คอลัมนิสต์

กลืนเลือด "อนุทิน" พรรคสีน้ำเงินสะเทือน "ฮั้ว สว." ส่อวิกฤตล้างกระดาน

กลืนเลือด "อนุทิน" พรรคสีน้ำเงินสะเทือน "ฮั้ว สว." ส่อวิกฤตล้างกระดาน

19 พ.ค. 2568

สงครามตัวแทน "อนุทิน" กลืนเลือด "ฮั้ว สว." ลาม รมต.สีน้ำเงิน สายตรงครูใหญ่ สภาสูงป่วน ส่อปรับดุลอำนาจใหม่

หยุดไม่ได้ อนุทิน กลืนเลือดคดีฮั้ว สว. ลามรัฐมนตรีสีน้ำเงิน แกนนำสายตรงครูใหญ่ สภาสูงป่วน ส่อเขย่าดุลอำนาจใหม่

 

โฟกัสสงครามตัวแทน แดง-น้ำเงิน ขับเคี่ยวหมัดแลกหมัด เกมนิติสงคราม ใครเพลี่ยงพล้ำ มีโอกาสแพ้ทั้งกระดาน

คดีฮั้ว สว.เดินเร็วขึ้น ช่วงวันที่ 19-22 พ.ค. 2568 บรรดา 55 สว.ที่ได้รับหมายเรียกล็อตแรก ทยอยเข้าชี้ต่ออนุกรรมการไต่สวนของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ว่ากันว่า อนุกรรมการไต่สวน กกต. ได้ทยอยออกหมายเรียกผู้ถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้ว สว.เพิ่มเติม เกินกว่า 140 คนแล้ว ในจำนวนนี้มีรายชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็น สว. เป็นคนนอก อย่างเช่นมีการปล่อยชื่อหลุดออกมาแล้ว อาทิ นภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ,ศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาฯ และวาริน ชินวงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณี กกต.ออกหมายเรียกเพิ่มผู้ถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้ว สว.ว่า ทุกคนต้องไปชี้แจง เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม

ที่ผ่านมา อนุทิน พยายามบอกกับนักข่าวว่า กรณีฮั้ว สว. ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย และไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งระหว่างแดง-น้ำเงิน

สำหรับ นภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ถือว่า เป็นแกนนำภูมิใจไทยในพื้นที่ภาคตะวันตก รับผิดชอบราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และเพชรบุรี

ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวในดีเอสไอได้เปิดเผยว่า คดีฮั้ว สว.จะเกี่ยวโยงกับรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี และแกนนำพรรคใหญ่ ซึ่งน่าจะมีการออกหมายเรียกไปแล้ว เพียงแต่ชื่อยังไม่หลุดมาถึงสื่อ

อนุทิน กลับจากรักษาผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา เผชิญเกมฮั้ว สว.

น้ำเงินเพลี่ยงพล้ำ


นับแต่มีการประกาศผลเลือก สว. ในทางการเมืองก็รับรู้กันอยู่แล้วว่า “สว.สีน้ำเงิน” กว่า 130 คนนั้น ได้รับเลือกมาแบบไหน และเวลานั้น ก็มี สว.สอบตกจำนวนหนึ่ง ได้เข้าร้องเรียนต่อ กกต.เรื่องฮั้วเลือก สว.

ทุกสำนักข่าววิเคราะห์ตรงกันว่า เครือข่ายสีน้ำเงิน ที่มี เนวิน ชิดชอบ เป็นผู้นำจิตวิญญาณ เข้ายึดกุมสภาสูง โดยเชื่อกันว่ามีอำนาจพิเศษ เป็นแบ็กอัป

พลันที่คดีฮั้ว สว. อยู่ในมือดีเอสไอ ภายใต้กระทรวงยุติธรรม จึงถูกมองว่า เป็นสงครามตัวแทน และมีเป้าหมายสลาย สว.สีน้ำเงิน เพื่อการบั่นทอนอำนาจของเครือข่ายสีน้ำเงิน

ขณะที่คดีฮั้ว สว.เดินหน้าไปเรื่อยๆ รัฐบาลผสมข้ามขั้ว ที่มี แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นตัวละครหลัก ยังต้องเล่นไปตามบท เพื่อประคับประคองรัฐนาวาลำนี้

มีการประเมินกันว่า สงครามตัวแทนในคดีฮั้ว สว. อาจจบลงที่ สว.จำนวนหนึ่ง หรือรัฐมนตรีบางราย ต้องสังเวยเกมนี้ เพื่อให้แดง-น้ำเงินกอดคอร่วมรัฐบาล ในเวลาที่เหลืออยู่ประมาณ 2 ปี

ฝ่าเกมนิติสงคราม


ฝั่งครูใหญ่บุรีรัมย์ ต้องแก้เกมคดีฮั้ว สว. ที่ลามมาถึงรัฐมนตรี และแกนนำภูมิใจไทย ฝั่งนายใหญ่และลูกสาว ก็ลุ้นระทึกกับคดีชั้น 14 และคำร้องเรื่องจริยธรรมในหลายกรณี

ผลพวงจาก “ดีลพิเศษ” จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ทำให้ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับบ้าน แต่ประมุขบ้านจันทร์ส่องหล้า คงคาดไม่ถึงว่า จะต้องมาเผชิญเกมนิติสงคราม

ทั้งคดี ม.112 และคดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ อันเนื่องจากระหว่างรับโทษจำคุก โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย. 2568

เช่นเดียวกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีคำร้องอยู่ใน ป.ป.ช.ประกอบด้วย

1. คำร้อง สอบปมตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋ว PN 4.4 พันล้านบาท ส่อเข้าข่ายเลี่ยงภาษี 218.7 ล้านบาท

2. คำร้อง สอบโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ อยู่ในเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเอง-ต้นน้ำลำธาร ห้ามออกโฉนด ทำธุรกิจหรือไม่

3. คำร้อง เรียกสอบการเอื้อทักษิณ กรณีรักษาตัวชั้น 14 หลังแพทยสภาลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

นับจากนี้ไป อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ตลอดเวลา เมื่อคดีฮั้ว สว.ลามลึกไปเรื่อยๆ และคดีชั้น 14 ส่อพลิกผันสั่นสะเทือน