
เกมชาตินิยม “ฮุนเซน” ปักธงสามเหลี่ยมมรกต รบก่อนยึดคล้ายพระวิหาร
ปมการเมืองเกมชาตินิยม บีบ “ฮุนเซน” ปักธง “สามเหลี่ยมมรกต” ตามแนวทางยึดเขาพระวิหาร แม้จะสนิทกับตระกูลชินวัตร
ช่องบกระอุเดือด "ฮุน เซน" ประกาศเขตอธิปไตย เหนือ "สามเหลี่ยมมรกต" เดินตามแนวทางศาลโลก ยึดปราสาทพระวิหาร
ปมการเมืองชาตินิยม บีบ ฮุน เซน-ฮุน มาเนต เล่นบทกร้าวกับทหารไทย แม้ส่วนตัวจะสนิทชิดเชื้อกับตระกูล "ชินวัตร"
เหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 จบลงที่โต๊ะเจรจาของ ผบ.ทบ. 2 ประเทศคือ ไทยและกัมพูชา โดยทหารทั้งสองฝ่าย ถอนกำลังออกจากจุดปะทะ กลางดึกคืนวันที่ 30 พ.ค.2568 สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊คแสดงความเห็นส่วนตัวต่อเหตุการณ์ที่สามเหลี่ยมทองคำหรือช่องบก
กลุ่มหัวรุนแรงไทยบางคน พวกเขามีเจตนาที่จะทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลและประชาชนของทั้งกัมพูชาและไทย
สมเด็จฮุน เซน พยายามแยกรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ออกจาก "กลุ่มหัวรุนแรง" และ "นายทหารระดับล่าง" บางคน
เนื่องจากอดีตนายกฯฮุน เซน อ่านเกมการเมืองไทยอยู่ตลอดเวลา และรู้ว่า รัฐบาลแพทองธาร กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากอยู่ในบางเรื่อง
เป็นข่าวครึกโครมในไทย เมื่อสมเด็จฮุน เซน อ้างหลักฐานว่า พื้นที่“สามเหลี่ยมมรกต” รอยต่อไทย-ลาว-กัมพูชา เฉพาะบริเวณศาลาตรีมุข(รวมทั้งช่องบก) เป็นของกัมพูชา
-
ตามสูตรยึดพระวิหาร
สมเด็จฮุน เซน อ้างมีกองทหารกัมพูชาประจำการอยู่สามเหลี่ยมมรกตตั้งแต่ก่อนข้อตกลงสันติภาพปารีส 14 ปี ก่อนมีบันทึกความเข้าใจปี 2000 UNTAC
"หากยังไม่ชัดเจน กัมพูชาและไทย อาจตกลงนำเรื่องนี้ ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก โดยใช้แผนที่อย่างเป็นทางการที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ"
พร้อมกันนั้น สมเด็จฮุน เซน ได้โพสต์ภาพถ่ายเป็นหลักฐาน "...ฉัน ภรรยา และเพื่อนร่วมงานที่ไปเยี่ยมชมพื้นที่ดังกล่าวเมื่อกว่า 15 ปีที่แล้ว พิสูจน์ได้ชัดเจนว่านี่คือดินแดนของกัมพูชา"
ภาพชุดที่ว่านั้น สมเด็จฮุน เซน และท่านผู้หญิงบุน รานี ยืนถ่ายรูปที่ด้านหน้าศาลาตรีมุข หรือที่กัมพูชาเรียกว่า ศาลาร่มฉัตร
ก่อนที่สมเด็จฮุน เซน จะมาเยือนศาลาตรีมุข ประมาณ 3 ปี ทางกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้ยืนยันว่า ศาลาตรีมุข อยู่ในในเขตแดนของกัมพูชา ระหว่างนั้น ก็มีภาพทหารกัมพูชาในชุดพรางอาวุธครบมือ ยืนเรียงแถวที่หน้าศาลาตรีมุข เผยแพร่ในสื่อเขมร
ต่อมา คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา(เจบีซี) จึงขอให้กัมพูชาถอนกำลังออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว เพื่อรักษามิตรภาพและความไว้เนื้อเชื่อใจ ระหว่างทั้งสองประเทศระหว่างรอการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน
-
ปมการเมืองชาตินิยม
สมเด็จฮุน เซน แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ขัดแย้งกัมพูชา-ไทย ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวระบุชัดว่า "...เป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งของโครงการที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อยึดครองดินแดนจากกัมพูชา ซึ่งขับเคลื่อนโดยผู้บังคับบัญชาระดับล่างและได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มหัวรุนแรงของไทย"
อย่างที่ทราบกัน อดีตผู้นำกัมพูชาคนนี้ เป็นผู้ช่ำชองในเกมการเมืองชาตินิยม และใช้ประเด็นชาตินิยมรักษาฐานอำนาจมากว่า 40 ปี จนามาถึงรุ่นลูกคือ ฮุน มาเนต นายกฯคนปัจจุบัน
เหนืออื่นใด ตระกูล "ฮุน" มีปมความขัดแย้งเรื่องพรมแดนกับเวียดนามเช่นกัน ซึ่งสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน ก็จะกล่าวหาว่า ฮุน เซน ยอมให้เวียดนามยึดดินแดนกัมพูชาโดยไม่โต้แย้ง เนื่องจากเวียดนามเคยช่วยฮุน เซน และพวกโค่นเขมรแดง
สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยว่า เพื่อป้องกันข้อครหาที่ฝ่ายค้านในกัมพูชา อาจโจมตีว่าเอาผลประโยชน์ส่วนตัวมาก่อนประเทศชาติ ผู้นำกัมพูชา จึงต้องแสดงท่าทีไม่ยอมไทย
"ต่อให้สนิทกับคุณทักษิณมากกว่านี้ สิ่งที่ฮุนเซนต้องแสดงคือ เขาไม่ยอมเป็นลูกไล่ใคร" สุภลักษณ์ กล่าว
นั่นจึงเป็นที่มาของถ้อยแถลง "สามเหลี่ยมมรกตหรือช่องบก" เป็นของกัมพูชา และ "ทหารไทยต้องถอยออกจากเขตอธิปไตยกัมพูชา" เพื่อทั้งฮุนเซน และฮุน มาเนต ได้แสดงความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งให้ชาวเขมรได้ประจักษ์