แม้วรุกฆาต “ประวิตร” ปิดล้อม “บ้านป่า” ผู้กุมดีลใหญ่ส่งซิกลอยแพ

เบื้องหลัง ประวิตร เจ้าพ่อบ้านป่า เจอทักษิณท้ารบ หลังบ้านจันทร์รับสัญญาณตรง ป.น้องเล็ก แยกทาง ป.พี่ใหญ่ ดีลไม่หักไม่ล้ม


10 ปี ระบอบ 3 ป. ได้เวลาปิดฉาก ประยุทธ์ พ้นวงจรอำนาจ ประวิตรหลงกลิ่นมายาการเมือง ไม่ยอมทิ้งบ้านป่า จึงถูกลูบคมเสียของ
 

ไม่ยอมทิ้งฝันบั้นปลายชีวิต ไม่ยอมปิดบ้านป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงเจอ ทักษิณ ชินวัตร ลูบคมกลางงานบวชที่ปทุมธานี
 

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คำให้สัมภาษณ์ของทักษิณ ในงานบวชลูกชายนายกเบี้ยว ที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กลายเป็นบทวิเคราะห์การเมืองอันร้อนแรงในสื่อทุกสำนัก

“หากจะมีคนวุ่นวายก็แถวบ้านในป่านั้นแหละ แต่ไม่เกี่ยวกับผม เกี่ยวกับรัฐบาล” ทักษิณตอบคำถามนักข่าวในประเด็นทำไมไม่ไปฟังอัยการสั่งฟ้องคดี 112 แต่ไพล่ไปแตะบ้านในป่า

พลันที่นักข่าวถามนำว่า พล.อ.ประวิตร หรือไม่ ทักษิณพลิ้วตอบว่า “ไม่รู้ มีใครบ้างอยู่ในป่า”

การเคลื่อนไหวของทักษิณครั้งล่าสุด สะท้อนว่า นายใหญ่มีความมั่นใจในดีลหลัก ไม่หัก ไม่ล้ม หรือมีข่าวบางกระแสว่า เคลียร์ซูเปอร์ดีลได้แล้ว
 

ด้านหนึ่ง อาการมั่นอกมั่นใจของนายใหญ่นั้น อาจมาจากสัญญาณที่ว่า พี่น้อง 2 ป. อยู่ในสถานะสายน้ำไม่ไหลกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นวงจรการเมือง และทำหน้าที่องคมนตรี รับใช้เบื้องพระยุคลบาท
 

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังฝันที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดในรัฐบาลสักครั้งในชีวิต จึงไม่ยอมปิดบ้านป่ารอยต่อฯ   

ล้มเศรษฐา-ล้มทักษิณ
 

จะว่าไปแล้ว ขบวนการ 40 สว.นั้น มีร่องรอยชัดเจนว่า มาจากบ้านป่ารอยต่อฯ ชนิดยากที่ปฏิเสธ นับตั้งแต่ตัวละครลับอักษรย่อ ‘พ.พาน’ อดีต สว.คนดัง ผู้เขียนคำร้องยื่นถอดถอนนายกฯเศรษฐา และพิชิต ชื่นบาน
 

รวมถึง สว.อีก 2 คนคือ มหรรณพ เดชวิทักษ์ และ วงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี ที่เป็นตัวเดินเกมล่ารายชื่อ สว. ก็ล้วนแต่ใกล้ชิดกับลุงบ้านป่า 
 

ส่วน สว.ตัวตึงอย่าง สมชาย แสวงการ, ประพันธ์ คูณมี, ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม และจเด็จ อินสว่าง ก็เป็นแกนเปิดในช่วงหลัง
 

อีกคนคือ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ก่อนหน้านั้น พรเพชร ถูกมองว่า อยู่ในสาย พล.อ.ประยุทธ์ หลังจากลุงตู่วางมือ ประธานสภาสูงคนนี้ ก็หันไปหาบ้านป่ารอยต่อฯ
 

เป้าหมายของ 40 สว.คือ สอยเศรษฐาร่วง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เปลี่ยนตัวนายกฯ หรืออาจถึงขั้นสลับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่

ตำนานล้มรัฐบาล
 

บ้านป่ารอยต่อ เป็นบ้านที่เป็นสัญลักษณ์เชิงอำนาจ อันหมายถึงที่ตั้งสำนักงานมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1.รอ.)
 

หลังเกษียณในตำแหน่ง ผบ.ทบ.เมื่อปี 2548 พล.อ.ประวิตร ก็นั่งทำงานที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด  

ปี 2552-2553 บ้านป่ารอยต่อ เคยเป็นเซฟเฮ้าส์จัดตั้งรัฐบาลพลิกขั้ว ที่มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
 

หลังการยึดอำนาจปี 2557 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ฝั่งบ้านป่ารอยต่อ โดยพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร มีบารมีล้นแผ่นดิน
 

ช่วงปี 2561-2562 บ้านป่ารอยต่อ เสมือนแหล่งชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์ เมื่อ พล.อ.ประวิตร กวาดต้อนนักเลือกตั้งเข้ามาพูดคุย และเตรียมการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ
 

สมัยรัฐบาลประยุทธ์ ภาค 2 บ้านป่ารอยต่อไม่ต่างจากทำเนียบสาขา 2 เพราะใครต่อใคร ก็วิ่งหาลุงป้อม ทั้งนักการเมือง กลุ่มทุน และข้าราช การทุกสี
 

ที่สำคัญ กลางปี 2564 บ้านป่ารอยต่อ ยังเคยเป็นกองบัญชาการโหวตล้ม ป.ประยุทธ์ ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเวลานั้น มีการเตรียมชู ป.ประ วิตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
 

บังเอิญแผนโหวตล้มรั่ว พล.อ.ประยุทธ์ จึงลงมือเชือด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจาก รมช.เกษตรฯ นับจากนั้นมา ป.ประยุทธ์ ก็ไม่เคยไว้ใจ ป.ประวิตร
 

ยุทธการล้มเศรษฐา ล้มทักษิณ จึงไม่บรรลุเป้าหมาย เพราะลุงตู่ ขออยู่อย่างสงบ ลุงบ้านป่าจึงพบแต่ความเจ็บช้ำอีกครา