เชียงใหม่เปลี่ยน ‘ทัศนีย์’ บ้านใหญ่-สีส้ม ‘วิภาวัลย์’ แม่ทัพใหม่เจ๊แดง
ศึกท้องถิ่นเชียงใหม่ ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ หลังทิ้งเพื่อไทย ขยับใกล้ชิดค่ายส้ม ฟากฝั่ง เจ๊ปุ้ย วิภาวัลย์ แม่ทัพค่ายเจ๊แดง ครบเครื่องบู๊-บุ๋น
ส่องเหนือ ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ หลังทิ้งเพื่อไทย ขยับใกล้ชิดค่ายส้ม ฟากฝั่ง เจ๊ปุ้ย วิภาวัลย์ ค่ายเจ๊แดง พุ่งเป้าสมรภูมิเทศบาลนครเชียงใหม่
ศึกท้องถิ่นเชียงใหม่ วนลูปฉายหนังซ้ำ การเมือง 2 ตระกูลคือ ชินวัตร-บูรณุปกรณ์ ที่มีก้าวไกลเป็นตัวแปร ทั้ง อบจ.และเทศบาล
นับแต่ปีใหม่เป็นต้นมา กุ้ง-ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่ ได้ปรากฏตัวร่วมทำกิจกรรมในเขตเทศบาลตำบลช้างเผือกบ่อยครั้ง ซึ่งมี คเชน เจียกขจร เพื่อนของกุ้ง เป็นนายกเทศมนตรี
ปลายเดือน ส.ค.2566 วันที่พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว กุ้ง-ทัศนีย์ ได้ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวทันที
เวลานั้น หลายคนคาดการณ์กันว่า กุ้งอาจจะย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกล แต่จนถึงวันนี้ เธอก็ยังไม่แสดงความชัดเจนว่า จะสังกัดพรรคใด
การเลือกตั้ง สส.เชียงใหม่ ครั้งที่ผ่านมา แกนนำเพื่อไทยย้ายกุ้ง จากเขต 1 ไปลงเขต 3 ก็สร้างความอึดอัดใจให้แก่ตัวเธอและทีมงาน แต่สุดท้าย เธอก็พ่ายพายุสีส้ม เหมือนอดีต สส.เพื่อไทยคนอื่นๆ
จะว่าไปแล้ว ความคิดและจุดยืนทางการเมืองของกุ้ง แตกต่างอดีต สส.เชียงใหม่ เพื่อไทยหลายคน รวมถึงคนในตระกูลบูรณุปกรณ์ เธอโตมาจากบ้านใหญ่ แต่ก็ทำงานการเมืองต่างจากบ้านใหญ่
ที่สำคัญ กุ้ง ทัศนีย์ อาจจุดเชื่อมต่อระหว่างบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ กับพรรคก้าวไกล ในเวทีการเมืองท้องถิ่นเชียงใหม่
สมรภูมิใหม่
กุ้ง-ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ เติบโตในร่มเงาบ้านใหญ่ตระกูลบูรณุปกรณ์ ที่มีเสี่ยตุ๊-ปกรณ์ บูรณุปกรณ์ และเสี่ยโต๊ะ-บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เป็นแม่ทัพธุรกิจการเมืองของตระกูล
สำหรับกุ้ง ทัศนีย์ เป็นลูกของพรทัศน์-ผ่องศรี บูรณุปกรณ์ มีพี่น้อง 2 คนคือ ไก่ ทัศนัย และกวาง ธารทิพย์
ปี 2546 ทัศนีย์ ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก โดยกุ้งบริหารเทศบาลตำบลช้างเผือก 2 สมัย จนถึงปี 2554 ก็ลาออกไปสมัคร สส. และเพื่อนของกุ้ง คเชน เจียกขจร รับไม้ต่อเป็นนายกเล็กช้างเผือก
ช่วงการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ปี 2563 กุ้ง ทัศนีย์ ในฐานะ สส.เชียงใหม่ เพื่อไทย วางตัวลำบากมาก เมื่อบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ลงแข่งกับ พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ตัวแทนเพื่อไทย
บุญเลิศมีศักดิ์เป็นลุงของกุ้ง เสี่ยก๊อง พิชัย ได้รับการสนับสนุนจากทักษิณ และเจ๊แดง เยาวภา ปรากฏว่า การต่อสู้ครั้งนั้นดุเดือดรุนแรงมาก
ฝ่ายบุญเลิศ และกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมพ่ายแพ้ รอยบาดหมางระหว่างตระกูลชินวัตร-บูรณุปกรณ์ กลายเป็นแผลในใจมาจนถึงทุกวันนี้
สมัยหน้า กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ส่งคนลงสมัครนายก อบจ.เชียงใหม่แน่นอน จะเป็นกุ้ง ทัศนีย์ หรือไม่ ก็ติดตามกันต่อไป
ศึกชิงนายกเล็ก
ดังที่ทราบกัน เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2566 เจ๊ปุ้ย-วิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายก อบจ.เชียงใหม่ พร้อมทีมงานกลุ่มเพื่อไทยเพื่อเชียงใหม่ ได้เข้าสวัสดีปีใหม่ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์
นี่เป็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ ที่น่าจับตามองเพราะเจ๊ปุ้ย วิภาวัลย์ ออกงานถี่มากทั้งงานราษฏร์ งานหลวง
เจ๊ปุ้ย เป็นนักการเมืองท้องถิ่นมานานกว่า 20 ปี เคยทำงานร่วมกับกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม และเครือข่ายชินวัตร
ต้นปี 2564 นายกก๊อง-พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ แต่ง ตั้งเจ๊ปุ้ย เป็นรองนายก อบจ.เชียงใหม่ และได้เห็นบทบาทผู้หญิงเก่งคนนี้ ในฐานะมือประสานสิบทิศ
เจ๊ปุ้ย วิภาวัลย์ เป็นนักการเมืองหญิงครบเครื่องเรื่องบู๊และบุ๋น มีประสบการณ์ในสนามเลือกตั้งเทศบาลมาหลายสมัย
ว่ากันว่า ต้นปี 2569 ค่ายเจ๊แดงจะวางตัวให้เจ๊ปุ้ย ลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เพราะสมัยที่แล้ว พรรคเพื่อไทยพลาดท่าปราชัยให้กับตระกูลบูรณุปกรณ์
ย้อนไปการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ปี 2564 อัศนี บูรณุปกรณ์ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม เอาชนะชาตรี เชื้อมโนชาญ พรรคเพื่อไทยไปได้
อัศนี เป็นลูกชายประพันธ์ บูรณุปกรณ์ และเป็นหลานชายของบุญเลิศบูรณุปกรณ์ ซึ่งรับไม้ต่อเป็นนายกเล็กเชียงใหม่จากไก่ ทัศนัย บูรณุปกรณ์ น้องชายทัศนีย์
เกจิการเมืองล้านนา ประเมินว่า หากตระกูลบูรณุปกรณ์ จับมือพรรคก้าวไกล จะสามารถยึดได้ทั้ง อบจ.เชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่