัฒนากันแต่ไปและฝึกให้ประชาชนรู้จักตระหนักแยกแยะในข้อเท็จจริงก่อนจะเผยแพร่ออกไป โดยเฉพาะการส่งข้อความทางไลน์ โซเชียล เพราะประชาชนไม่รู้ว่าอะไรคือเท็จหรือจริงก็ส่งต่อ ตลอดจนถึงการหมิ่นสถาบัน รวมถึงนักนักวิชาการที่มีการโพสต์ข้อความเข้าข่ายหมิ่นหรือผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา112” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว
ทั้งนี้ หากจำกันได้ ก่อนหน้านี้ ได้เกิดการโจมตี หรือป่วนเว็บหน่วยงานราชการจากกลุ่ม Hacker หรือผู้ไม่หวังดีต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งทางศูนย์ไซเบอร์ก็มิได้นิ่งเฉย ตรงกันข้าม ช่วงที่ผ่านมาเดือนสิงหาคม 2560 มีรายงานว่า กองทัพบก ได้ดำเนินการสร้างความเข้าใจและการดำเนินการทางกฎหมาย
กับทั้งยังมีการเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องด้านไซเบอร์ เช่น การปฏิบัติการไซเบอร์เบื้องต้น การปฏิบัติการไซเบอร์ชั้นสูง Cyber Security นายทหารรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไซเบอร์ และการบริหารจัดการข่าวสารทางไซเบอร์ เป็นต้น
ทำให้หน่วยงานต่างๆ มีเวลาในการพัฒนาองค์กรไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 และเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น และตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559 ถึงเดือน ก.ค. 2560 ตรวจพบเวบที่ผิดกฎหมาย 1171 รายการ โดยมาจาก Facebook จำนวน 441 รายการ ปิดไปแล้ว 411 รายการ, Youtube จำนวน 656 รายการ ปิดไปแล้ว 335 รายการ, Twitter จำนวน 10 รายการ ปิดไปแล้ว 6 รายการ รวมที่ได้รายงานและประสานการปิดกั้นกับ DE, DSI และ ปอท. ได้ปิดกั้นเพิ่มขึ้นรวมทั้งหมด 752 รายการ ที่เหลืออยู่ในระหว่างการดำเนินการ
อนึ่ง ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก เดิมทีมีชื่อเดิมว่า ศูนย์เทคโนโลยีทางทหารกองทัพบก จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2539 โดยมี กองการสงครามสารสนเทศ เพื่อรองรับภัยคุกคามด้านสารสนเทศ
ต่อมาได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 10 พ.ค.2544 และกองทัพบกได้อนุมัติอัตราหน่วย เมื่อ 11 พ.ค.2544 จึงได้ถือกำหนดให้เป็นวันสถาปนาหน่วยขึ้น และเมื่อ 1 ต.ค.2559 ได้แปรสภาพเป็น “ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก” และปรับสายการบังคับบัญชา เป็น หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยมี พลตรี ฤทธี อินทราวุธ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 อันเป็นวันเปิดป้ายศูนย์แห่งนี้ จึงถือว่าเป็นวันที่ ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบกประกาศลั่นกลองรบกับอาชญากรไซเบอร์อย่างเป็นทางการ! และสงครามนี้ก็ยังไม่จบ!