49 ปี ที่ S&P ยังคงมีแต่ของอร่อย คุยกับมณีสุดา ศิลาอ่อน เรื่องธุรกิจร้านอาหาร ที่อยู่คู่คนไทยอย่างยาวนาน กับทิศทางในอนาคต
หากเอ่ยถึงงานวันเกิด แว๊บแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเลย "เค้ก S&P" และเชื่อว่าหลายครอบครัวก็คงคิดไม่ต่างกัน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็ก เค้กของที่นี่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากคือ ตัวการ์ตูนที่โชว์ลวดลายอยู่บนเค้ก เป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กมาก ๆ หลายคนเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว และส่งต่อวัฒนธรรมการซื้อเค้กมาเป่าเฉลิมฉลองในวันคล้ายวันเกิด ไปยังบุตรหลานในอนาคต นี่นับเป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจที่ครองใจคนอย่างยั่งยืน เพราะครั้งหน้าเมื่อถึงเวลาฉลอง ต้องมองหาเค้ก S&P ทุกครั้งไป
วันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ มีโอกาสพูดคุยกับคุณเอ็ม มณีสุดา ศิลาอ่อน ถึงทิศทางการเดินทางต่อไปในอนาคตอย่างไร
ทำความรู้จัก คุณเอ็ม มณีสุดา ศิลาอ่อน
ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร
คุณเอ็มเล่าว่า ชีวิตหลังเรียนจบ ได้เริ่มต้นทำงานในสายอาชีพการเงินและการลงทุนมา 10 ปี มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำแก่นักลงทุนสถาบันต่าง ๆ หลังจากนั้น ก็ก้าวเข้าสู่วงโคจรของธุรกิจร้านอาหารในปี 2547 อย่างเต็มตัว ด้วยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบฝ่ายบัญชีและการเงิน ที่บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)
ด้วยบุคลิกที่ชอบเรียนรู้อยู่เสมอ สนุกกับงานที่ได้รับมอบหมาย ทำให้ได้รับโอกาสมาดูแลฝ่ายสื่อสารองค์กรและลูกค้าสัมพันธ์ จนกระทั่งเมื่อปี 2561 คุณเอ็มมีแนวคิดถึงเรื่องความยั่งยืนอยู่ตลอดเวลา ที่จะนำพาองค์กรไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร จึงได้ก่อตั้งสำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณเอ็มรับผิดชอบดูแลอย่างมุ่งมั่นตั้งใจจนเกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม จนทำให้ในปีที่ผ่านมา S&P ได้รับรางวัล “หุ้นยั่งยืน” หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2564 เป็นปีแรกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
จากรางวัลหุ้นยั่งยืน สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการเติบโตของสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับเป็น 1 ใน 18 บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนในฐานะกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร เกณฑ์การคัดเลือกนั้นเลือกจากความยั่งยืนในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ รวมถึงบรรษัทภิบาล (ESG: Environmental, Social and Governance) ด้วยการดำเนินธุรกิจโดยใช้ศักยภาพที่มีร่วมแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานของบริษัทที่มีความโปร่งใส และเชื่อถือได้ในทุก ๆ ด้าน
S & P ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย
เอ็มคิดว่าเราเป็นธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มอยู่มานาน ปีนี้ก็เป็นปีที่ 49 แล้วค่ะ การที่เราจะอยู่ในใจลูกค้าหรือเข้าอกเข้าใจลูกค้าได้นั้น เราต้องนำเสนอสิ่งดี ๆ มีคุณภาพ ที่สำคัญคือ ต้องมีความอร่อย ที่มาจากความใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ความอร่อยของที่นี่ เริ่มต้นจากการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ที่สด สะอาดและปลอดภัย นำมาปรุงด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ไปจนถึงนำการเสนอเมนูต่าง ๆ สู่ผู้บริโภค ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมาจากการสั่งสมประสบการณ์เรียนรู้ ถูกผิด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มครอบครัวเล็ก ๆ จนถึงครอบครัวใหญ่ที่มีปู่ ย่า ตา ยาย S&P จึงเป็นร้านที่เหมาะกับคนทุกกลุ่ม สามารถเข้ามาใช้บริการได้ ด้วยความใส่ใจแบบนี้ "S&P ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย" จึงเป็นร้านพิเศษที่อยู่ในใจของทุกครอบครัวตลอดมา
ร่วม 50 ปี S & P กับความภาคภูมิใจ
การดำเนินธุรกิจของเรา ๆ จะคำนึงถึงคนรอบตัวก่อนค่ะ ยิ่งช่วงนี้ประโยคที่ทุกคนมักจะได้ยิน นอกเหนือไปจากการตอบแทนสังคมแล้ว การทำธุรกิจ “อย่างยั่งยืน” ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ เรารู้สึกดีมาก ๆ เราคิดอยู่เสมอว่าการที่ธุรกิจเราจะเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น เราไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง มันจะต้องมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ใครที่อยู่รอบตัวเรา ทำงานกับเรา และทำการค้าร่วมกับเรา เอ็มคิดอย่างเดียวว่า "เราจะต้องเติบโตไปพร้อมกัน"
และสิ่งที่ภูมิใจมาโดยตลอดคือ S&P ให้ความสำคัญตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบจากเกษตรกร ด้วยการซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรโดยตรง และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าร่วมกัน เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพมากที่สุด การที่เรามีส่วนร่วมกับเกษตรกรนอกจากได้วัตถุดิบที่ดีแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาก็ดีขึ้นด้วย เป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้เกษตรกร S&P เองยังได้นำความรู้ด้านเทคโนโลยีไปช่วยกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้เราได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น อร่อยขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การเก็บหัวเผือกควรจะต้องเก็บเมื่อไหร่ ถึงจะได้น้ำหนักที่เหมาะสม ความหวานความหอม รสชาติที่ต้องการ นอกจากนี้เรายังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ช่วยกันพัฒนาการเพาะพันธุ์ปลาบึกสยาม พัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้ได้คุณภาพเนื้อปลาที่ดี วัตถุดิบในแต่ละอย่าง เราทำการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ ไข่เป็ด เนื้อสัตว์ ผักออแกนิก เรียกว่า responsible sourcing เราคัดสรร คัดเลือกวัตถุดิบอย่างรับผิดชอบและมีคุณธรรม
เมื่อมีวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพแล้ว ในส่วนของโรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยผลิตของเราก็ต้องดูแลให้ความสำคัญใส่ใจเพื่อที่จะให้ผลิตภัณฑ์ออกมาดีและมีคุณภาพ โรงงานของ S&P เป็นส่วนที่เราภูมิใจมากนะคะเพราะว่าเป็น โรงงานแรก ๆ ที่เราใช้พลังงานทางเลือก มาผลิตเบเกอรี่ ช่วยลดมลภาวะที่เกิดจากการผลิต ลดการใช้ไฟฟ้า เราลงทุน Solar Roof ที่โรงงานจนได้รับการยอมรับ และเป็นบริษัทตัวอย่างของกระทรวงพลังงานที่ชักชวนให้คนอื่นในอุตสาหกรรมหันมามองเรื่องพลังงานทางเลือกนี้ ที่ผ่านมาปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาหลัก โดยเฉพาะเรื่องก๊าซเรือนกระจก การที่มีพลังงานทางเลือกทำให้เราลดการปล่อยคาร์บอน ที่เรียกกันว่า Carbon Footprint นั่นเป็นสิ่งที่เราใส่ใจในกระบวนการผลิตเป็นพิเศษ ที่สำคัญไม่แพ้กันเรามีความมุ่งมั่นที่จะลดความสูญเสียของผลิตภัณฑ์ในสายพานการผลิตให้น้อยที่สุด พยายามลดตัว Food waste สิ่งเหล่านี้ มันเป็นเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนระดับโลกเลยค่ะ ขององค์การสหประชาชาติ
