คอลัมนิสต์

ตำนาน สส.ราชบุรี ‘ทวี’ ครองที่มั่น ‘จอมบึง’ ต้นขั้วนักเลือกตั้งยุค 1.0

ตำนาน สส.ราชบุรี ‘ทวี’ ครองที่มั่น ‘จอมบึง’ ต้นขั้วนักเลือกตั้งยุค 1.0

20 เม.ย. 2567

เหลือไว้แค่คำเล่าขาน สส.ราชบุรี ทวี ไกรคุปต์ ครองใจคนโพธาราม-จอมบึง กว่า 4 ทศวรรษ จากยุคเปรมาธิปไตย จนถึงยุคระบอบ 3 ป.

ตำนาน สส.ราชบุรี ทวี ไกรคุปต์ ครองใจคนโพธาราม-จอมบึงมากว่า 4 ทศวรรษ จากยุคเปรมาธิปไตย ก่อนจะปิดม่านพร้อมระบอบ 3 ป.


จอมยุทธ์ทวี พ่อปารีณา เป็นคน อ.โพธาราม แต่มีฐานเสียงสำคัญชี้ขาดชัยชนะอยู่ที่ อ.จอมบึง เลือกตั้งกี่ครั้งก็ชนะ ยกเว้นครั้งที่แล้ว


นักการเมืองอาวุโส สส.ราชบุรี 7 สมัย ทวี ไกรคุปต์ ได้เวลาพักผ่อนชั่วนิจนิรันด์ที่บ้านเรือนไทยริมน้ำ ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 

กว่า 4 ทศวรรษมาแล้ว ทวี ไกรคุปต์ ยึดครองพื้นที่การเมือง อ.โพธาราม อ.จอมบึง เริ่มจากปี 2522 ทวีเป็น สส.ราชบุรี สมัยแรก โดยการสนับสนุนของสวัสดิ์ จังพานิช นักการเมืองท้องถิ่นคนดังเมืองโพธาราม


สวัสดิ์ จังพานิช มีศักดิ์เป็นลุงของเอ๋ ปารีณา ไกรคุปต์ เคยเป็น สจ.ราชบุรี และนายกเทศมนตรีเมืองโพธาราม ตอนหลัง ทวีกับสวัสดิ์แยกทางกันเดิน


สายัณห์ จังพานิช ลูกชายสวัสดิ์ ลงสนามแข่งกับปารีณา ไกรคุปต์ ลูกสาวทวี 2 รอบคือ ปี 2550 และปี 2554 ปราฏว่า ปารีณาชนะรวด


เบื้องหลังชัยชนะของตระกูลไกรคุปต์คือ ฐานเสียง อ.จอมบึง ที่ตกอยู่ในกำมือของทวีคนเดียว


สมัยที่แล้ว สีหเดช ไกรคุปต์ ทายาทคนโตของทวี ลงสมัคร สส.แทนปารีณา แต่พ่ายแพ้ยับเยิน เพราะสถานการณ์ในพื้นที่เปลี่ยน คนเลือกก้าวไกลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ
 

ได้ดีเพราะไปรษณียบัตร
การเลือกตั้ง 22 เม.ย. 2522 ทวี ไกรคุปต์ ตัดสินใจสมัคร สส. โดยไม่สังกัดพรรคที่สนามเขต 1 ราชบุรี (บ้านโป่ง,โพธาราม,จอมบึง,บางแพ และ สวนผึ้ง)


รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 เปิดโอกาสให้ผู้สมัคร สส.ไม่ต้องสังกัดพรรคได้ และนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง และวุฒิสภาร่วมโหวตเลือกนายกฯ ด้วย


ปี 2523 พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ลาออกจากนายกรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา 225 เสียง ร่วมกับ 3 พรรคการเมือง ยกมือโหวตเลือก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี


