ขุดวีรกรรม “พล.ต.ณัฏฐ์” ขุนศึกสมรภูมิ “เขาสัตตะโสม” ป้องอธิปไตย | คมชัดลึก

ศึกษาอดีต พล.ต.ณัฏฐ์ ขุนศึกอีสานใต้ นำทัพปกป้องอธิปไตย ด้านเขาพระวิหาร สะท้านสะเทือนชายแดนไทย-กัมพูชา

 

เปิดสมรภูมิเขาสัตตะโสม การันตียี่ห้อนักรบชำนาญยุทธภูมิ จึงกล้าผ่าความจริง กัมพูชาละเมิด MOU43 นับครั้งไม่ถ้วน

 

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องประเมินกันเป็นรายชั่วโมง เมื่อกองทัพไทยเปิดปฏิบัติการตอบโต้กัมพูชา จากเบาไปหาหนัก โดยเริ่มต้นจากการปิด-เปิดด่านบางช่วงเวลา

ที่ฮือฮามากที่สุดในวันที่ 7 มิ.ย.2568 น่าจะเป็นความจริง 11 ข้อ ของ พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ที่เผยแพร่ข้อเท็จจริงจากชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว

 

ด้วยบุคลิกนักรบใจแกร่ง ที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่ชายแดนอีสานใต้ ทุกข้อมูลที่เกี่ยวกับ MOU43 ของ พล.ต.ณัฏฐ์ จึงได้รับความสนจากประชาชนไทยจำนวนมาก

 

เหนืออื่นใด พล.ต.ณัฏฐ์ เคยผ่านสมรภูมิเขาพระวิหาร ช่วงปี 2551-2554 โดยเฉพาะยุทธการเขาสัตตะโสม ใกล้ผามออีแดงและเขาพระวิหาร เพื่อปกป้องแผ่นดินไทย

 

ผ่าความจริงที่ช่องบก

 

ก่อนอื่นที่จะพูดถึง “ความจริง 11 ข้อ” ของ พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ควรทำความเข้าใจเรื่อง “MOU 2543” ซึ่งเป็นเรื่องของกรอบในการเจรจาปักปันเขตแดนทางบก ระหว่างไทยกับกัมพูชา 

 

สาระสำคัญระบุว่า ไทย-กัมพูชา ตกลงกันเรื่องเขตแดนยังไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแต่ละฝ่ายจะรุกล้ำไม่ได้ เปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไม่ได้ ไม่ว่าจะสร้างสิ่งก่อสร้างอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นถนน วัด ตลาด ฯลฯ 

 

พล.ต.ณัฏฐ์ กลับชี้ให้เห็นว่า “ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาละเมิด MOU43 มาโดยตลอด ขยายชุมชน สร้างกาสิโน ปลูกพืชไร่ประชิดชายแดน ที่เป็นการทำลายสันปันน้ำ เราประท้วง 400 กว่าครั้งแต่ให้ความร่วมมือแก้ไขน้อยมาก ในขณะที่ฝั่งเราเป็นเขตอุทยานเข้าไปทำอะไรไม่ได้”

 

สาเหตุที่ทหารไทยรับไม่ได้คือ "วันที่ 28 ก.พ.68 กัมพูชาเผาศาลาตรีมุข เคลื่อนกำลังขึ้นมาวางที่ต้นพญาสัตบรรณซึ่งล้ำอธิปไตยไทยเข้ามาประมาณ 150 ม. รวมถึงขุดคูเลททำลายสันปันน้ำละเมิด MOU43"

 

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ณัฏฐ์ ไม่ได้คิดแต่จะรบสถานเดียว จึงเสนอว่า “...เรามาเปิดหน้าคุยกันอย่างลูกผู้ชายดีกว่าไหม ถ้าเรื่องถึงโรงถึงศาลลูกหลานเราก็จะเป็นปรปักษ์กันตลอดไป จะเกิดประโยชน์อะไรถ้าคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน”

 

 

วีรกรรมเขาสัตตะโสม

 

ทำไม พล.ต.ณัฏฐ์ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊คในประเด็นข้อพิพาทไทย-กัมพูชา จึงมีผู้คนสนใจจำนวนมาก

 

อย่างที่ทราบกัน พล.ต.ณัฏฐ์ ไม่ใช่นักรบห้องแอร์ นับแต่รับราชการตั้งแต่เป็นนายร้อยจนขยับเป็นนายพล ก็อยู่ในพื้นอีสานใต้มาตลอด

 

เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาในพื้นที่เขาสัตตะโสม เขาพระวิหาร ช่วงปี 2552-2554 ในหมู่นักรบอีสานใต้ ใครก็พูดถึง พล.ต.ณัฏฐ์ และเพื่อนนักรบจากกรมทหารราบที่ 16

 

เวลานั้น พล.ต.ณัฏฐ์ เป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 (พัน ร.163 ) ค่ายบดินทรเดชาฯ จ.ยโสธร

 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2552 เวลา 16.30 น. ทหารกัมพูชาประมาณ 100 นาย ได้รุกขึ้นทางทิศตะวันออก เพื่อยึดเขาสัตตะโสม ทหาร พัน.ร.163 ได้ใช้เล่ห์กลลวง ร่วมกับการใช้กำลังเข้าผลักดันทหารกัมพูชาจนต้องล่าถอยไป เมื่อเวลา 23.30 น.

 

ทหารไทยได้นำกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ และตั้งฐานปฏิบัติการภูผา เพื่อรักษาแผ่นดินไทยมาจนถึงปัจจุบัน

 

เหตุการณ์ทหารไทยปะทะทหารกัมพูชาที่เขาสัตตะโสม เป็นจุดแรกๆของสมรภูมิรบเขาพระวิหาร ก่อนจะลามไปถึงปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย

 

ปลายปี 2566 พล.ต.ณัฏฐ์ สมัยเป็น ผบ.พล.ร.6 ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้ทำพิธีเปิดอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทย รำลึกถึงวีรกรรมทหารกล้า 20 นาย ผู้เสียสละต่อสู้กับทหารกัมพูชาที่มีจำนวนมากกว่า ณ ฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น เขาสัตตะโสม อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