17 ปีซุ่มซ่อน “เนวิน” ล้มแล้วลุกตำนาน “เสื้อน้ำเงิน” ขึ้นแท่นสายแข็งปีกขวา | คมชัดลึก

ย้อนเส้นทาง เนวิน กับขบวนการเสื้อน้ำเงิน ถูกตราหน้าว่า คนทรยศ ลุ้มลุกคลุกคลานนาน 17 ปี กว่าจะปักธงบุรีรัมย์โมเดล ทั้งธุรกิจและการเมือง 

 

ภูมิใจไทย มาพร้อมกับคนเสื้อน้ำเงิน ยุคแรกล้มเหลว ปัจจุบัน บริบทการเมืองเปลี่ยน เสื้อเหลือง-เสื้อฟ้าอ่อนแรง น้ำเงินผงาดเป็นตัวแทนขั้วอนุรักษ์

 

ผ่านไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ลมหายใจ ของแผ่นดิน ที่สนามช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ 

 

ผู้อยู่เบื้องหลังการจัดงานลมหายใจ ของแผ่นดินคือ เนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ซึ่งในวันงานมหามงคล เนวิน สวมสีน้ำเงิน ที่เขียนคำว่า “ฅนบุรีรัมย์” ไว้ที่หน้าอกเสื้อและด้านหลังเสื้อ

เสื้อ “ฅนบุรีรัมย์” ออกแบบโดย แนน-ชิดชนก ชิดชอบ ลูกสาวคนเก่งของเนวิน ที่ต้องการสื่อความเป็นคนบุรีรัมย์ และสีน้ำเงิน

 

คนรุ่นใหม่ชาวเมืองเซราะกราว ไม่มีใครทันได้เห็นภาพเดิมของเนวิน ในสังเวียนการเมือง วันนี้ ทุกคนรู้จักแต่ “ลุงเนวิน” ผู้สร้างเมืองบุรีรัมย์ให้มีชื่อเสียงด้วยกลยุทธ์เมืองกีฬา และเมืองอีเวนท์

 

ชั่วโมงนี้ ครูใหญ่เนวิน ผงาดขึ้นมาเป็นผู้มีบารมีนอกพรรคยุค 3 ก๊ก 3 ขั้วสีคือ สีแดง-ทักษิณ ชินวัตร ,สีส้ม-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และสีน้ำเงิน-เนวิน ชิดชอบ

 

 

นายใหญ่-ครูใหญ่

 

 

จะว่าไปแล้ว สัญญาณบวกกรณีนายใหญ่ กับครูใหญ่นั้น เริ่มปรากฏตั้งแต่ปลายปี 2564 เมื่อโทนี่หรือทักษิณ ได้สื่อสารผ่านแคร์คลับเฮาส์ มีผู้ฟังทางบ้านสอบถามโทนี่ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับเนวิน

 

“คุณเนวินมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง..ก็รู้จักกัน แต่การเมืองก็ทำห่างเหิน” โทนี่ตอบนิ่มๆ 

ทักษิณรำลึกความหลังสมัยที่ เลิศ ชินวัตร เป็น สส.เชียงใหม่ และชัย ชิดชอบ เป็น สส.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2512 ทั้งคู่ต่างเป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม สส.อิสระ 

 

“ผมเรียกพ่อเนวินว่าอา รู้จักพ่อเนวิน(กำนันชัย) ก่อนเจอเนวิน ตอนหลังมาก็ตอนที่อยู่ไทยรักไทย ก็สนิทกัน ขยันขันแข็ง”

 

หลังเลือกตั้งปี 2544 กำนันชัยและเนวิน ยังสังกัดพรรคชาติไทย ผ่านไปปีเศษ กำนันชัยจึงเอ่ยปากกับอดีตนายกฯทักษิณ ว่า “อาขอฝากลูกชายไปทำงานกับท่านนายกฯด้วยนะ”

 

ช่วงที่นายใหญ่-ครูใหญ่ แยกทางกันเดิน หลายคนอาจคิดว่าทั้งคู่คงแตกหักชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ แต่เนวิน ยอดนักกลยุทธ์การเมือง ก็สรุปบทเรียนจากความพ่ายแพ้

 

ปี 2561 เนวิน เลือกอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อลดโทนความขัดแย้ง และหวังให้เสี่ยหนูเป็นสะพานเชื่อมบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งมาถึงวันนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ครูใหญ่เซราะกราวคิดถูก เลือกใช้คนถูกที่ถูกเวลา

 

 

ตำนานเสื้อน้ำเงิน

 

 

นับแต่ก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย ปี 2552 โครงสร้างของพรรค ล้วนประกอบด้วย สส.ที่เรียกว่า นักการเมืองบ้านใหญ่ แต่ในเชิงอุดมการณ์ เนวิน เลือกใช้สีน้ำเงิน 

 

เหมือนเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2552 เนวิน ชิดชอบ ในวันที่ยังออกหน้าเป็นแม่ทัพภูมิใจไทย พูดถึงอุดมการณ์ของพรรค และภารกิจการปกป้องสถาบันฯ

 

“ผมไม่มีสี ในเรื่องของสถาบันเบื้องสูง ผมมีแต่สีของคนไทย และผมพร้อมที่จะเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ พร้อมกับทุกคนจะปกป้องสถาบัน”

 

คำว่า ไม่มีสีของเนวินเวลานั้น ไม่ใช่สีแดงหรือสีเหลือง ส่วนสีน้ำเงินที่เขาเลือกใช้เป็นสีประจำชาติอยู่แล้ว

 

ดังนั้น ช่วงปี 2552-2554 เนวิน ได้จัดตั้ง “คนเสื้อสีน้ำเงิน” เป็นขบวนการปกป้องสถาบันในกลุ่มรากหญ้าอีสาน พร้อมกับผุดวิทยุชุมชนชื่อ คลื่นปกป้องสถาบัน

 

หลังพ่ายแพ้เลือกตั้งปี 2554 เนวินบอบช้ำ ถูกประทับคนทรยศนายใหญ่ จึงถอยห่างเวทีการเมือง หันไปลุยปั้นสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือทีมปราสาทสายฟ้า

 

หลังจากนั้น เนวินทุ่มเทพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ โดยวางกลยุทธ์ใช้กีฬาหนุนการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล และมอเตอร์สปอร์ต จนประสบความสำเร็จ

 

 

ลึกๆแล้ว เนวินใช้กลยุทธ์ “ลูกหนัง” เป็นเรือธงสร้างพันธมิตรการเมือง และสร้างฐานเสียงให้ภูมิใจไทยมานานแล้ว