การพัฒนาผลิตภัณฑ์และอาหารที่ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เราพยายามพัฒนาเมนูที่ทำให้ทุกคน ดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นได้ด้วยอาหารของเรา ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ เป็นสิ่งที่เราใส่ใจมากเช่นกัน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาหลักที่รัฐบาลชูขึ้นมาเป็นแผนที่ต้องแก้ไข ออกเป็น Road Map เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมระดับชาติว่าเขาจัดการอย่างไร เช่นการไม่ใช้หลอดพลาสติก การลดอัตราการใช้พลาสติกในองค์กร การลดการใช้ถุงพลาสติก S&P ไม่ได้นิ่งนอนใจ เรามีนโยบายที่จะสนับสนุนภาครัฐเสมอ และมีการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ตลอดเวลาที่ผ่านมา การปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ไปเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถึงแม้ว่าจะใช้เงินเยอะมาก เราก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำต่อ ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา 2 ปี บริษัทประสบสภาวะขาดทุน รายได้ไม่ได้เป็นไปตามเป้า เราไม่เคยที่จะไม่ใส่ใจดูแลเรื่องนี้เลย ปัจจุบันเราปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ลดการใช้พลาสติกไป เกือบ 300 ร้อยตันแล้ว ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาค่ะ บรรจุภัณฑ์ในร้านของเราจะต้อง เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้ รีไซเคิลได้หรือย่อยสลายได้ ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ 100% ในปีนี้ 2565 ปัจจุบันนี้เราทำไปได้แล้ว 93% ก็พยายามทำทุกอย่างด้วยการเรียนรู้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ถามว่าธุรกิจอาหารจะพลาสติกฟรีไหม ก็อาจจะตอบได้ว่า เป็นไปได้ยาก เพราะว่าพลาสติกเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องบางประการ พลาสติกมีคุณสมบัติในการประกอบอาหาร ถนอมอาหาร ช่วยยืดอายุอาหาร แน่นอนเราสามารถผลิตอาหารที่ปลอดภัยให้กับผู้บริโภคได้ แต่เราจะไม่ใช้พลาสติกเลยก็ไม่ได้ เพียงแค่เราเลือกใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้หรือรีไซเคิลได้ นั่นก็คือความรับผิดชอบที่เราทำค่ะ ด้านบรรจุภัณฑ์เราปรับเปลี่ยนหลายอย่างมาก ทั้งรณรงค์ไม่ให้ใช้ถุงพลาสติก รณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าหรือแม้กระทั่งถุงพลาสติกเราก็ทำมาจากเม็ดพลาสติกที่รีไซเคิลเท่านั้น ไม่สร้างเม็ดพลาสติกใหม่ขึ้นมาในโลกค่ะ และถุงพลาสติกเราก็มีความหนาเกิน 70 ไมครอน ซึ่งสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ นั่นคือเป้าหมายของเรา ด้านหน้าร้าน เราพยายามชักชวนลูกค้าหรือผู้บริโภค ให้หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นการนำถุงผ้ามาเอง เราก็มีแคมเปญต่าง ๆ อย่างเช่นถ้านำถุงผ้ามาเองจะได้ส่วนลดในการซื้อของจากทางร้าน ระยะหลัง ๆ มานี้คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พอเราทำสิ่งเหล่านี้ชัดเจนก็มีเสียงตอบรับมาค่อนข้างดี ด้วยเหตุผลที่ว่า ธุรกิจของเรารับผิดชอบต่อสังคม และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ที่นอกเหนือจากงานบริการและอาหารที่สะอาด ปลอดภัย
