คอลัมนิสต์

ถอยดีกว่า ‘เศรษฐา’ เลี่ยงชน ‘อนุรักษนิยมเก่า’ วันที่ลมขวาจัดพัดหวน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันที่ลมขวาจัดพัดหวน เศรษฐา เลี่ยงชนอนุรักษนิยมเก่า คนชั้น 14 เล่นเกมซื้อเวลาแจกเงินหมื่น-เบรกร่างกฎหมายร้อน ลดการเผชิญหน้า

ถอนฟืนจากไฟ เศรษฐา เลี่ยงชนอนุรักษนิยมเก่า คนชั้น 14 เล่นเกมซื้อเวลาแจกเงินหมื่น-เบรกร่างกฎหมายร้อน รอเวลา สว.หมดอำนาจ 
 

เพื่อไทย-อุ๊งอิ๊ง ถือธงอนุรักษนิยมใหม่ ไม่เติมเชื้อไฟให้เข้าทางกลุ่มขวาจัด ที่รุกไล่เด็กห้าวทะลุกรอบ ผสมโรงค้านพักโทษคนชั้น 14


ในที่สุด เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เลือกที่จะเล่นเกมยื้อซื้อเวลา ถอนฟืนออกจากกองไฟ ทั้งโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต และร่างแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ
 

เริ่มจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต แถลงว่า บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ มีมติให้ดำเนินการตามข้อหารือของกฤษฎีกา และ ป.ป.ช. โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาข้อเสนอแนะของกฤษฎีกา และ ป.ป.ช. วางกรอบ 30 วัน ก่อนจะมาประชุมบอร์ดชุดใหญ่อีกครั้ง


ตามมาด้วย พรรคเพื่อไทย ได้ถอนร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะมีการพิจารณาร่วมกันในรัฐสภาในวันที่ 16 ก.พ. 2567

 

 

นายกฯเศรษฐา ลุยงานหนักในช่วงนี้

 


สำหรับโครงการแจกเงินหมื่นนั้น น่าจะเป็นถอยทางเทคนิค โดยอ้างเรื่องผลการศึกษาตามข้อเสนอ ป.ป.ช. ก่อนหน้าส่งร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านเข้าสู่สภาฯ


เหนืออื่นใด สมาชิกวุฒิสภา(สว.) จะเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ในวันที่ 25 มี.ค. 2567 ซึ่งจะมีการนำเรื่องการแจกเงินหมื่นมาซักฟอก แต่ฝ่ายรัฐบาลก็คงตอบว่า กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา และพร้อมทำตามข้อเสนอ ป.ป.ช. 
 

ลดเผชิญหน้าอำนาจเก่า
วันก่อนพรรคเพื่อไทยทำท่าขึงขัง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร พร้อมกับชูศักดิ์ ศิริกุล และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กรณีเสนอแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) สองฉบับคือ


ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฉบับที่..พ.ศ..  และ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฉบับที่ ...พ.ศ....


สาระสำคัญของร่างกฎหมายสองฉบับ อยู่ที่การเปิดโอกาสให้อำนาจผู้เสียหายฟ้องคดีได้เอง ในกรณี ป.ป.ช. และสำนักงานอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง


แกนนำเพื่อไทยอ้างว่า การแก้ไขกฎหมายสองฉบับนี้ จะเป็นการถ่วงดุลอำนาจระหว่างประชาชน กับองค์กรอิสระ


บังเอิญเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา ปรากฏว่า วงประชุมของวุฒิสภาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะจะเป็นการสร้างความยุ่งยากสับสนในการรื้อฟื้นคดีมาฟ้องกันใหม่


ขณะที่ สว.ตัวตึงมองว่า การแก้ พ.ร.ป.สองฉบับดังกล่าว จะเชื่อมโยงไปถึงการรื้อฟื้นคดี เพื่อลบล้างความผิดกรณีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับคดีของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ และเครือข่ายหรือไม่  


ในสถานการณ์ที่กลุ่มอนุรักษนิยมเก่า กำลังฟื้นคืนชีพจากกรณีกลุ่มทะลุวังเล่นใหญ่เกินเบอร์ ‘คนชั้น 14’ จึงสั่งแตะเบรกถอนร่างกฎหมายร้อนสองฉบับ เพื่อลดการเผชิญหน้ากับองค์กรอิสระ

 

 

นายกฯคนนอก
ดั่งที่รู้กัน ตามดีลพิเศษข้ามขั้ว รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้สถาปนาเป็นหัวขั้วอนุรักษ์นิยมใหม่ 


อีกด้านหนึ่ง แกนนำเพื่อไทยก็ได้ข่าวว่า กลุ่มอนุรักษนิยมเก่า ยังเชื่อว่าจะเกิดสุญญากาศทางการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญยุบ 2 พรรคการเมืองภายในช่วงเวลา 2-3 เดือนนับจากนี้ไป


ถึงตอนนั้น จะมีการล้างไพ่การเมืองกันใหม่ เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี โดยจะมีนายกฯคนนอก หรือ “นายกฯมาตรา 5” 


อนึ่ง มาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 บัญญัติว่า “รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ  บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับ หรือการกระทำใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้


เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด  ให้กระทำการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”


กูรูการเมืองฟันธงว่า นี่คือฝันอันเลอะเทอะของกลุ่มขวาจัด จะไม่มีวันเกิดภาวะทางตันการเมืองอย่างแน่นอน


สำหรับ ‘คนชั้น 14’ ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มาเยอะ จึงไม่ประมาทในสถานการณ์ลมขวาจัดพัดหวน สั่งถอยทุกประเด็นร้อน 

  

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