ติดเชื้ออะไรจึงตกขาวและคัน

 

                               สวัสดีค่ะคุณหมอขออนุญาตเรียนถามนะคะ ดิฉันอายุ 37 ปี มีเพศสัมพันธ์ แล้วมีอาการคันช่องคลอดมีลักษณะครีมขาวข้นออกมาไปหาหมอสูติตรวจ คุณหมอให้ยามาสอดแต่อาการไม่หายสนิท กลับมาปวดท้องหนักมากค่ะจากที่คุณหมอกดท้องตอนตรวจ ตอนนี้ผ่านมากว่า 1 อาทิตย์ อาการปวดท้องหายไป ประจำเดือนมาปกติ คุณหมอบอกว่าถ้าไม่หายให้กลับไปหาอีกครั้ง อันที่จริงดิฉันนานๆจึงจะมีเพศสัมพันธ์สักครั้งค่ะ เพราะไม่ค่อยชอบเรื่องเซ็กส์ แฟนจะมีโอกาสนำเชื้อโรคมาติดหรือไม่  ดิฉันมีอาการเป็นอย่างนี้ 2 ครั้งแล้ว เวลาเขาไปมีอะไรกับหญิงอื่น แต่ก็ไม่เห็นเขาเป็นอะไร ตอนนี้ยังคันบริเวณหัวหน่าวและแคม สามารถใช้ยาทาได้หรือไม่คะ เพราะไม่อยากไปพบคุณหมอแล้ว ขอบพระคุณค่ะ
 

 

                               ตอบ อาการคันร่วมกับการมีตกขาวสีขาว คล้ายครีมข้นมักจะเกิดจากการติดเชื้อ  ที่พบบ่อยมีสองโรคดังนี้ค่ะ

 

                               1. ติดเชื้อรา การติดเชื้อรานั้นเป็นการติดเชื้อที่พบได้บ่อยในผู้หญิง ว่ากันว่าผู้หญิง3ใน4คน ต้องเคยติดเชื้อรามาก่อน และส่วนใหญ่ไม่ติดครั้งเดียว แต่เป็นกลับซ้ำ สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่การติดเชื้อราแคนดิด้า ซึ่งเป็นเชื้อที่พบได้ตามปกติ(Normal flora)ในช่องคลอด ลิ้น ปาก และทางเดินอาหาร โดยไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร  เมื่อเชื้อราแคนดิด้ามีการเพิ่มจำนวนขึ้น จึงมีอาการตกขาวคัน การติดเชื้อรานี้ไม่ถือว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่พบมาก ในคนอ้วน, คนที่มีการอับชื้น, คนที่รับประทานยาปฏิชีวนะ,หญิงตั้งครรภ์ ,คนเป็นโรคเบาหวาน, คนที่รับประทานยากดภูมิต้านทาน เป็นต้น วิธีรักษา สามารถรักษาโดยการใช้ยากิน ยาเหน็บ ยาทา เช่น ฟลูโคนาโซล(Fluconazole), โคลไทรมาโซล(Clotrimazole), คีโตโคนาโซล(Ketoconazole)เป็นต้น วิธีป้องกัน ระวังการอับชื้น ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดบ่อยๆ ไม่นุ่งคับๆ ไม่สวมแผ่นอนามัยตลอดเวลา 

                               2. ติดเชื้อโรคแบคทีเรียตัวร้ายเพิ่มจำนวน(Bacterial vaginosis) เป็นการติดเชื้อที่ทำให้เกิดตกขาวที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิงแต่ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุเกิดจากเชื้อโรคตัวร้ายเช่น การ์ดเนอร์เรลลา วาไจนาลิส(Gardnerella vaginalis)ที่อยู่ร่วมกับเชื้อโรคตัวดีในช่องคลอดเพิ่มจำนวนขึ้น เหตุที่เชื้อโรคตัวร้ายเพิ่มจำนวนเป็นเพราะความเป็นกรดด่างของช่องคลอดเปลี่ยนแปลงไป จากสาเหตุต่างๆ เช่นแบคทีเรียตัวดีถูกทำลาย, การสวนล้างช่องคลอด, ความเครียด, การมีเพศสัมพันธ์สำส่อนหรือบ่อยครั้ง เป็นต้น วิธีรักษาคือต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย โรคนี้รักษาโดยการใช้ยาปฏิชีวนะเช่น เมทโทรนิดาโซล(Metronidazole)หรือ คลินดามัยซิย( clindamycin) วิธีป้องกันคือ ต้องเพิ่มแบคทีเรียชนิดดี เช่น ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่สวนล้างช่องคลอดบ่อย ๆใช้ถุงยางอนามัยหากมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง

                               สำหรับจดหมายที่ถามมาน่าจะเป็นการติดเชื้อรา สามารถซื้อยารักษาเชื้อรา และยาแก้คันมาทาได้ค่ะ หากยังไม่หายควรไปพบแพทย์อีกครั้ง