วันนี้ในอดีต

วันนี้ในอดีต 18 ส.ค. 2558  ระเบิด‘ท่าเรือสาทร’

วันนี้ในอดีต 18 ส.ค. 2558  ระเบิด‘ท่าเรือสาทร’

18 ส.ค. 2560

วันนี้ในอดีต 18 ส.ค. 2558 ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณ‘ท่าเรือสาทร’ ซึ่งแต่ละวัน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากมาโดยสารเรือ เพื่อไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ

            วันนี้ในอดีต 18 ส.ค. 2558  เวลา 13.00 น.  ได้เกิดเหตุระเบิดภายในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ใกล้เคียงสถานีบีทีเอสสะพานตากสิน ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม. โดยที่เกิดเหตุอยู่ห่างทางขึ้นลงสถานีบีทีเอสสะพานตากสิน ประมาณ 50 เมตร นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้โป๊ะ‘ท่าเรือสาทร’ ่ ที่เกิดเหตุพบร่องรอยคราบน้ำสาดกระเซ็นเต็มตอม่อสิ่งปลูกสร้าง และทางเดินตรงสะพานบริเวณโป๊ะท่าเรือจนเปียกทั่วพื้นที่ นอกจากนั้นยังพบสะเก็ดระเบิดเป็นลูกเหล็กทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มิลลิเมตร กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กว่า 20 ชิ้น แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

           เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้มีการจำลองเหตุการณ์ระเบิด‘ท่าเรือสาทร’ โดยนำก้อนอิฐรูปทรงสี่เหลี่ยม น้ำหนัก 2 กิโลกรัม ขว้างลงมาจากด้านบนถนนสะพานสาทร ฝั่งมุ่งหน้าฝั่งธนบุรีจำนวน 3 ก้อน และขว้างจากฝั่งที่มุ่งหน้าถนนสาทรจำนวน 2 ก้อน เพื่อดูทิศทางและจุดตกว่าตรงกับระเบิดที่คนร้ายขว้างลงมาหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่พบว่า จุดใกล้เคียงที่สุด คือ บริเวณเสาไฟฟ้าต้นที่ 19 บนสะพานฝั่งมุ่งหน้าถนนสาทร

            ส่วนการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่า ในคืนวันที่ 17  ส.ค. 2558 หลังเกิดเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ ประมาณ 30 นาที เห็นผู้ชายคนหนึ่งลักษณะเหมือนถีบของบางอย่างลงจากสะพานสาทรลงน้ำไปตรงจุดที่เกิดระเบิด  ทำให้มีการวิเคราะห์กันในขณะนั้นว่า คนร้ายอาจจะหย่อนระเบิดไว้ตั้งแต่คืนวันที่  17 ส.ค. และจุดชนวนระเบิดแบบตั้งเวลาและระเบิดดังกล่าวต้องปิดผนึกอย่างดีเพื่อป้องกันน้ำเพราะระเบิดอยู่ในน้ำแบบข้ามวัน

            แต่ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่ง กลับบอกว่า ระเบิดได้ถูกปาลงมาผ่านช่องว่างระหว่างรางรถไฟฟ้าบีทีเอส และสะพานตากสิน มุ่งหวังให้ระเบิดบริเวณสะพานคนข้าม แต่พลาดเป้าโดนราวสะพานก่อน ทำให้ระเบิดตกน้ำ พุ่งกระจายเป็นวงกว้าง แต่โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

           สำหรับข้อสังเกตหนึ่ง ที่ทำให้ท่าเรือสาทร ตกเป็นเป้าในการก่อเหตุ เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และเป็นท่าเรือที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาโดยสารเรือ ณ จุดนี้ เพื่อไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ และวัดอรุณฯ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและชาวยุโรป  โดยแต่ละวันท่าเรือแห่งนี้จะมีนักท่องเที่ยวโดยสารไม่ต่ำกว่าวันละ 3,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน

           ต่อมาเจ้าหน้าที่อีโอดี ระบุว่า เป็นระเบิดไปป์บอมบ์ หรือ การบรรจุระเบิดใส่ท่อเหล็ก จุดชนวนด้วยไฟแบบเดียวกับประทัด แล้วโยนลงมาจากสะพาน มีรัศมีการทำลายล้าง 35-50 เมตร มุ่งหวังเอาชีวิต ลักษณะคล้ายกับระเบิดที่ใช้ก่อเหตุที่แยกราชประสงค์ บริเวณศาลท้าวมหาพรหม

            สุดท้าย มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ 2  คน คือ  นายบิลาล เติร์ก มูฮัมเหม็ด (BILAL TURK MUHAMMED)หรืออาเดม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซุฟู (MEI RAI LI YU SU FU) โดยถูกกล่าวหา วางระเบิดที่บริเวณศาลท้าวมหาพรหมและท่าเรือสาทร  ซึ่งคดีของคนทั้งสองอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร