ผู้พลิกเกม ‘วิษณุ’ ตัวช่วย ‘เศรษฐา’ เนติบริกร 13 รัฐบาล 9 นายกฯ

ตัวช่วย วิษณุ เครืองาม กลับทำเนียบนั่งกุนซือ สลค. เศรษฐา โล่งอก เป็นนายกฯคนที่ 9 ที่ใช้บริการเนติบริกร จุดพลิกเกม 40 สว.ยื่นสอยนายกฯ

 

เส้นทางนักกฎหมายมือฉมัง วิษณุ เครืองาม มีชีวิตว่ายวนอยู่ใน 13 รัฐบาล ทั้งรัฐบาลประชาธิปไตย และรัฐบาลเผด็จการ 

 

ในที่สุด วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ก็ตอบรับคำเชิญของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)

 

มีรายงานว่า ‘ผู้ใหญ่’ ที่วิษณุปฏิเสธไม่ได้ ร้องขอให้เข้ามาช่วยดูงานด้านกฎหมาย กรองงาน ประสานงานกฤษฎีกากับ สลค. และองคาพยพเกี่ยวกับข้าราชการประจำที่นายกฯ ไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ 

 

จริงๆแล้ว มีการเสนอตำแหน่งทางการเมืองที่สูงกว่าที่ปรึกษา สลค. แต่วิษณุปฏิเสธ ขอแค่เป็นกุนซือ สลค. 

 

โดยตำแหน่งนั้น ที่ปรึกษา สลค. อาจดูไม่ใหญ่ แต่ในมุมสัญลักษณ์ทางการเมือง ยี่ห้อเนติบริกรที่ชื่อวิษณุ สะท้อนความมั่นคงของดีลใหญ่

 

สรุปทางชีวิต วิษณุ เครืองาม จากรัฐบาลชาติชาย จนถึงรัฐบาลเศรษฐา ผ่านการทำงานร่วมกับ 13 รัฐบาล 9 นายกรัฐมนตรี  

 

วิษณุ จบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี เป็นศาสตรา จารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯในวัย 32 ปี

 

ปี 2534 พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกฯในเวลานั้น ได้ชักชวนให้วิษณุมาช่วยงานในตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และขึ้นเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สมัยชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ กลางปี 2535

ด้วยการทำงานร่วมกับรัฐบาลทุกขั้ว ไม่ว่ามาจากการเลือกตั้งหรือรัฐประหาร จึงได้ฉายา ‘เนติบริกร’ และเคยมีนักข่าวถามวิษณุว่า นี่คือตัวตนของเขาหรือไม่

 

‘ถ้าถือว่า เป็นผู้ให้บริการทางด้านกฎหมาย ก็รู้สึกภาคภูมิใจ’ นี่คือคำตอบของวิษณุ เครืองาม

 

 

เนติบริกรชินวัตร

 

จริงๆแล้ว ฉายา ‘เนติบริกร’ เกิดขึ้นสมัยทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งวิษณุบอกเล่าไว้ในหนังสือโลกนี้คือละคร

 

เมื่อปี 2545 ทักษิณ นายกฯขณะนั้น ชวนให้วิษณุออกจากการเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่มีการปฏิรูประบบราชการ

 

จริงๆแล้ว คุณหญิงพจมาน ก็มีบทบาทพอๆกับทักษิณ ในการโน้มน้าวจูงใจให้วิษณุเข้ามาทำงานการเมืองครั้งแรก

 

ทักษิณมอบหมายงานให้ดู 2 เรื่องคือ กฎหมายเกี่ยวกับการแบ่งส่วน แบ่งอำนาจหน่วยงานราชการใหม่ และเรื่องศาสนา 

 

ตอนนั้น วิษณุรับปากมาทำงานกับทักษิณ และตั้งเงื่อนไข 1.ไม่เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย 2.ไม่เป็นกรรมการอะไรที่เกี่ยวกับพรรค และ 3.ไม่ลงเลือกตั้งไม่ว่ากรณีใดๆ 

 

ปลายปี 2545 นักข่าวสายทำเนียบมีการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรี ทักษิณ ได้ฉายา ‘เทวดา’ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นนายกฯเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ส่วนวิษณุได้รับฉายา ‘เนติบริกร’ 

 

เมื่อรัฐบาลทักษิณ 1 สร้างประวัติศาสตร์อยู่ครบเทอม วิษณุได้รับการร้องขอจากทักษิณให้อยู่ช่วยงานรัฐบาลทักษิณ 2 อีกระยะหนึ่ง

 

คลื่นลมการเมืองผันผวน วิษณุยื่นใบลาออกต่อทักษิณ ให้มีผลในวันที่ 24 มิ.ย.2549 อายุการทำงานในฐานะเนติบริกร ยุคทักษิณ นับเวลาได้ 3 ปี 9 เดือน

 

 

เนติบริกรสีเขียว

 

รัฐประหาร 19 ก.ย.2549 วิษณุ เครืองาม เนติบริกรในรัฐบาลทักษิณ ได้เข้าไปช่วยงานคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ (คปค.) ซึ่งต่อมาเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) 

 

นอกจากนี้ วิษณุ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีบทบาทในการร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550

 

รัฐประหาร  22 พ.ค.2557 วิษณุได้รับการแต่งตั้งเป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

 

ภายหลังตั้งรัฐบาล คสช. พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น  แต่งตั้ง วิษณุ เป็นรองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบดูงานด้านกฎหมาย

 

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ 2 วิษณุก็ยังเป็นรองนายกฯ สมัยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ยุค 3 ป. 

 

ช่วงเวลาดังกล่าว วิษณุได้รับฉายาจากสื่อมวลชนสายทำเนียบ 3 ฉายาคือ

 

ปี 2562 ฉายา ‘ศรีธนญชัยรอดช่อง’ เพราะความเป็นกูรูด้านกฎหมายของรัฐบาล สามารถช่วยรัฐบาลรอดพ้นปากเหวได้ทุกครั้ง

 

ปี 2563 ฉายา ‘ไฮเตอร์ เซอร์วิส’ อันเปรียบได้กับผลิตภัณฑ์ซักฟอกขาวยี่ห้อดัง ที่สามารถล้างคราบสกปรกให้ขาวสะอาดหมดจดได้

 

ปี 2565 ฉายา ‘เครื่องจักรซักล้าง’ ทำหน้าที่เหมือนเครื่องจักรกล คอยซักล้างความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลให้ผ่านพ้น เรื่องไหนผ่านมือเนติบริกรคนนี้ อย่าหวังว่าจะมีใครโต้แย้งได้

 

บนเส้นทางมือกฎหมายประจำรัฐบาล จากปี 2534 ถึงปี 2567 วิษณุ เครืองาม ควรบันทึกไว้ในฐานะ ‘คนการเมือง’ พันธุ์พิเศษ ที่ปรับตัวอยู่ได้ในทุกฤดูกาล หรือมิสเตอร์ออลซีซั่น