ระหว่างนั้น ทวีได้รวบรวม สส.ไม่สังกัดพรรคได้ 43 คน จึงจับมือ พ.อ.พล เริงประเสริฐวิทย์ ตั้งพรรคสยามประชาธิปไตย โดยเสธ.พล เป็นหัวหน้าพรรค และทวี เป็นเลขาธิการพรรค มีภารกิจสนับสนุนรัฐบาลเปรม ให้มีเสถียรภาพ


จังหวะนั้น กองทัพเสนอต่ออายุราชการ พล.อ.เปรม ให้อยู่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกต่อไป ทวี ไกรคุปต์ จึงเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาชนไทย ส่งไปรษณียบัตรแสดงพลังหนุนการต่ออายุราชการป๋าเปรม


ต้นปี 2524 พล.อ.เปรม ปรับคณะรัฐมนตรี เอาพรรคกิจสังคมออกไป ทวีจึงได้เป็นรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ สร้างความฮือฮาให้คนทั้งประเทศ เพราะ สส.ราชบุรีหน้าใหม่สมัยแรกได้เป็นรัฐมนตรี เพราะอีเวนท์ ‘ไปรษณีย์บัตรต่ออายุราชการ’ เข้าตาป๋าเปรม


ปี 2526 ป๋าเปรมยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ ทวีและเพื่อน ส.ส.หนุ่ม แยกตัวออกมาจากพรรคสยามประชาธิปไตย มาตั้งพรรคประชาไทย โดยทวี เป็นหัวหน้าพรรค


ทวีกลับเข้าสภาฯ ในสีเสื้อพรรคประชาไทย แต่ก็ได้ลาออกไปสังกัดพรรคชาติไทย ส่วนพรรคประชาไทย กลุ่ม สส.ที่เหลืออยู่ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นพรรครวมไทย


หลังจากนั้น ทวีก็ย้ายไปหลายพรรค อาทิ พรรคกิจสังคม, พรรคความ หวังใหม่, พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยรักไทย


เลือกตั้ง 2544 ทวีย้ายจาก ปชป.ไปสังกัดพรรคไทยรักไทยของทักษิณ ชินวัตร พ่ายนักการเมืองหญิงโนเนม-ประไพพรรณ เส็งประเสริฐ จากค่าย ปชป.


ประไพพรรณเป็นลูกสาวกำนันแม้น เส็งประเสริฐ และไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อน ความพ่ายแพ้ครั้งนั้น ทำให้ทวีเจ็บปวดมากที่สุดในชีวิต


ปี 2548 ทวีจึงตัดสินใจส่งลูกสาวคนสวย ปารีณาลงสมัคร สส. และได้รับเลือกเป็น สส.ราชบุรี ติดต่อกัน 4 สมัย สังกัดทั้งไทยรักไทย เพื่อไทย ชาติไทยพัฒนา และพลังประชารัฐ

 

ภารกิจสุดท้ายของทวี ไกรคุปต์ อุ้มลูกชายเข้าสภา ไม่สำเร็จ

 

ที่มั่นจอมบึง
สมัยโน้น อ.จอมบึง ยังเป็นถิ่นทุรกันดาร ไม่มีถนนลาดยาง ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสิทธิทำกินในที่ดินตนเอง และขาดระบบชลประทาน 


ทวี ได้เข้าช่วยชาวบ้าน ทั้งการแก้ไขปัญหาสาธารณูปโภค และการต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกิน จอมบึงจึงกลายเป็นฐานเสียงของตระกูลไกรคุปต์


ผลงานของทวี ในพื้นที่ อ.จอมบึง เช่น ถนนลูกรัง ถนนลาดยาง คลองชลประทาน และการขยายเขตไฟฟ้า


นับแต่การเลือกตั้งปี 2550 จนปี 2562 ทวีส่งลูกสาว-ปารีณา ลงสมัคร สส.เขตโพธาราม-จอมบึง ก็ได้รับเลือกตั้งทุกสมัย