คอลัมนิสต์

ทำเป็น "ธรรมนัส-นฤมล" เช็กชื่อ สส. "กล้าธรรม" รหัส 26+11 เขย่าน้ำเงิน

ทำเป็น "ธรรมนัส-นฤมล" เช็กชื่อ สส. "กล้าธรรม" รหัส 26+11 เขย่าน้ำเงิน

27 พ.ค. 2568

เช็กไพร่พล "ธรรมนัส-นฤมล" หงายไพ่ "กล้าธรรม" รหัส 26+11 แบ็กอัปแพทองธาร เขย่าขวัญสีน้ำเงิน

รหัสร้อน 26+11 ธรรมนัส-นฤมล หงายไพ่กล้าธรรม แบ็กอัปแพทองธาร เขย่าขวัญสีน้ำเงิน หลังงบฯผ่าน อะไรก็เกิดขึ้นได้

 

เช็กไพร่พลกล้าธรรม เสริมทัพจาก 4 สส.พรรคร่วมรัฐบาล และ 7 สส.พรรคฝ่ายค้าน เตรียมโชว์ตัวในวันโหวตงบฯ 69

ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลระหว่างแดง-น้ำเงิน ลดความร้อนแรงชั่วคราว เมื่อมีโปรแกรมคั่นเวลา สภาฯมีนัดเปิดประชุมสมัยวิสามัญวันที่ 28-31 พ.ค. 2568 วาระสำคัญอยู่ที่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2569 และรวมไปถึงการผ่านงบฯ 1.57 แสนล้านบาท ที่ปรับจากคิวแจกเงินหมื่นเฟส 3

ด้วยเม็ดเงินมโหฬาร จึงเกิดรายการสามัคคีชุมนุมโดยอัตโนมัติ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลต่างต้องการใช้งบฯ สร้างฐานการเมือง

อย่างไรก็ตาม หลังงบฯผ่าน อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทั้งปรับ ครม. และมากไปกว่านั้นอาจถึงขั้นยุบสภาฯ หากมีวิกฤตการเมืองแล้วหาทางออกไม่ได้

เฉพาะหน้าจำนวน “เสียง” ในวันลงมติโหวตงบฯ 69 จะเป็นการส่งสัญญาณทางการเมือง ขั้วรัฐบาลมีเสียงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เชื่อว่า สื่อทุกสำนักต้องแกะตัวเลขนั้นออกมาแน่นอน

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม จึงให้สัมภาษณ์กรณีการลงมติงบฯ 69 จะมีเสียงที่สนับสนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากกล้าธรรมหรือไม่
 

“น่าจะมี 11 เสียง บวกจากของเดิมที่พรรคมี 26 เสียง” นฤมล ตอบอย่างมั่นใจ


สอดรับกับ ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ที่เปิดเผยผ่านสื่อเมื่อเร็วๆ นี้ว่า “...ที่เป็น สส.กล้าธรรม 100% แล้ว มี 26 คน ส่วนกลุ่มเราทั้งหมดที่ได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส มี 36-37 แต่เราทำทุกอย่างไม่เคยต่อรองกับพรรคเพื่อไทย..”

พรรคกล้าธรรม ขยายจาก 24 ที่นั่ง เพิ่มเป็น 36-37 ที่นั่งภายในเวลาไม่ครบขวบปี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กลายเป็นผู้ถือดุลคนสำคัญในขั้วอำนาจบ้านจันทร์ส่องหล้า

หากสถานการณ์การเมืองพลิกผันในวันข้างหน้า เพื่อไทยต้องเปลี่ยนสูตรคณิตศาสตร์การเมือง โดยไม่มีภูมิใจไทย กล้าธรรมก็แบ็กอัปรัฐบาลได้

 

เช็กชื่อ สส.เสริมทัพ


วันที่เปิดตัวพรรคกล้าธรรม มี สส.เขต 20 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 4 คน ซึ่งได้ สส.เพิ่ม 1 คน จากการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 คือ ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ รวมทั้งสิ้น 25 คน

สำหรับ 4 สส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่แสดงตัวว่า ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมแล้วก็คือ เอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น ที่ทางพรรคภูมิใจไทย มีมติขับออกมาแล้ว

กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ ยังสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่ใจมาอยู่พรรคกล้าธรรมแล้ว เช่นเดียวกันกับ 2 สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ

นั่นคือ พันธ์ศักดิ์ บุญแทน สส.สุราษฏร์ธานี และ ปรเมษฐ์ จินา สส.สุราษฏร์ธานี ที่เป็นสายตรงของ “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตนายก อบจ.สุราษฏร์ธานี

หากนับรวม สุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ที่เป็นคนสนิทกับ ร.อ.ธรรมนัส รวมทั้งหมด 5 คน

สำหรับพรรคฝ่ายค้าน ที่เห็นหน้าเห็นตาแล้ว 6 คนคือ กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน

สส.ฝ่ายค้านอีก 5 คนมาจากพรรคไทยสร้างไทย ประกอบด้วย ฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ, รำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี, สุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร, หรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี และอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี  

สร้าง สส.พันธุ์ใหม่


ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ได้กล่าวถึงการเตรียมตัวผู้สมัคร สส.ว่า “มีการทำโพลว่าใครจะมาลง ไม่ใช่เอาใครมาลงแล้วดูแลชาวบ้านไม่ได้..ปัจจัยแรก ต้องมีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน ดูว่าดีเอ็นเอตรงกับเราไหม”

สส.ไผ่ เน้นว่า กล้าธรรมต้องการนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่สามารถทำงานตามแนวทางพรรค ใจถึงพึ่งได้ เข้าถึงประชาชน

“เราต้องดูทีละจังหวัด ต้องล็อกเป้า ต้องดูทีละเขตที่เราสามารถเข้าทำได้” นี่คือแนวทางการทำงานในพื้นที่ของพรรคกล้าธรรม