เอ็มคิดว่า เรามาถูกทางแล้วค่ะ เมื่อเราทำครบวงจรในทุกด้านแล้ว เราไม่ลืมที่จะพัฒนาคน รณรงค์ให้พนักงานเราหรือตัวเราเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้พนักงานทุกคนรู้จักแยกขยะในออฟฟิศ ทุกคนจะไม่มีถังขยะของตัวเองนะคะ อย่างขวดน้ำที่กินที่ดื่มกันในองค์กร เรานำมาสะสมเมื่อได้จำนวนมากพอก็เอาไปปรับเปลี่ยนแปลงให้เป็นชุดพนักงาน ทุกวันนี้เสื้อพนักงานที่เป็นยูนิฟอร์มมาจากขวดน้ำที่เราเก็บ เสื้อ 1 ตัวจะใช้ขวดประมาณ 14-16 ขวด ก็เป็นความภูมิใจนะ ตรงแขนเสื้อเขียนว่า Up Cycling ซึ่งเราอยากให้เขารู้ว่าขยะที่เขาเก็บมานี่มันก่อให้เกิดประโยชน์ได้นะ เราทำยูนิฟอร์มที่เป็นพวกเสื้อนี้มาเกือบ 2 ปีแล้ว กับโครงการต่าง ๆ เรื่องขวดพลาสติก นอกเหนือไปจากทำเสื้อพนักงานแล้ว เรายังทำเสื้อ PPE ให้คุณหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาอีกด้วย การที่เราดำเนินธุรกิจมาได้ถึง 49 ปี เราไม่ได้คิดว่าเราอยากจะเติบโตคนเดียว คู่ค้าของเราจะต้องเติบโตไปอย่างยั่งยืนเหมือนเราด้วย อย่างที่กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นว่า เศรษฐกิจที่จะเดินต่อไปได้ ที่จะหมุนเวียนไปได้ ทุกอย่างมันต้องขับเคลื่อนไปด้วยกันรวมถึงผู้บริโภคด้วย ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากอาหารจริง ๆ ถ้าเราส่งต่ออาหารที่ดีมีคุณภาพให้กับผู้บริโภคของเรา เขารับประทานอาหารที่สด สะอาดปลอดภัยเป็นการเติมพลังให้เขาไปทำสิ่งดี ๆ เพื่อสังคมต่อไปได้ เราอาจจะเป็นบริษัทเล็ก ๆ เริ่มทำและใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม เริ่มรณรงค์ให้ทุกคนเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ถึงมันจะเป็นจุดเล็ก ๆ ในสังคมแต่ว่ามันก็เริ่มมี เสียงพูดถึงสิ่งที่เราทำ เอ็มคิดว่า ตลอด 49 ปีที่เราอยู่คู่คนไทยมา สิ่งที่เอ็มเล่ามาล้วนเป็นความภาคภูมิใจที่เล่ากี่ทีก็มีความสุขค่ะ วันนี้ก็เริ่มเห็นว่าบริษัทจดทะเบียนหลาย ๆ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เริ่มที่จะใส่ใจในเรื่องนี้
และผลจากสิ่งที่ S&P มุ่งมั่น และปฏิบัติมาโดยตลอดจนเป็น อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ S&P คือ เราถูกจัดอันดับให้เป็นหุ้นยั่งยืนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจ ทางด้านความยั่งยืน ที่เรียกว่า ESG Environment, Social, และ Governance เราดูแล ดำเนินธุรกิจด้วยการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและด้านสุขาภิบาลอย่างโดดเด่นและชัดเจนค่ะ เป็นความภูมิใจของเราจริง ๆ แล้วเราก็ได้จัดอันดับให้เป็นบริษัท ที่เขาเรียกกว่า THSI ก็ถือว่าเป็นบริษัทที่เป็นหุ้นยั่งยืน คือถ้าเป็นเมืองนอกเขาจะให้ความสำคัญกับบริษัททางด้านนี้เยอะมาก โดยเฉพาะกองทุนขนาดใหญ่ แต่ว่าเมืองไทยเราอาจไม่ถึงขั้นนั้น ผู้บริโภคหลาย ๆ คนอย่างตัวเราเอง เวลาไปร้านที่เรารู้สึกว่า ว้าวกับบรรจุภัณฑ์แบบรักษ์โลก เช่น เขาอาจจะใช้แก้วที่อาจจะไม่ได้ดูสวยงามมากแต่เรารู้สึกยินดีที่เราจะจ่ายเพื่อสนับสนุนเขา หรือว่าเราอาจจะจ่ายมากขึ้นนิดนึง เพราะว่าเราคิดว่าเขาให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน ความยั่งยืนเป็นเรื่องที่กว้างมาก อย่างที่บอก ความยั่งยืนมันมี 3 มิติ ก็คือด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ถ้าเราจะทำให้ครบ ต้องทำให้ได้ทุกมิติและเราคิดว่าพอช่วงแรกมันจะเป็นการปรับเปลี่ยนตัวเอง ต้องฝืน พฤติกรรม เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมค่อนข้างเยอะ ความยั่งยืนไม่ใช่อยู่ ๆ ก็ทำได้ มันต้องใช้เวลา เงินลงทุน เราคิดว่าวันนี้เราลงทุนเพื่อลูกหลานในอนาคตนั่นคือสิ่งที่เราอยากบอกว่าภูมิใจจริง ๆค่ะ
