คอลัมนิสต์

พระฆ่าตัวตายเป็นอาบัติอะไร โดย ทิดโบราณ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ข่าวพระธรรมวงศาจารย์ (นิมิต จิตทนฺโตเถระ) วัย 87 ปี เจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ จังหวัดสงขลา ทำอัตวินิบาตกรรม ทำให้พากันสลดใจ และเศร้าใจ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า หลวงพ่อที่มีเมตตา และชีวิตมีแต่ให้ ไม่น่าคิดสั้น ติดตามได้จากเจาะประเด็นร้อน โดย ทิดโบราณ

 

ข่าวพระธรรมวงศาจารย์ (นิมิต จิตทนฺโตเถระ) วัย 87 ปี ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ จังหวัดสงขลา ทำอัตวินิบาตกรรม โดยใช้ด้ายสายสิญจน์ผูกคอตัวเอง มรณภาพ ในกุฏิ เมื่อเช้าวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ทำให้คณะสงฆ์ คณะศิษย์ คนใกล้ชิด ต่างตกใจ ปลงธรรมสังเวช พากันสลดใจ และเศร้าใจ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า หลวงพ่อที่มีเมตตา และชีวิตมีแต่ให้ ไม่น่าจะคิดสั้น

 

อัตโนประวัติย่อๆ ชื่อเดิม นิมิต นามสกุล วงศ์จันทร์ เกิด 10 พย. 2479 อุปสมบท พศ. 2500 วุฒิการศึกษา ปธ.4 พธบ.
นอกจากเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวงแล้ว ตำแหน่งทางการปกครอง เคยเป็นเจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเจ้าคณะภาค 18 สุดท้ายเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18
 

เรื่องพระผู้ใหญ่ มีทั้งอำนาจและวาสนาฆ่าตัวตาย เคยมี ในอดีตไม่นาน คือ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2559 มีพระเถระรูปหนึ่งชื่อพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโรนามสกุบ ฝังมุข ) อายุ 58 ปี ทำอัตวินิบาตกรรม โดยผูกคอตายในกุฏิ ที่วัดสระเกศ วัดที่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ทำเอาคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ตกใจไปตามๆ กัน เพราะไม่นึกว่าท่านจะคิดสั้น 

 

ถ้าดูตำแหน่งพระพรหมสุธี (เสนาะ) จะพบว่าไม่ธรรมดา นอกจากเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศ แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว) แล้ว ยังครองตำแหน่ง กรรมการมหาเถรสมาคมและเจ้าคณะภาค 12 อีกด้วย
 

เมื่อสมเด็จเกี่ยวมรณะภาพ ท่านจัดพิธีสวดพระอภิธรรมและพระราชทานเพลิงศพให้ยิ่งใหญ่ สมเกียรติสมเด็จที่เคยปฏิบัติหน้าที่สังฆราชมานานหลายปี
 

ปัญหาที่ทำให้คิดสั้น น่าจะเกี่ยวกับศักดิ์ศรี เมื่อท่านถูกปลด ลดชั้น หลังจากจัดงานศพสมเด็จเกี่ยวแล้วเคลียร์เงินหลวงกับเงินบริจาคไม่ทันจบ แต่ถูกพระเถระที่มีอำนาจเหนือถอดถอนท่านทุกตำแหน่ง รวมทั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสด้วย

 

แบบนี้ใครจะอยู่ได้ เพราะตนเคยนั่งหัวแถว ต้องมานั่งเป็นพระอันดับ คนเราย่อมมีศักดิ์ศรี จึงไม่ขออยู่สู้หน้าจึงอำลาโลกไปเลย


 ที่เขียนเรื่องพระฆ่าตัวตายมาซะยาวนั้น เพื่อตั้งประเด็นว่าพระฆ่าตัวตายเป็นอาบัติอะไร เป็นอาบัติปาราชิก หรือไม่ หลายคนอยากรู้ เพราะอาบัติปาราชิกข้อ 3 ว่าภิกษุแกล้งฆ่ามนุษย์ให้ตาย เป็นอาบัติปาราชิก แต่นี่ท่านฆ่าตัวเอง
 

ผมอ่านอธิบายวินัย สำหรับ ชั้น นธ.ตรี โท และเอก ของพระพรหมกวี (ที่เป็น มส สดๆ ซิงๆ) มีคำอธิบายเรื่องกำหนดวัตถุแห่งอาบัติ ว่ามนุษย์เป็นวัตถุแห่งปาราชิก อมนุษย์ เช่นเปรต ยักษ์ และสัตว์เดรัจฉานที่มีฤทธิ์ เป็นอาบัติถุลลัจจัย ฆ่าสัตว์เดรัจฉาน เป็นอาบัติปาจิตตีย์
 

ที่น่าทึ่งคือพยายามฆ่าตัวเอง เป็นอาบัติทุกกฏ อาบัติเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น

 

พระพรหมกวี อธิบายในวงเล็บว่า ภิกษุทำตนเองให้บาดเจ็บ และฆ่าตนเองให้ตาย ยังหาคำอธิบาย และปรับอาบัติไม่พบ แต่ถ้าว่าตามมูลเหตุของการบัญญัติสิกขาบทนี้ (ปาราชิกข้อที่ 3 ภิกษุแกล้งฆ่ามนุษย์ให้ตาย ต้องปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ) น่าจะปรับเป็นอาบัติถุลลัจจัย และปาราชิก เพราะเป็นกายมนุษย์ เช่นเดียวกัน 

 

ที่ท่านอธิบายชัดเจน คือวินัยนี้ บัญญัติเพื่อปรับอาบัติภิกษุที่ทำให้คนอื่นตาย ส่วนความตายเป็นเรื่องของกรรม

 

ดังนั้นพระฆ่าตัวตาย หากพิจารณาว่าฆ่ากายมนุษย์ ย่อมต้องอาบัติปาราชิก(ได้) แต่ถ้าพยายามฆ่า ปรับเพียงอาบัติทุกกฏ อาบัติ จิ๊บๆ เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ฆ่าเองก็ดี ให้คนอื่นฆ่าก็ดีซึ่งมนุษย์ เป็นบาปแรง (ทางศาสนาและเป็นอาญาทางฝ่ายบ้านเมือง) เป็นอกุศลกรรม สาธุชนไม่ควรทำอย่างยิ่ง
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