วันนี้ในอดีต

วันนี้ในอดีต ‘รักเกียรติ สุขธนะ’ลาออก รมต.สยบข่าวทุจริตยา

วันนี้ในอดีต ‘รักเกียรติ สุขธนะ’ลาออก รมต.สยบข่าวทุจริตยา

15 ก.ย. 2560

วันนี้ในอดีต 15 ก.ย. 2541 ‘รักเกียรติ  สุขธนะ’ ลาออก รมว.สาธารณสุข เพื่อสยบข่าวทุจริตยา แต่สุดท้ายถูกศาลฎีกาฯจำคุก 15 ปี ฐานรับเงินจากบริษัทยา  

          วันนี้ในอดีต 15 ก.ย. 2541  นายรักเกียรติ สุขธนะ ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข เนื่องจากต้องการยุติข่าวทุจริตการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ราคาแพงของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตใด ๆ

           นายรักเกียรติ เป็นอดีต ส.ส. อุดรธานี7 สมัย และอดีตรัฐมนตรี 5 สมัย โดยในปี 2541 ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง รมว. สาธารณสุข ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยาและมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ 

            นายรักเกียรติ เป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องโทษจำคุกในคดีทุจริตรับสินบน  สืบเนื่องมาจากการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฐานทุจริตรับเงินสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยา ทำให้สาธารณสุขจังหวัดต้องจัดซื้อยาในราคาแพงกว่าปกติตั้งแต่ 50% ถึงกว่า 300% ในพื้นที่ 34 จังหวัดทั่วประเทศ ความเสียหายโดยประมาณ 181.7 ล้านบาท 

           โดยเมื่อวันที่ 28  ต.ค.ปี 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่า จำเลยสำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาตรีทางกฎหมายแต่กลับมาทำความผิดคอร์รัปชันเช่นนี้ จึงเห็นสมควรลงโทษสถานหนัก พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ให้ลงโทษจำคุก 15 ปี นอกจากนี้นายรักเกียรติ ถูกลงโทษจำคุกคดีเช็ค อีก 30 เดือน รวมทั้งสิ้นจำคุก 17 ปี 6 เดือน

            นายรักเกียรติ หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีทุจริตยา จนกระทั่งมีผู้พบเห็นนายรักเกียรติออกกำลังกายในสวนสาธารณะย่านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จึงถูกตำรวจจับกุมตัวมารับโทษตามคำพิพากษาตั้งแต่วันที่ 4  พ.ย. ปี 2547

           ภายหลังที่เข้ารับโทษที่เรือนจำคลองเปรม นายรักเกียรติ ได้รับการลดโทษเหลือ 9 ปี 2 เดือน และ 7 ปี 6 เดือน ตามลำดับ  นายรักเกียรติได้รับโทษจำคุกนานกว่า 5 ปี เหลือโทษจำคุกจริงอีก 2 ปี 6 เดือน หรือประมาณ 1 ใน 3 จึงเป็นคุณสมบัติตามเกณฑ์การขอพักการลงโทษ คณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษฯ จึงอนุมัติให้พักการลงโทษและได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังเรือนจำกลางคลองเปรมเพื่อให้ปล่อยตัวนายรักเกียรติ ออกจากเรือนจำในวันที่ 29  ต.ค. ปี 2552

             นายรักเกียรติ ยังตกเป็นจำเลยในคดีร่ำรวยผิดปกติอีกด้วย โดยก่อนหน้าที่จะถูกลงโทษทางอาญาให้จำคุก นายรักเกียรติ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้ทรัพย์สินของนายรักเกียรติจำนวน 233.88 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน

            นายรักเกียรติ ยังถูกศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ 15 เสียง วินิจฉัยชี้ขาดว่า รักเกียรติ จงใจยื่นบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ สั่งห้ามนายรักเกียรติ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 2543 เป็นต้นไป

          นายรักเกียรติ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาโดยได้รับฉายาว่ารกฺขิตธมฺโม จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่ ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมวังพญานาค วัดใหม่สุขธนะศรีนคราราม บ้านวังชัย ตำบลเวียงคำ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเคยเป็นสำนักงานเก่าเมื่อสมัยเป็นนักการเมือง มีบทบาทในการเทศนาและให้ข้อเตือนใจนักการเมืองทั้งหลายและได้ลาสิกขาบท เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ปี 2556 รวมระยะเวลาบวชทั้งสิ้น 3 ปี 2 เดือน