
สัญญาณลบ "ยิ่งลักษณ์" กลับไทยยาก สู้ "จำนำข้าว" งัดขายข้าว 10 ปี เปิดคดี
สู้ชดใช้หมื่นล้าน "ยิ่งลักษณ์" ตั้งหลักสู้คดีขายข้าวจีทูจี งัดขายข้าว 10 ปีไม่เน่า แม้หนทางกลับไทยเลือนราง
ช้ำแล้วช้ำอีก ยิ่งลักษณ์ ชดใช้หมื่นล้าน เหตุขายข้าวจีทูจี มหากาพย์จำนำข้าวยังไม่จบ แต่หนทางกลับไทยยากขึ้น
เฉลยปริศนา ภูมิธรรม กินข้าว 10 ปี ทนายยิ่งลักษณ์ ยื่นหลักฐานใหม่ขายข้าวได้แสนล้าน หวังหักลบหมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว
วันที่ 22 พ.ค. 2568 ที่ศาลปกครองสูงสุด ได้มีการอ่านคำพิพากษาในคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท
สรุปว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ยิ่งลักษณ์ ชดใช้เฉพาะค่าเสียหายที่เกิดเฉพาะในส่วนของการระบายข้าว(จีทูจี) 50% คือ 1 หมื่นกว่าล้านของมูลค่า 2 หมื่นกว่าล้านบาท เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการ
ด้าน นรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของยิ่งลักษณ์ จึงเตรียมยื่นหลักฐานชิ้นใหม่สู้และขอพิจารณาคดีใหม่ เรียกร้องความเป็นธรรมให้ยิ่งลักษณ์ แต่ถ้าศาลไม่รับถือว่าทุกอย่างจบ
เนื่องจากมีข้อเท็จจริงที่ว่า ในวันที่มีการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 มีข้าวเหลือในคลัง 18.9 ล้านตัน ซึ่งปัจจุบันข้าว 18.5 ล้านตัน เพิ่งถูกขายหมดภายในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
สอดรับกับ ภูมิธรรม เวชยชัย ให้สัมภาษณ์ว่า หากใช้การระบายข้าวล็อตสุดท้าย สมัยเป็น รมว.พาณิชย์ เป็นข้อต่อสู้คดียิ่งลักษณ์ และพิสูจน์ให้เห็นว่า ข้าวไม่เน่าขายกิโลละ 18 บาท เรื่องนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อจำเลย ต่างจากสมัยรัฐบาลประยุทธ์ที่ตีเป็นข้าวเน่า ขายได้กิโลละ 5-6 บาท
กลับบ้านสัญญาณลบ
ปฎิกิริยาของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อผลการคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดถือว่า มีคำแถลงพร้อมอินโฟกราฟฟิกเร็วมาก
“ตลอดเวลา 11 ปี นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 สิ่งที่ดิฉันจำต้องพบเจอซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือ ยึดอำนาจ ยัดคดี อายัดทรัพย์ และเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องมาบังคับให้ใช้หนี้
ความรู้สึกแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คงไม่มีใครรู้ แต่ถึงกระนั้นดิฉันก็จะเรียกร้องต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในชีวิต จนถึงที่สุดตามกฎหมายที่พึงกระทำได้”
อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ยังยืนยันต่อสู้คดีนี้ต่อไป ตามที่ทนายความเตรียมขอศาลทำคดีใหม่
กูรูการเมืองบางสำนักวิเคราะห์ว่า แผนจะกลับเมืองไทยคงพักไปแบบยาวๆ เนื่องจากผลแห่งคดีชดใช้การระบายข้าวนับหมื่นล้าน ดูแล้วสัญญาณไม่เป็นบวก
การกลับไทยเพื่อมารับโทษที่ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 5 ปี แล้วยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษหรือลดโทษ คงใช้แผนเดียวกับพี่ชายไม่ได้
กินข้าว 10 ปีมีคำตอบ
หลายคนกังขามานาน กรณี ภูมิธรรม เวชยชัย สมัยเป็น รมว.พาณิชย์ ได้พาสื่อไปจัดอีเวนท์กินข้าว 10 ปีที่สุรินทร์นั้น มีเบื้องหลังอะไรหรือไม่
ในที่สุดก็ได้คำตอบจากปากภูมิธรรมว่า การระบายข้าวล็อตสุดท้าย ซึ่งเป็นข้าวในโครงการจำนำข้าวที่ไม่เน่า จะเป็นหลักฐานใหม่ไว้สู้คดีการระบายข้าว (จีทูจี)
ย้อนไปเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2567 ภูมิธรรม เปิดอีเวนท์ไม่ลองไม่รู้กิน ข้าว 10 ปี ที่โรงสี ส.ชัยเจริญ ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
โรจนินทร์ หิรัญโชคอนันต์ เจ้าของโรงสีข้าว ผู้ยืนเคียงข้างภูมิธรรม กินข้าวโชว์สื่อในวันนั้น เป็นกรรมการผู้จัดการโรงสีสุรินทร์ชัยเจริญ จำกัด
ที่สำคัญ “นายกเป๊ปซี่” หรือโรจนินทร์ หิรัญโชคอนันต์ เป็นผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทย หรือพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ จ.สุรินทร์
ไม่แปลกเลยเมื่อปลายปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร จะโผล่ไปร่วมงานอุปสมบทหมู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งมี “นายกเป๊ปซี่” เป็นประธานจัดงานดังกล่าว
ถ้อยแถลงของภูมิธรรมเรื่องระบายข้าวล็อตสูดท้าย ได้เฉลยว่า นายกเป๊ปซี่คือตัวละครลับในคดีจำนำข้าวนั่นเอง