คอลัมนิสต์

งูเห่าสีแดง “สุภาพร” แหกค่ายอุ้ม “อุ๊งอิ๊ง” ที่แท้ซุ้มเพื่อไทยเมืองบั้งไฟ

งูเห่าสีแดง “สุภาพร” แหกค่ายอุ้ม “อุ๊งอิ๊ง” ที่แท้ซุ้มเพื่อไทยเมืองบั้งไฟ

21 ส.ค. 2567

โนสนโนแคร์ เตี้ย สุภาพร สส.ยโสธร งูเห่าหนุนอุ๊งอิ๊ง เตรียมซบค่ายสีแดง สืบพบมาจากซุ้มบ้านใหญ่เพื่อไทยเมืองบั้งไฟ

แดงของแทร่ เตี้ย สุภาพร สส.ยโสธร งูเห่าหนุนอุ๊งอิ๊ง ถูกขับออกจากไทยสร้างไทย เตรียมซบเพื่อไทย ดอกผลการเมืองอุปถัมภ์

 

โนสนโนแคร์ไทยสร้างไทย เตี้ย สุภาพร จากสาวพยาบาล ก้าวสู่การเมืองท้องถิ่น ใต้ร่มเงาซุ้มบ้านใหญ่ สายเพื่อไทยเมืองบั้งไฟมานานนับสิบปี

 

ในที่สุด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และแกนนำพรรคไทยสร้างไทย ตัดสินใจขับ สุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร เขต 1 ออกจากพรรค เนื่องจากมีพฤติกรรมโหวตสวนมติพรรค และเข้าร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคอื่นบ่อยครั้ง

 

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อปลายเดือน มี.ค.2567 ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยเป็นครั้งแรก ได้พบปะพูดคุย สส.และอดีต สส. พร้อมถ่ายร่วมกันตามรายกลุ่มจังหวัด

ปรากฏว่า มีภาพหลุดออกมาถึงสื่อเป็นภาพที่มี สุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร พรรคไทยสร้างไทย ร่วมเฟรมกับทักษิณ และ สส.เพื่อไทย

 

ต่อมา ช่วงอดีตนายกฯเศรษฐา ไปตรวจราชการในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม ก็จะมี สส.สุภาพร ไปร่วมต้อนรับพร้อม สส.เพื่อไทย

 

สำหรับคนเมืองบั้งไฟ จะไม่ค่อยรู้สึกแปลกใจในพฤติกรรมของ สส.สุภาพร กรณีที่ฝักใฝ่พรรคเพื่อไทย เพราะเธออยากลงสมัคร สส.ยโสธร ในนามเพื่อไทย แต่ติดขัดที่อดีต สส.เพื่อไทย ไม่ยอมถอย จึงต้องไปสวมเสื้อไทยสร้างไทย

สส.เตี้ย สุภาพร และสามี สจ.เดี่ยว สายเพื่อไทย

ที่มาของงูเห่าสีแดง

 

คนยโสธรจะรู้จัก สุภาพร สลับศรี ในชื่อ “สจ.เตี้ย” หรือ “อิหล่าเตี้ย” มานานหลายปี และหลายคนก็ไม่คาดคิดว่า เธอจะกลายเป็น “สส.เตี้ย” ในวันนี้

 

ดังนั้น เมื่อผลการเลือกตั้ง สส.ยโสธร เขต 1 (อ.เมือง อ.ป่าติ้ว) แชมป์เก่า 4 สมัย ปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ พรรคเพื่อไทย พ่ายสุภาพร สลับศรี คนเมืองบั้งไฟก็รู้สึกทึ่งอยู่เหมือนกัน

 

ความพ่ายแพ้ของเสี่ยโอเล่-ปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ทำให้เกรียง กัลป์ตินันท์ พลอยเสียหน้าไปด้วย เพราะสนามยโสธร พรรคเพื่อไทยผูกขาดคว้า 3 ที่นั่งมาโดยตลอด ยกเว้นครั้งที่ผ่านมา เหลือแค่ 1 ที่นั่ง

 

ชัยชนะของ สส.เตี้ย-สุภาพร จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้สามีเป็นกองหนุน เพราะเสี่ยเดี่ยว-ผดุงเกียรติ สลับศรี เป็นที่ปรึกษาพิเศษนายก อบจ.ยโสธร และผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของเมืองบั้งไฟ

 

อันที่จริง เสี่ยเดี่ยว-ผดุงเกียรติ สลับศรี ก็ช่วย เสี่ยโอเล่ ปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ หาเสียงมาทุกสมัย และได้มีการเจรจากับเสี่ยโอเล่ ขอให้เว้นวรรค เพื่อเปิดทางให้สุภาพร ลงสนาม

 

เมื่อเสี่ยโอเล่ปฏิเสธ ทางเสี่ยเดี่ยวก็เดินหน้าส่งภรรยาลงสนาม โดยใส่เสื้อไทยสร้างไทย ประกอบกับชาวบ้านเบื่อ สส.เสาไฟฟ้าสีแดง จึงทำให้เตี้ย-สุภาพร พลิกเอาชนะเสี่ยโอเล่ อดีต สส. 4 สมัยไปได้

 

ต่างพรรคพวกเดียวกัน

 

กว่า 2 ทศวรรษ การเมืองยโสธร ได้ตกอยู่ในกระแสทักษิณ ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปี 2562 พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ยึดครอง 3 ที่นั่ง สส.ยโสธร มาโดยตลอด

 

ส่วนการเมืองท้องถิ่น กลับตกอยู่ในอาณัติของกลุ่ม สจ.บ้านใหญ่ ที่นำโดย นายกป้อม-สถิรพร นาคสุข อดีตนายก อบจ.ยโสธร ซึ่งอยู่ในซุ้มบ้านริมน้ำ ของสุชาติ ตันเจริญ

 

ในกลุ่มนายกป้อม ยังมี พิกิฏ ศรีชนะ อดีต สส.ยโสธร และเสี่ยเดี่ยว-ผดุงเกียรติ สลับศรี โดยนายก อบจ.ยโสธร คนปัจจุบันคือ วิเชียร สมวงค์ ก็ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนายกป้อม

 

สำหรับ วิเชียร สมวงค์ เป็นน้องชายบุญแก้ว สมวงศ์ สส.ยโสธร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เป็นนายก อบจ.ยโสธร 2 สมัย โดยมีเสี่ยเดี่ยว-ผดุงเกียรติ สลับศรี เป็นที่ปรึกษาพิเศษ

 

ด้วยเหตุนี้ เสี่ยเดี่ยว จึงพาภรรยา สส.เตี้ย สุภาพร เข้าไปพรรคเพื่อไทยโดยไม่เคอะเขิน เพราะเป็นบ้านหลังใหญ่ที่พวกเขาต้องการเข้ามาอาศัยอยู่ก่อนแล้ว

 

หากกระบวนการขับ สส.สุภาพร ของไทยสร้างไทย จบสิ้นแล้ว ก็เชื่อว่า สส.สุภาพร จะเดินเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน