โจทย์ยากดีลลับ ‘ทักษิณ’ ฉวยจังหวะยุบ ‘ก้าวไกล’ เดิน 2 ขารุกชิงมวลชน

ขยับเกมมวลชน ทักษิณ ปลุกใจ สส.เพื่อไทย ยืนสู้พายุสีส้ม ฉวยจังหวะยุบก้าวไกล รัฐบาลเศรษฐาเร่งสร้างผลงาน เดินสายต่างจังหวัด ย้ำนายใหญ่กลับมาแล้ว

เบื้องหลังดีลลับคือ ยุทธศาสตร์หยุดก้าวไกล โจทย์ยาก ทักษิณ ในวันที่บริบทการเมืองเปลี่ยน คนรุ่นใหม่ไม่รู้จักอัศวินคลื่นลูกที่สาม และไทยรักไทย  

ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง บ่ายวันที่ 26 มี.ค. 2567 ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ สส.เข้าพบ โดยอาจจะเป็นการทยอยเข้าพบเป็นกลุ่มๆ ตามรายจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด 
 

สส.เหล่านี้ ก็คือตัวแทนเอฟซีเพื่อไทย หรือคนเสื้อแดง ที่ทักษิณต้องการพูดคุยด้วยเพื่อสื่อสารไปถึงมวลชนในพื้นที่ เหมือนสมัยที่นายใหญ่ยังอยู่ต่างแดน มักจะนัด สส.เพื่อไทย ไปพบที่ฮ่องกง และสิงคโปร์

อีกทางหนึ่ง ทักษิณใช้กลยุทธ์ปากต่อปาก อย่างเช่นเย็นวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ทักษิณไปตัดผมที่ร้านตัดผม ย่านสีลมคอมเพล็กซ์ ศาลาแดง(สีลม) ปรากฏว่ามีพนักงานร้านทำผม รวมถึงประชาชนจำนวนมากยืนรออยู่หน้าร้าน โดยทักษิณก็ออกมาพบปะพูดคุยอย่างเป็นกันเอง

 

 

สำหรับการเดินทางไปพบมวลชนในต่างจังหวัด ทักษิณอาจจะต้องรออีกสักระยะหนึ่ง เฉพาะหน้าทักษิณมีแผนจะกลับเชียงใหม่ ไปทำบุญสงกรานต์ ก็คงมีชาวบ้านมารดน้ำดำหัวตามประเพณี

โจทย์ยากหยุดส้ม
โจทย์ใหญ่ที่ทักษิณ ชินวัตร รับมาจากผู้ถืออำนาจในเกมดีลลับข้ามขั้ว ต้องหยุดการเติบโตพรรคก้าวไกลให้ได้ ซึ่งก็เป็นโจทย์ยาก เพราะกระแสความนิยมของพรรคก้าวไกล ยังมาแรงเป็นอันดับหนึ่ง ทิ้งห่างพรรคเพื่อไทย

อย่างเช่นนิด้าโพล เปิดเผยผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1 บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 42.75 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ร้อยละ 20.05 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และอันดับ 3 ร้อยละ 17.75 เศรษฐา ทวีสิน และอันดับ 4 ร้อยละ 6.00 อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร

พรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.45 พรรคก้าวไกล และอันดับ 2 ร้อยละ 22.10 พรรคเพื่อไทย 

ทักษิณและทีมวงในบ้านจันทร์ส่องหล้า คงประเมินออกว่า เพื่อไทยตกเป็นรองก้าวไกล เพราะต้นทุนฝ่ายประชาธิปไตยที่สั่งสมมาในอดีตหมดไปกับการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรค 2 ลุง 

ลำพัง เศรษฐา ทวีสิน และแพทองธาร ชินวัตร ยังไม่พอที่จะเป็นแม่เหล็กดูดฐานเสียงเอฟซีเพื่อไทยให้กลับมาเหมือนเดิม จึงต้องพึ่งพาบารมีทักษิณ ชินวัตร

 

บททดสอบแรกกรณีทักษิณกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด-เชียงใหม่ ย่อมมีทั้งบวกและลบ แต่ทีมบ้านจันทร์ส่องหล้า คงเห็นว่ามีผลบวกมากกว่าลบ

ช่วงเลือกตั้งสมัยที่แล้ว ทักษิณอาศัยอยู่ในนครดูไบ แต่ก็รับรู้ข้อมูลในพื้นที่ละเอียด สส.คนไหน ไม่ลงพื้นที่ และชาวบ้านเริ่มเบื่อหน่ายพฤติการณ์ สส.บางคน ด้วยเหตุที่อยู่ห่างไกล จึงมาช่วยปิดจุดอ่อนในบางจังหวัดไม่ได้

เมื่อทักษิณกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว การกระชับพื้นที่จะทำได้ง่ายขึ้น สส.คนไหนจะทำตัวเป็น สส.เสาไฟฟ้าต่อไปอีกไม่ได้แล้ว 

 

 

ส้มก้าวใหม่
แม้โพลจะชี้ว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวใหม่ มีคะแนนนิยมนำโด่ง แต่หากเกิดกรณียุบพรรคก้าวไกล พิธาและแกนนำบางส่วนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ผู้นำค่ายสีส้มคนใหม่ จะมีเสน่ห์เรียกคะแนนนิยมได้เหมือนพิธาหรือไม่ 

ว่ากันว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เชื่อว่า มีการยุบพรรคแน่ จึงฝากให้ สส.ก้าวไกล ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวไว้ และพร้อมจะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่

ตอนนี้ ทางทีมแกนนำก้าวไกล ได้จัดตั้งพรรคสำรองไว้แล้ว ในชื่อพรรคก้าวใหม่ แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันออกมาจากแกนนำพรรค

จังหวะที่พรรคก้าวไกลถูกยุบ จะเปิดโอกาสให้ทักษิณเปิดเกมรุก 2 ประสานคือ รัฐบาลเศรษฐา เร่งปั้นผลงาน และพรรคเพื่อไทย จัดทัพลุยพื้นที่โดยมีทักษิณเป็นตัวชูโรง

รอยต่อระหว่างก้าวไกลกับพรรคใหม่ จะชื่ออะไรก็แล้วแต่ และแกนนำส้มรุ่น 3 กำลังปั้นพรรค นี่จะเป็นโอกาสทองของทักษิณ ที่จะเรียกคะแนนนิยมคืนมาให้เพื่อไทย