คอลัมนิสต์

“ฮุนเซน” ดึงไทยไปศาลโลก“ฮุนมาเนต” พร้อมรบ ฝ่ายค้านรุกเกาะกูด

“ฮุนเซน” ดึงไทยไปศาลโลก“ฮุนมาเนต” พร้อมรบ ฝ่ายค้านรุกเกาะกูด

02 มิ.ย. 2568

เดินเกมเร็ว! พิพาทไทย-กัมพูชาร้อนฉ่า “ฮุนเซน” ดึงไทยไปศาลโลกปมช่องบก “ฮุนมาเนต” พร้อมรบ ฝ่ายค้านสุมไฟเอาเกาะกูดคืนมา

เดินเร็ว ฮุนเซน ดึงไทยไปศาลโลกกรณีช่องบก ฮุนมาเนต พร้อมรบ ฝ่ายค้าน สมรังสี สุมไฟทวงคืนเกาะกูด

 

อย่าประมาทชาตินิยมกัมพูชา ทั้งเกมรักษาอำนาจตระกูลฮุน และเกมหาเสียงฝ่ายค้านพลัดถิ่น รุกกดดันไทย

 

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก และเนิน 500สามเหลี่ยมมรกต ยังอ่อนไหว เปราะบาง เสียงปืนจะแตกขึ้นอีกครั้งได้ทุกเวลา

 

ในมุมการเมือง สองพ่อลูกตระกูล “ฮุน” โดยสมเด็จฮุน เซน เปิดหน้าชกผ่านโซเชียลและใช้เวทีสภาฯ อธิบายที่มาที่ไปของช่องบกว่าเป็นเขตอธิปไตยของกัมพูชา

 

วันที่ 2 มิ.ย.2568 สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาญัติด่วนเรื่องความขัดแย้งด้านพรมแดนกัมพูชา-ไทย

 

สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา อธิบายว่า กัมพูชากับเวียดนาม ปักปันเขตแดนเสร็จสิ้นไปแล้ว 84% โดย 16% ที่เหลือยังอยู่ระหว่างการเจรจา 

 

กัมพูชาและลาว ปักปันเขตแดนไปแล้ว 86% โดยอีก 14% ที่เหลือยังอยู่ระหว่างการเจรจา แต่ชายแดนกัมพูชาและไทย ไม่สามารถทำอะไรสำเร็จเลยมา 25 ปีแล้ว 

 

ในกัมพูชา การเมืองชาตินิยมยังมีความสำคัญต่อพรรครัฐบาล สมเด็จฮุนเซน จึงพูดว่า “นี่ไม่ใช่การปลุกปั่นความโกรธ แต่เป็นเรื่องของอำนาจอธิปไตยของชาติ และตอนนี้เราจะรู้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รักชาติและใครที่รักประเทศอย่างแท้จริง เมื่อเราไม่สู้กลับ พวกเขาก็บอกว่า เราเป็นคนขี้ขลาดและไม่กล้าสู้”

เตรียมการสู่ศาลโลก

 

ทันทีที่กลับจากญี่ปุ่น ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เรียกประชุมผู้บัญชาการทหารระดับสูง เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน และสั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี)ฝ่ายกัมพูชา ทำในสิ่งดังต่อไปนี้

 

1.เตรียมจัดการประชุมเจบีซีกับไทยทันที เพื่อแก้ไขข้อพิพาทตามแนวชายแดน และดำเนินรังวัดปักปันเขตแดน และปักเสาเขตแดนระหว่างสองประเทศต่อไป

 

2.เตรียมบรรจุวาระการประชุมเจบีซี โดยนำประเด็นปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต-ช่องบก เข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือศาลโลก ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ 

 

สมเด็จฮุน เซน พูดถึงเรื่องที่กัมพูชาขอให้ไทยนำข้อพิพาทเรื่องพรมแดนขึ้นสู่ศาลโลก โดยบอกว่า วิธีการนี้ถือเป็นวิธีการที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการทางการทูต

 

“ฮุนเซน” ดึงไทยไปศาลโลก“ฮุนมาเนต” พร้อมรบ ฝ่ายค้านรุกเกาะกูด ภาพ: ที่ประชุมรัฐสภากัมพูชา มีมติเป็นเอกฉันท์หนุนนำปมพิพาทไทย-กัมพูชา สู่ศาลโลก

 

ฝ่ายค้านสุมไฟชาตินิยม

 

ฝั่ง สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน ที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ และผู้สนับสนุนของเขา ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ได้ปลุกกระแสชาตินิยม โดยเฉพาะประเด็นปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดนทั้งทางบกและทางทะเล ระหว่างไทยและกัมพูชา ขึ้นมาโจมตีรัฐบาลฮุน มาเนต 

 

ทำนองว่า รัฐบาลตระกูล “ฮุน” อ่อนแอ หรือไม่ก็สมคบกับรัฐบาลไทย ซึ่งมีทักษิณ ชินวัตร เพื่อนรักของสมเด็จฮุน เซน ชักใย เพื่อยกดินแดนและผลประโยชน์ให้กับไทย

 

กรณีรัฐบาลฮุน มาเนต จะนำประเด็นช่องบก ตาเมือนควาย ตาเมือนธม ขึ้นสู่ศาลโลก ทางฝ่ายค้านขอผลักดันให้ฟ้องศาลโลกกรณีเกาะกูด พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลด้วย

 

ปีที่แล้ว สม รังสี และพลพรรคได้จับเอาประเด็นเกาะกูดมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลฮุน มาเนต อ้างอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะกูด และขอให้นำเรื่องนี้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

 

20 กว่าปีที่แล้ว สม รังสี เคยปลุกกระแสชาตินิยม กรณีรัฐบาลสมเด็จฮุน เซน รับรองแผนที่ของเวียดนามในการปักปันเขตแดนคือ “การยอมจำนนทางดินแดน” 

 

เมื่อเร็วๆนี้ ฝ่ายค้านกัมพูชา ได้ปลุกกระแสเวียดนามกำลังรุกล้ำดินแดนกัมพูชาหลายจุด โดยเฉพาะใน 4 จังหวัดทางภาคตะวันออก ได้แก่ รัตนคีรี, มณฑลคีรี, กระแจะ และสตึงเตรง

 

นี่แหละจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่สองพ่อลูกตระกูล “ฮุน” ต้องเล่นบทแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา