คอลัมนิสต์

อยู่ต่ออยู่ยาว ‘เศรษฐา’ชิงเก็บแต้มเด้ง ‘ต่อ-โจ๊ก’ แผนลึกอำนาจหลังม่าน

อยู่ต่ออยู่ยาว ‘เศรษฐา’ชิงเก็บแต้มเด้ง ‘ต่อ-โจ๊ก’ แผนลึกอำนาจหลังม่าน

21 มี.ค. 2567

จับตาเข้ากรุยาว เศรษฐา โกยแต้มสยบศึก ต่อศักดิ์-สุรเชษฐ์ ดับข่าวลือ เม.ย.นี้เปลี่ยนตัวนายกฯ สกัดแผนฝ่ายค้าน-สว.ถล่มคาสภาฯ จับตาแผนผู้นำหลังม่าน

ไทยคู่ฟ้าการละคร เศรษฐา โกยแต้มสยบศึก ต่อศักดิ์-สุรเชษฐ์ ดับข่าวลือ เม.ย.นี้เปลี่ยนตัวนายกฯ สกัดแผนฝ่ายค้าน-สว. ถล่มเรื่องล้มเหลวคุม สตช.


วาสนาชะตาคน กรณีเศรษฐา เด้งบิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก เข้ากรุ จับตาแผนผู้นำหลังม่านชงบิ๊กต่าย รักษาการ ผบ.ตร. รอคิวขึ้นประมุขกรมปทุมวันในปลายปีนี้  


วันที่ 21 มี.ค .2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นประธานในการมอบนโยบายให้กับตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาจากทั่วประเทศ 
 

มีบางคำพูดของนายกฯเศรษฐา เกี่ยวกับการเด้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เข้าทำเนียบฯ ว่า มีความยากและลำบากใจอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องทำ 


“ผมขอสั่งให้ยุติการให้ข่าว เกี่ยวกับเรื่องทั้งสองท่าน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปข้างหน้า เพื่อให้เกิดความถูกต้องและความเป็นธรรมกันทั้งสองฝ่าย”


มีรายงานข่าวว่า นายกฯเศรษฐา ใช้เวลาไม่นานในการตัดสินใจเด้งบิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊กเข้ากรุพร้อมกัน เนื่องจากเศรษฐา เคยเป็นซีอีโอบริษัทเอกชนมาก่อน มีสไตล์การบริหารรวดเร็วฉับไว


อดีตนักการเมืองบางคน ถึงกับยกย่องเศรษฐาว่า กล้าหาญมากในกรณีการย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.เข้าทำเนียบฯ เพราะคนทั้งประเทศรู้กันว่า บิ๊กต่อมีที่มาที่ไปอย่างไร จึงผงาดขึ้นเป็น ผบ.ตร.


ดังนั้น นักร้องขาประจำจึงใช้คำว่า มีอำนาจมืดอยู่เบื้องหลังการเด้ง 2 บิ๊กตำรวจ พร้อมเตรียมแถลงข่าวเรื่องนี้ในวันที่ 21 มี.ค. 2567 แต่สุดท้ายก็ยกเลิกการแถลงข่าวไปดื้อๆ


หลายคนจึงเชื่อว่า ก่อนที่ “ต่อเฟรนด์ลี่” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะโชว์หวานออกสื่อ จูบปากเซ็ทซีโร่ คงมีใครบางคนได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับทั้งคู่เรียบร้อยแล้ว


มีข้อสังเกตว่า การแต่งตั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เป็นรักษาการ ผบ.ตร. ในความจริงไม่มีระเบียบว่า ต้องเป็นรอง ผบ.ตร.อาวุโส ลำดับที่ 2 จะตั้งใครก็ได้ในจำนวน รอง ผบ.ตร.ที่เหลืออยู่


ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้ขีดเส้นใต้ชื่อ บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ในฐานะเต็งหนึ่ง ผบ.ตร.คนต่อไป หลังบิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เกษียณอายุราชการ 

อยู่ต่อและอยู่ยาว
ในมุมการเมือง ช่วงนี้ เศรษฐา ทวีสิน มีศึกใหญ่ในสภาฯ 2 ยกที่ว่าด้วยการซักฟอกทั่วไป แม้ไม่ได้มีการลงมติ แต่ก็เป็นการชำแหละรัฐบาลผ่านกระบวนการรัฐสภาที่จะมองข้ามไปไม่ได้


ยกแรกคือ วันที่ 25 มี.ค. 2567 ญัติติขออภิปรายทั่วไป ของสมาชิกวุฒิสภา เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 


ยกที่สอง วันที่ 3-4 เม.ย. 2567 ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152


ปฏิบัติการสยบความขัดแย้งในกรมปทุมวันของนายกฯเศรษฐา ด้วยการเด้งบิ๊กต่อและบิ๊กโจ๊ก เข้ามาช่วยราชการสำนักนายกฯ เท่ากับเป็นการสกัดเกมซักฟอกของ สว.และฝ่ายค้าน ประเด็นความล้มเหลวในกำกับดูแล สตช. 


อย่างไรก็ตาม สว.และ สส.ฝ่ายค้าน คงหยิบยกปัญหาบิ๊กตำรวจทะเลาะกันมาอภิปรายแน่นอน แต่การเด้งคู่ขัดแย้งเข้ากรุ คงทำให้นายกฯเศรษฐา สามารถยืดอกพูดได้แบบเท่ๆกลางสภาฯ ว่า นี่คือการแสดงภาวะผู้นำที่ฉับไวและเด็ดขาด

 

 

อนาคตของบิ๊กโจ๊ก จะเป็นแมวสิบชีวิตจริงหรือไม่

 

 

ผู้นำหลังม่านตัวจริง
แม้ทั้งบิ๊กต่อและบิ๊กโจ๊ก จะถูกวิจารณ์ว่าเป็นการแสดงปาหี่หรือการละคร แต่ทั้งคู่ก็ต้องเล่นไปตามบท เหมือนสุภาษิตไทยที่ว่า น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังเหลืออายุราชการประมาณ 190 วัน แต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีเวลาเหลือเกือบ 7 ปี จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งเฉพาะหน้านี้ ก็ต้องลุ้นว่า ทั้งคู่จะได้กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในระยะ 60 วัน ตามที่นายกฯเศรษฐา ระบุหรือไม่


เนื่องจากการโอนมาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ระยะเวลา 60 วัน เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบเรื่องที่มีข้อขัดแย้งทุกเรื่องทุกคดีที่มีการกล่าวโทษกัน ให้แล้วเสร็จ 


มีคนวาดฉากทัศน์การเมืองในกรมปทุมวัน มีความเป็นไปได้ บิ๊กต่ออาจจะต้องอยู่สำนักนายกฯ ยาวไปจนเกษียณอายุราชการ และบิ๊กโจ๊ก อาจอยู่ยาวไปกว่านั้น


หากการข่าวของ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ระบุว่า มีอดีต ผบ.ตร. พาบิ๊กต่ายไปพบผู้ทรงอิทธิพล เมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค.นี้ เป็นจริง


เท่ากับว่า โชควาสนาหล่นทับรอง ผบ.ตร.อาวุโส อันดับ 2 ที่ได้นั่งรักษาการ ผบ.ตร.ไปจนถึงเดือน ต.ค.นี้ และก้าวขึ้นเป็น ผบ.ตร.