ธุรกิจร้านอาหาร S&P จะต่อยอดไปในทิศทางใด
ต้องบอกว่า วันนี้เราค่อนข้างขัดเจนแล้วว่าเราต้องการอะไร เราต้องการเป็น "ครัว" ของคนไทย เราอยากดูแลชีวิตของคนไทย เราดำเนินธุรกิจนี้ตามคำมั่นสัญญาที่เราประกาศไว้ต่อสาธารณชนว่าเราจะดำเนินธุรกิจด้วย healthier family happy world คือเราอยากให้ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพดี และมีความสุข แน่นอนเมื่อเราสุขภาพดีเราก็จะมีความสุข เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะดำเนินธุรกิจร้านอาหารเปรียบเหมือนเป็นครัวที่คอยผลิตอาหารสุขภาพให้กับทุก ๆ คน เราทำเรื่องเมนู Frozen มา 2 - 3 ปีแล้ว เราตั้งใจที่จะมีทางเลือกให้กับลูกค้า เราทำเมนู Low Sodium พัฒนาเมนูอาหารแช่แข็ง ซึ่งเราหวังว่าสักวันเราจะได้ใบรับรองด้านการผลิตอาหารแช่แข็ง ที่เป็นทางเลือกสุขภาพ Healthier Choice เราร่วมมือกับ สสส. พัฒนาสูตรเมนูลด หวาน มัน เค็ม เราได้รางวัลมาแล้ว 2 ปีแล้ว ตอนที่เราออกเมนูลดโซเดียม โปรโมทเรื่องการลดทานอาหารเค็มช่วงนั้นเราเป็นบริษัทแรก ๆ ที่มี Commitment มาก ๆ ที่จะขายเมนู Low Sodium ในสาขาโรงพยาบาลทุกแห่ง และเมนู Low Sodium วัดผลได้จริง มีนักโภชนาการดูแลจริงจัง เรานึกถึงสุขภาพของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อที่ว่า...วันข้างหน้าเราจะเป็นครัวสำหรับคนไทยทุกคน
ธุรกิจร้านอาหารก็ยั่งยืนได้ ถ้ามีเป้าหมายชัดเจน
ใช่ค่ะ คือ ต้องบอกว่า ธุรกิจจะอยู่ได้ ต้องรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว นั่นคือเป้าหมายหลักของ S&P เพราะทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ทุกคนรู้ว่าการผลิตสินค้าของแต่ละคนมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากน้อยแค่ไหน อย่างผลิตภัณฑ์ เบเกอรี่ S&P จะมีตรา Carbon Emission GFP เรียกว่า Carbon footprint product บอกว่าผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ตัวนี้ กว่าจะได้มาเป็นเค้กสักชิ้น เราปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่าไหร่ ในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่ ไม่เกินปริมาณที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกกำหนดไว้ อย่างนี้เป็นความภูมิใจของเรานะ เราพยายามโปรโมทให้ลูกค้าเห็นว่า วันนี้ เราอยากเติบโตไปอย่างยั่งยืน พร้อมกับทุกคนที่อยู่รอบตัวเรา หรือที่เรียกอย่างทางการว่า ห่วงโซ่อุปทาน บางคนไม่เข้าใจว่าคืออะไร พูดง่าย ๆ ก็คือทุก ๆ คนที่อยู่รอบตัว ที่ก่อให้เกิดกระบวนการผลิตตั้งแต่ วัตถุดิบมาจนเป็น Finish Goods เราใส่ใจมากว่าวันหนึ่งคนรอบตัวเรานี้ พวกเขาต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กับเรา ถ้าเกษตรกรหยุดผลิตสินค้าแล้ว เราแย่ โรงงานปล่อยก๊าซเกินกำหนด อีกหน่อยจะมีปัญหา บรรจุภัณฑ์ ถ้าเราใช้พลาสติกอะไรก็ไม่รู้ไปเรื่อย ๆ เกิดปัญหาขยะล้นโลก เป็นปัญหาไหม วันนี้เป็นวันที่รัฐบาลชัดเจนว่าคุณไม่ดูแลสิ่งแวดล้อมหรือคุณใช้แก้วที่มีความหนาเท่านั้นเท่านี้ หรือถุงพลาสติกไม่มีคุณภาพ วันนี้คุณไม่ได้ทำตามข้อกำหนดในที่สุดคุณจะต้องเสียภาษีเรื่องพลาสติกเป็นซึ่งเป็นเรื่องในอนาคตนะคะ อย่างที่บอกว่าเราทำรอบด้านจริง ๆ เพราะว่าเราต้องการให้บริษัทเราเติบโตไปเป็นครัวที่ผลิตอาหารที่ดีมีสุขภาพให้กับคนไทยแล้วก็ให้ทุกคนได้เติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเราค่ะ
