พิษพ่าย อบจ. “ชาญ” ช้ำ มท.1 เชือดเพื่อน “เอกพจน์” กรรมเก่าเด็กบุรีรัมย์ | คมชัดลึก

อบจ.เอฟเฟกต์ ชาญ พ่ายไม่ทันหายช้ำ มท.1 ฟัน เอกพจน์ เพื่อนตายสหายศึก ลือสนั่นปทุม บุรีรัมย์เช็กบิลลุงตัวดำๆ

 

ศึกนายก อบจ.ปทุมฯ ในมิติการเมืองระดับชาติ ยกแรกแดงปะทะน้ำเงิน ยกสอง แดงเทชาญ น้ำเงินได้ทีขี่แพะไล่ลุงบ้านใหญ่สามโคก

 

การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี รอบใบเหลือง จบลงด้วยชัยชนะของ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เตรียมเป็นผู้บริหาร อบจ.สมัยที่ 2

 

สำหรับ ชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้พ่ายกลายเป็นคนถูกเท แถมเจอกรรมเก่าไล่ล่า ทั้งที่โดนกับตัวเอง และเพื่อนนักการเมือง

หลัง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ลงนามคำสั่งให้ เอกพจน์ ปานแย้ม พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2567 กรณี ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดฐานทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชน ผู้ได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

 

เอกพจน์ ปานแย้ม หรือที่รู้จักกันในนาม เอกพจน์ วงศ์นาค อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เป็นเพื่อนร่วมรบของ ชาญ พวงเพ็ชร์ มาตั้งสมัยที่เอกพจน์ ยังเป็น สส.ปทุมธานี

 

ต้นปี 2564 เอกพจน์ ปานแย้ม ลงสมัครนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ในนามกลุ่มเพื่อนเอกพจน์ โดยลุงชาญเป็นกองหนุน ชนะคู่แข่งสายบิ๊กแจ๊ส

 

การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ทั้งสองรอบ เอกพจน์ ได้ให้การหนุนช่วยลุงชาญเต็มที่ และเขาเพิ่งเปิดสำนักงานใหม่กลุ่มเพื่อนเอกพจน์ เพื่อเตรียมตัวลงสนามเลือกตั้งนายกเล็กคลองหลวง

แดงปะทะน้ำเงิน

 

การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อ 30 มิ.ย.2567 เป็นศึกศักดิ์ศรีของตระกูลชินวัตร และ 8 บ้านใหญ่เมืองปทุม ที่ต้องรวมพลังหนุนลุงชาญ

 

เนื่องจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้ย้ายจากค่ายสีแดงไปอยู่ค่ายสีน้ำเงิน การหาเสียงจึงเข้มข้น เพื่อไทยทุ่มสรรพกำลังมาช่วยลุงชาญเต็มที่ จึงเบียดเอาชนิดบิ๊กแจ๊สไปได้

 

พลันที่ กกต.แจกใบเหลืองลุงชาญ ด้วยข้อหางานบวชลูกนายกเบี้ยว ทำให้ค่ายเพื่อไทย ไม่มีโอกาสเปลี่ยนตัว จึงต้องส่งลุงชาญลงสนาม

 

ทันทีที่ตั้งตัวได้ ลุงชาญ จึงให้สัมภาษณ์ทำนองว่า แพ้ กกต. 7 คน เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า เกมนี้มีใครบางคนเล่นเกมมัดมือชก ถ้าได้ใบแดง เพื่อไทยก็เปลี่ยนตัวได้ แต่เป็นใบเหลือง ลุงชาญเลี่ยงไม่ได้

 

ที่สำคัญ ชาญ พวงเพ็ชร์ สมัยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ปี 2555 ถูกร้องเรียนกรณีทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และส่งฟ้องศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1

 

ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบภาค 1 สระบุรี ได้นัดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 24 ต.ค.2567

 

ดังนั้น การลงสนามรอบสอง ลุงชาญ จึงขอสู้ตามลำพัง ไม่ให้พรรคเพื่อไทยเข้ามายุ่งด้วย แต่ก็มีบ้านใหญ่ 2-3 ซุ้มที่ยังยืนเคียงข้าง

 

ศิษย์เก่าค่ายบุรีรัมย์

 

ชั่วโมงนี้ ลุงชาญคงต้องกลืนเลือด รับผลกรรมที่ทำมาในอดีต และอาจคิดถึงวันคืนเก่าๆ ที่เคยอยู่ใต้ร่มธงสีน้ำเงิน

 

ปี 2554 เนวิน ชิดชอบ รวบรวม “นายก อบจ.” ภาคกลางมาสังกัดค่ายสีน้ำเงิน รวมถึง ชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ.ปทุมธานี

 

ลุงชาญจัดทีมผู้สมัคร สส.ปทุมฯ ภูมิใจไทย ลงชนเพื่อไทยทุกเขต แต่ก็พ่ายแพ้กระแสเสื้อแดง

 

ปี 2562 ลุงชาญ ยังเป็นแม่ทัพภูมิใจไทย จัดทีมผู้สมัคร สส.ทั้ง 6 เขต แต่ก็ได้ สส.มาแค่คนเดียวคือ พิษณุ พลธี

 

ปลายปี 2563 ผลพวงจากสนามผู้แทนฯ กลายเป็นโดมิโน่มาถึงสนามนายก อบจ.ปทุมฯ ชาญแพ้ พล.ต.อ.คำรณวิทย์ แบบไม่ได้ลุ้น

 

ปี 2565 ลุงชาญ แยกตัวออกจากค่ายบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เนวิน จึงมอบให้สมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.กรุงเก่า บ้านใหญ่วังน้อย เข้ามาดูแลจัดทัพผู้สมัคร สส.ปทุมธานี

 

ต้นเดือน มี.ค.2566 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ , อนุทิน และซ้อสมทรง ร่วมกันเป็นประธานงานอุปสมบทลูกชายของ นพพร ขาวขำ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลคูขวาง ที่วัดบ่อทอง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

 

นั่นคือการเปิดตัวของ “บิ๊กแจ๊ส” ภายใต้ร่มธงสีน้ำเงิน และเป็นชนวนเหตุให้นายใหญ่บอกลาน้องแจ๊ส