วิถีบ้านใหญ่ ‘ธรรมนัส’ ปั้นฝัน ‘พะเยาโมเดล’ กลบฝังสายพันธุ์เก่า

10 ปี ปิ๊กบ้านเกิด ธรรมนัส ปั้นพะเยาโมเดล ตามรอยการเมืองบ้านใหญ่สูตรบรรหารบุรี-เนวินบุรี กลบฝังบ้านใหญ่สายพันธุ์เก่า

วิถีแบบธรรมนัส มากคอนเนกชั่น รู้จักมักคุ้นทั้งเครือข่ายทักษิณ และยังเป็นน้องรักของลุงป้อม เป็นต้นทุนการเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน

การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดพระเยา วันอังคารที่ 19 มี.ค. 2567 ต้องถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ 

ไฮไลต์สำคัญของที่ประชุม ครม.สัญจรคือ การผลักดันการก่อสร้างสนามบินพะเยา มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท เข้าสู่ที่ประชุม ครม.สัญจร โดยจุดที่จะก่อสร้างสนามบินนั้นอยู่ ต.ดอนศรีชุม และ ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

ถ้าย้อนไปตั้งแต่ก้าวแรกของ ร.อ.ธรรมนัส ตัดสินใจลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง สส.ปี 2557 ผ่านมาถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 10 ปีแล้วที่ผู้กองธรรมนัส มาทำงานการเมืองในพื้นที่ จ.พะเยา

เฉพาะช่วงปี 2562 จนถึงปี 2567 ผู้กองธรรมนัส เป็น สส.พะเยา เป็น รมช.เกษตรฯ และ รมว.เกษตรฯ ได้ทำให้การพัฒนาบ้านเกิดตามแผน ‘พะเยาโมเดล’ มีความก้าวหน้าไปมากมาย

เมื่อวันที่ 14-15 มี.ค. 2567 ร.อ.ธรรมนัส ได้ไปต้อนรับทักษิณ ชินวัตร ที่เชียงใหม่นั้นก็เป็นเรื่องของคนกันเอง เนื่องจากผู้กองธรรมนัส ได้เข้าไปทำงานกับพรรคไทยรักไทย ตั้งแต่ปี 2543

ฉะนั้น ผู้กองธรรมนัส จึงรู้จักมักคุ้น สส.เพื่อไทย รวมถึงเจ๊แดง อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ และอดีตนายกฯ ทักษิณ

เส้นทางการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส เหมือนมีคนเขียนบทให้เดิน จากตัวละครลับของ ทักษิณ ชินวัตร มาสู่น้องรักของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้กองเมืองพะเยาจึงทะยานไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ

ช่วงที่เริ่มเล่นการเมือง ร.อ.ธรรมนัส ประกาศว่าจะทำให้เมืองพะเยาพัฒนาในทุกด้านเหมือนสุพรรณบุรีโมเดล และบุรีรัมย์โมเดล

ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัส จึงวางแผนให้การเมืองระดับชาติและการเมืองท้องถิ่นเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งในปัจจุบัน แผนการดังกล่าว ก็บรรลุเป้าหมาย

ไม่ว่าจะเป็น สส.พะเยา 3 คน, นายก อบจ.พะเยา และนายกเทศมนตรีเมืองพะเยา ล้วนอยู่ใต้ชายคาบ้านใหญ่หลังใหม่ของผู้กองธรรมนัส
 

ปิดฉากบ้านใหญ่ตันบรรจง
50 ปีที่ผ่านมา บ้านใหญ่เมืองพะเยาคือ ตระกูลตันบรรจง ที่มีธุรกิจโรงบ่มรวมเพียว อ.ปง โดยพ่อเลี้ยง เพียว ตันบรรจง เป็นผู้นำ และมีลูกๆ เป็น สส.พะเยา และนายก อบจ.พะเยา

ปี 2544 ทักษิณ ชินวัตร ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ได้ชูคำขวัญนายกคนเมือง พร้อมนโยบายประชานิยม ก็ส่งผลต่อการเมืองในพะเยา

จากวันนั้นจนถึงปี 2554 สส.พะเยาคือ อรุณี ชำนาญยา, วิสุทธิ์ ไชยณรุณ และไพโรจน์ ตันบรรจง ซึ่งเป็นผลพวงของมนต์รักทักษิณ 

ปี 2562 ร.อ.ธรรมนัส ในสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ได้สร้างการเปลี่ยน แปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ เมื่อพลังประชารัฐ ได้ สส.พะเยา 2 ที่นั่ง จากทั้งหมด 3 ที่นั่ง

ปี 2566 ผู้กองธรรมนัสโชว์บารมี พรรคพลังประชารัฐชนะยกจังหวัด ซึ่งเป็นการปิดฉากตระกูลตันบรรจง บ้านใหญ่สายพันธุ์เก่า พร้อมกับดับมนต์ขลังประชานิยม สิ้นยุค สส.เสาไฟฟ้าเพื่อไทย

 

 

 

ต่อจิ๊กซอว์พะเยาโมเดล
จริงๆ แล้ว ร.อ.ธรรมนัส กลับบ้านเกิดพะเยา เพื่อปูทางสร้างฐานการ เมืองตั้งแต่ปี 2554 โดยสนับสนุน วรวิทย์ บุรณศิริ โค่น ไพรัตน์ ตันบรร จง อดีตนายก อบจ.พะเยา หลายสมัย 

ไพรัตน์เป็นลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงเพียว ตันบรรจง และเป็นน้อง ชาย 2 อดีต สส.พะเยาคือ พวงเล็ก ตันบรรจง และไพโรจน์ ตันบรรจง

ปัจจุบัน ไพรัตน์ได้เข้ามาร่วมทำงานกับ ร.อ.ธรรมนัส และฝากลูกชาย อนุรัตน์ ตันบรรจง ให้ลงสมัคร สส.พะเยา เขต 2 ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และได้เป็น สส.พะเยา สมใจผู้กอง 

ปลายปี 2563 ร.อ.ธรรมนัส ส่งน้องชาย อัครา พรหมเผ่า ลงสมัครนายก อบจ.พะเยา เพื่อผลักดันพะเยาโมเดล เพื่อพัฒนาบ้านเกิด

เนื่องจากปี 2560-2562 อัครา ประธานกลุ่มฮักบ้านเกิดพะเยา และผู้ประสานงานมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่าเพื่อการกุศล ได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือชาวพะเยาต่อเนื่อง จึงได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.พะเยา

ปี 2564 ร.อ.ธรรมนัส สนับสนุน สุมิตรา กัณฑมิตร ลงสมัครชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองพะเยา ก็ได้รับชัยชนะแบบสบายๆ

ทั้งหมดนี้คือ พะเยาโมเดลในมิติทางการเมือง ซึ่งไม่ต่างสุพรรณบุรีโมเดล และบุรีรัมย์โมเดล