คอลัมนิสต์

"เนวิน" ติดบ่วงฮั้ว สว. "ทักษิณ" ร่วงชั้น 14 จับตานิติสงครามล้างบาง

"เนวิน" ติดบ่วงฮั้ว สว. "ทักษิณ" ร่วงชั้น 14 จับตานิติสงครามล้างบาง

17 มิ.ย. 2568

ครม. สส.ขัด รธน.มาตรา 144 หนักกว่า "เนวิน" ติดบ่วงฮั้ว สว. “ทักษิณ” ร่วงชั้น 14 เกมล้างกระดานนักเลือกตั้ง หรือ "รัฐประหารเงียบ"

ตึงเครียดกว่าชายแดน "เนวิน" ติดบ่วงฮั้ว สว. "ทักษิณ" แขวนชะตากรรมไว้กับชั้น 14 ลุ้นปรับ ครม. เพื่อการเลือกตั้งต้นปี 2569

 

จับตาเกมนิติสงคราม ล้างกระดานนักเลือกตั้ง ปมคำร้องรัฐบาล สส.และ สว.กระทำการขัด รธน. มาตรา 144

 

ปฏิบัติการปรับคณะรัฐมนตรีแพทองธาร ยังไม่มีข้อสรุปสุดท้าย ระหว่างนี้ จึงเป็นการประลองกำลังกันของ ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย และ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย

 

ที่ชัดเจนจากค่ายสีน้ำเงิน มีการปล่อยภาพเนวิน ชิดชอบ พร้อมแกนนำ ภท. และสันติ พร้อมพัฒน์ นั่งรับประทานอาหาร ยืนยันความพร้อมเป็นฝ่ายค้าน

 

เนวิน พร้อมแกนนำ ภท. เตรียมตัวเป็นฝ่ายค้าน

สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ติดบ่วงชั้น 14 ก็ต้องลุ้นระทึก เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งไต่สวนพยานเพิ่ม 20 ปากให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ค.2568

 

กูรูการเมืองฟันธงว่า เส้นทางคดีชั้น 14 ของอดีตนายกฯทักษิณ ต้องบอกว่า นับถอยหลังได้แล้ว

 

ขณะที่ฝั่ง เนวิน ชิดชอบ และแกนนำพรรคภูมิใจไทย 20 คน เจอหมายเรียกล็อต 7 คดีโพยฮั้ว สว. ซึ่งเป็นไปตามกระแสข่าวที่ปูกันมาก่อนหน้านี้ กรณีล้างบาง สว.สีน้ำเงิน

 

ในสถานการณ์รัฐพันลึก กลับมีนักวิเคราะห์การเมืองบางคน เปิดประเด็นเกมนิติสงคราม ล้างบางนักเลือกตั้ง เพื่อแก้วิกฤตการเมือง “แดงรบน้ำเงิน”
 

 

เปิดเกมล้างกระดาน

มีคนพูดถึงนิติสงครามเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยไม่ต้องมีรถถังนั้น ทำให้มีการโฟกัสไปที่กรณีคำร้องโยกงบฯดิจิวอลเลต ขัดรัฐธรรมนูญ

 

เมื่อเร็วๆนี้ มีคำร้องที่ว่าด้วยรัฐบาล และสมาชิกรัฐสภา กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ซึ่ง ป.ป.ช. ได้รับเรื่องทั้ง 2 สำนวนไว้ และมีกรอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น 60 วัน

 

1.กรณีกล่าวหา แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะ รวมไปถึง สส. และ สว. ที่ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 ซึ่งมีการโยกงบฯไปทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต(แจกเงินหมื่น) ส่อขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่ง

 

2.กรณีกล่าวหา สส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยอดีต สส. รวมถึงผู้บริหารระดับสูงในสำนักงบประมาณว่า มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง

 

โดยทั้ง 2 สำนวนมีกรอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น 60 วัน โดยเฉพาะสำนวนกล่าวหาแพทองธาร กับพวกนั้น หากเห็นว่ามีมูล จะส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด 
 

สัญญาณรัฐประหารเงียบ

 

ประเด็นการโยกงบไปทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต(แจกเงินหมื่น) ส่อขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 มีคนต้นเรื่องคือ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ , สมชาย แสวงการ อดีต สว. , เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษา กรธ. และ นิติธร ล้ำเหลือ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เมื่อ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

 

พวกเขาได้ยื่นคำร้องว่า มีนักการเมืองร้อยกว่าคน เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 ที่มีการโยกงบไปทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต (แจกเงินหมื่น) ส่อขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 144

 

สืบเนื่องในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ห้ามกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย

 

กรณีนี้มีการประเมินถึงฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด คือ ป.ป.ช. ส่งศาลรัฐธรรมนูญแล้วศาลมีคำวินิจฉัยว่า “ผิด” ตามมาตรา 167(4) และจะไม่สามารถรักษาการหรือปฏิบัติหน้าที่ต่อ เพื่อรอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ รวมถึง สส. กับ สว.เกือบทั้งสภาฯ จะต้องพ้นจากตำแหน่ง

 

นัยว่า เรื่องนี้เป็นเกมเร็วกว่านิติสงครามสมรภูมิอื่น เพราะมีกรอบเวลาให้ ป.ป.ช.ไต่สวน จากนั้นต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยภายใน 15 วัน เพราะถือเป็นกรณีเร่งด่วน

 

ด้วยเหตุนี้ จึงมีการวิเคราะห์ฉากทัศน์ล้มกระดาน โดยใช้นิติสงครามเปลี่ยนเกม หรือเรียกว่า “รัฐประหารเงียบ” ตามแนวทางรัฐพันลึก