หนังม้วนเก่า ‘โพธิรักษ์’ เผชิญหน้า ‘ทักษิณ’ จับมือขวาจัดจุดไฟม็อบ

ม็อบอยู่ยาวอยู่เย็น สมณะโพธิรักษ์ เผชิญหน้า ทักษิณ ส่งกองทัพธรรมแตะมือ คปท. ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ ปกป้องกระบวนการยุติธรรม

พ่อครูหรือสมณะโพธิรักษ์ ของชาวอโศก เชื่อธรรมะกับการเมืองเรื่องเดียวกัน จึงชักธงรบทุนสามานย์ ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน

สมณะโพธิรักษ์ เจ้าสำนักสันติอโศก ในวัย 90 ปี แอดมิท รพ.วารินชำราบ ด้วยอาการปอดอักเสบ และออกจาก รพ.กลับราชธานีอโศก เมื่อต้นเดือน ก.พ.2567
 

ระหว่างพ่อครูของชาวอโศก กำลังพักฟื้นร่างกาย ก็มอบให้หมอเขียว-ใจเพชร กล้าจน นำกำลังจากสันติอโศก บึงกุ่ม กทม.ไปสมทบกับม็อบ คปท.ที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ข้างทำเนียบรัฐบาล 

จุดยืนของสมณะโพธิรักษ์ ต้านทุนนิยมสามานย์ โดยมีทักษิณเป็นตัวแทน ฉะนั้น การที่ทักษิณไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว ส่งผลพ่อครูของชาวอโศกทนไม่ได้

ดังนั้น ม็อบ คปท.ปกป้องกระบวนการยุติธรรม ค้านการพักโทษทักษิณ ชินวัตร จึงประกอบด้วยเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย พิชิต ไชยมงคล, ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ของอานนท์ กลิ่นแก้ว และกองทัพธรรม

กองทัพธรรม ของพ่อครู-สมณะโพธิรักษ์ มีแม่ทัพ 2 คนคือ หมอเขียว-ใจเพชร กล้าจน แพทย์วิถีพุทธ และ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสาน งานกองทัพธรรมมูลนิธิ 

 

 

ขุมกำลังของกองทัพธรรม จะมาจากชุมชนบุญนิยมทั่วประเทศ อาทิ สันติอโศก กรุงเทพฯ, ปฐมอโศก นครปฐม, ศีรษะอโศก ศรีสะเกษ, ราชธานีอโศก อุบลราชธานี ฯลฯ

ที่ผ่านมา กลยุทธ์ของกองทัพธรรม จะใช้วิธีหมุนเวียนกำลังคนจากชุมชนบุญนิยมต่างๆ มาปักหลักพักค้าง จึงทำให้ยืนระยะการชุมนุมไปได้เป็นเวลาหลายเดือน

การเมืองคือธรรมมะ
ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา สมณะโพธิรักษ์ เคยร่วมปักหลักชุมนุมทางการเมืองมาแล้วหลายครั้งหลายหน ได้แสดงจุดยืนและแนวทางของสันติอโศกไว้ชัดว่า การเมืองกับธรรมะแยกออกจากกันไม่ได้

ธรรมะทำกับมนุษย์ ทำกับสังคม การเมืองก็ทำกับมนุษย์และสังคม จุดมุ่งหมายอันเดียวกัน คือให้เป็นคนดี ตามกฎหมาย และหลักเกณฑ์ของธรรมวินัย ก็จุดหมายเดียวกัน แล้วจะไปแยกกันตรงไหน

ปัจจุบัน พุทธสถานสันติอโศก เป็นสำนักกลางมีเครือข่ายอยู่หลายแห่งทั่วประเทศไทย ทั้งในรูปแบบวัดและชุมชน

ปี 2544 สมณะโพธิรักษ์ ได้จัดตั้งชุมชนขึ้นอย่างเต็มรูปตามวิถีระบบบุญนิยม จึงใช้ชื่อชุมชนบุญนิยมสันติอโศก และมีชุมชนบุญนิยมอื่นๆ ของชาวอโศกเกิดขึ้นทั่วประเทศ

ดังนั้น ยามที่พ่อครูหรือสมณะโพธิรักษ์ ประกาศเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง ก็จะมีชาวอโศกจากชุมชนต่างๆ เดินทางมาปักหลักพักค้างอย่างมีระเบียบวินัย

 

 

ผ่านมาทุกสมรภูมิ
นับแต่ปี 2549 จนถึงต้นปี 2557 สมณะโพธิรักษ์ ได้นำกองทัพธรรม และองค์กรเครือข่ายของสันติอโศก เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง

ปี 2549 สมณะโพธิรักษ์ สนับสนุน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ให้เข้าร่วมเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขับไล่รัฐบาลทักษิณ

ปี 2551 กองทัพธรรม ได้เข้าร่วมชุมนุมกู้ชาติกับกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นเวลา 193 วัน ซึ่งได้รับโจษขานถึงความมีวินัย มีความอดทนในการชุมนุมปักหลักพักค้าง  

ปี 2555 สมณะโพธิรักษ์ ร่วมกับองค์การพิทักษ์สยาม ของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ 

ปี 2556 สมณะโพธิรักษ์ ร่วมจัดตั้งกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ(กปท.) คัดค้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ วางแผนนิรโทษกรรมให้ทักษิณ

ปลายปีเดียวกัน กองทัพธรรม เคลื่อนขบวนไปปักหลักที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย

ยุทธวิธีของกองทัพธรรมในการชุมนุมมวลชน จะยึดหลักอยู่ยาว อยู่เย็น ไม่เร่งร้อนที่จะไปหักโค่นกับใคร 

การชุมนุมปกป้องกระบวนการยุติธรรม จึงน่าจะยาวไปจนถึงวัน สว.ศึกซักฟอกรัฐบาลเศรษฐา 25 มี.ค.นี้ หากไม่มีปัจจัยอื่นแทรกซ้อนทำให้ม็อบต้องเลิกราไปก่อน

ว่ากันตามจริง ลำพัง คปท. และ ศปปส. ยืนระยะได้ไม่เกินสัปดาห์นี้แน่ แต่พอได้กองทัพธรรมมาปักหลักพักค้าง ก็คงอยู่ยาวอยู่เย็นตามกลยุทธ์พ่อครูสันติอโศก