หลากหลายเรื่องราวที่พูดคุยกับคุณเอ็ม มีหลายสิ่งที่ทำมาตั้งแต่เริ่มต้น บางสิ่งทำตอนนี้ และบางสิ่งจะทำในอนาคต แต่เชื่อไหมว่า มี 5 สิ่งที่ S&P ทำแล้วคุณไม่รู้
5 เรื่องที่หลายคนไม่รู้ว่า S&P ทำ
1 ใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์เป็นตัวขับเคลื่อนการผลิตในโรงงาน
เรื่องที่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ผลิตภัณฑ์ S&P หลายตัวผลิตมาจากพลังงานสะอาดหรือพลังงานแสงอาทิตย์ อย่างเช่นเค้กกล้วยหอม บัตเตอร์เค้ก ขนมไหว้พระจันทร์ คุกกี้ เพราะที่โรงงาน S&P ติดตั้ง Solar roof เกือบจะครบทุกโรงงานแล้ว โรงงานแรกที่ทำก็ขยายเฟส 2 จึงพูดได้เต็มปากว่าขนมที่ทานอยู่ทุกวันนี้เรามาจากพลังงานสะอาด ไร้มลภาวะในการผลิต
2 ได้รับฉลากยืนยัน Carbon footprint product
ผลิตภัณฑ์ของ S&P ได้รับฉลาก Carbon footprint product เป็นเครื่องการันตี ว่าผลิตภัณฑ์เบเกอรี่หลายตัวปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณที่เหมาะสม ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การจัดจำหน่าย การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังจากการใช้งาน วัดปริมาณออกมาในรูปแบบของคาร์บอนไดออกไซด์หรือเทียบเท่า เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่า S&P เป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมจริง ๆ
3 มีสถานปฏิบัติธรรมชำระจิตใจให้กับพนักงานทุกระดับ
นอกเหนือจากเครื่องจักร ระบบ และสิ่งแวดล้อมแล้ว "คน" ก็เป็นสิ่งที่องค์กรอย่าง S&P ไม่เคยทอดทิ้ง ที่นี่ดูแลพนักงานตั้งแต่สุขภาพกายจนถึงสุขภาพใจ พนักงานทุกคนที่เข้ามาร่วมงานกับ S&P จะถูกส่งไปปฏิบัติธรรมก่อน อาจจะไม่มีใครรู้ว่า S&P มีสถานปฏิบัติธรรมที่บ้านไรวา อยู่ที่ศรีราชา ในแต่ละวันถ้าพนักงานคนไหนรู้สึกว่ามีเรื่องทุกข์ร้อนใจ อยากเข้าไปรักษาจิตใจ สงบจิตใจ ในบางคนมีปัญหาจริง ๆ ทางบริษัทจะส่งไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมโดยไม่คิดเป็นวันลา ด้วยแนวคิดที่ว่าคนเราจะมาอยู่ร่วมกันได้ ต้องมีพื้นฐานจิตใจที่ใกล้เคียงกัน ด้วยความที่ผู้บริหารเราให้ความสำคัญกับเรื่องศีลธรรมและพระพุทธศาสนาเป็นที่ตั้ง เพราะฉะนั้นการสนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้เข้าคอร์สปฏิบัติธรรมที่ดี เพื่อจิตใจที่ดี อีกอย่างเรื่องนี้มันช่วยปลูกฝังความซื่อสัตย์
4 เมนู “ข้าวไก่อบ” เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของ S&P
เมนูข้าวไก่อบ เมนูนี้เป็นเมนูประจำตระกูลไรวา ศิลาอ่อน มาจากคุณแม่ของคุณภัทรา ท่านก็ทำให้ลูกหลานรับประทานและตกทอดมาสู่คุณภัทรา ท่านก็ได้ถ่ายทอดเมนูนี้ให้กับลูก ๆ หลาน ๆ สืบต่อไป ซึ่งเป็นเมนูประจำบ้าน และอีกหลาย ๆ เมนูล้วนแล้วเป็นเมนูประจำตระกูล ทั้งสิ้น คราวหน้าถ้ามา S&P อย่าลืมสั่ง เมนูข้าวไก่อบ
5 S&P ขายไอศกรีมมาก่อน
S&P เริ่มแรกเป็นร้านขายไอศกรีมมาก่อน ไอศกรีมคอนเนอร์ที่สุขุมวิท 23 ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีเริ่มมีเบเกอรี่ มีเค้ก มาขายจนเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนมากไม่มีใครรู้ว่า S&P ขายไอศกรีมมาก่อน
ขอบคุณ
คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง