มือปราบนักรีด ‘อธิบดีโจ’ เกมไม่จบ ‘ป.ปลา’ ผู้กุมปริศนางบ 1.5 หมื่นล้าน

เด็ดหัวนักร้อง อธิบดีโจ ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ ผลงานเข้าตานายใหม่ ทิ้งปริศนา ป.ปลา นักการเมืองบ้านใหญ่ขยับยาก ชนักปักหลัง

วีรกรรม อธิบดีโจ-เจ๊ติ๋ม ลูกชาวนา มีเสียงชื่นชมมากมาย จากปฏิบัติการจับแก๊งนักร้องตบทรัพย์ แต่ยังมีปริศนาเรื่องงบฯ 1.5 หมื่นล้าน

ต้นสัปดาห์นี้ คงไม่มีข่าวไหนใหญ่ไปกว่ากรณี อธิบดีโจ-ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว และภรรยา ติ๋ม-ธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ร่วมมือกับตำรวจ ปปป. จัดการก๊วนรีดทรัพย์ ศ. และ จ. ชนิดจับได้คาหนังคาเขา
 

วันที่ 30 ม.ค. 2567 ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนครั้งแรกที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเคลียร์หลายประเด็น โดยเฉพาะกรณีที่มีชื่อ ‘หมู’ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ตอนหนึ่ง อธิบดีโจได้ระบายความรู้สึกถึงสาเหตุดับเครื่องชนนักร้องว่า “มันไม่รู้จักหยุดสักที ผมเจ็บใจมาก มันเป็นใคร ประเทศไทยอยู่ได้ยังไง ถ้ามีคนประเภทนี้ ผมจึงวางแผนกันเอง...” 

ในแวดวงกรมการข้าวรู้ดีว่า อธิบดีโจ สมัยที่เป็น ผอ.กองเมล็ดพันธุ์ เป็นคนเรียนรู้เร็ว มีสไตล์การทำงานแบบใจถึง เกษตรกรพึ่งได้

 

 

หลังได้นั่งเก้าอี้รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร แค่ 2 เดือน ก็ขึ้นเป็นรองอธิบดีกรมการข้าว และเป็นอธิบดีกรมการข้าว ในยุคที่ ประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ กำกับดูแลกรมการข้าว 

กรณีที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีโจ เปิดชื่อนักการเมือง ป.ปลา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังก๊วนนักร้องตบทรัพย์ และมีความพยายามจะโทรหาอธิบดีโจ พร้อมภรรยา-เจ๊ติ๋ม

เรื่องนี้ อธิบดีโจพูดสั้นๆ ว่า “ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่เกี่ยวกับผม” และยังบอกว่า ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนโทรมาขอให้ยุติการเปิดโปงขบวนการรีดทรัพย์

ที่ปรึกษาหมู
เรื่องใหญ่ของอธิบดีโจ ที่ต้องรีบออกมาชี้แจงด่วนๆ คือ กรณีนักร้องคนดังไปพูดว่า มี ‘นายหมู’ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ เป็นคนพาภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว นำเงินไปมอบให้กับศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 

อธิบดีโจ ณัฏฐกิตติ์ ชี้แจงว่า ตนและภรรยา ไปบ้านนายศรีสุวรรณ พร้อมกับ ‘นายหมู’ เพื่อเป็นพยานรวมเป็นสามคน 

วัตถุประสงค์ที่อธิบดีโจไปบ้านศรีสุวรรณในวันนั้น อยากสอบว่าทำไมต้องร้องเรียนตัวเขา มีความผิดอะไร ไปดูการสอบสวน 4-5 โครงการ ก็ไม่ได้ผิดอะไร ซึ่งเมื่อคุยกันเข้าใจแล้ว จึงเดินทางกลับ ไม่มีการจ่ายเงินแต่ประการใด

“ผมแขวนพระอยู่เต็มอก ผมพูดความจริงทุกอย่าง ไม่ได้โกหก ไม่ได้ไปเจรจาเรื่องการจ่ายเงินจ่ายทองอะไรทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกัน” 

งบเจ้าปัญหา
สำหรับประเด็นงบประมาณ 15,000 ล้านบาทของกรมการข้าว ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อธิบดีโจ ณัฏฐกิตติ์ ต้องเคลียร์ปมร้อน

อธิบดีโจบอกว่า งบฯโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการ เกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 15,000 ล้านบาทนั้น เป็นงบที่ไม่ได้ใช้ กรมการข้าวไม่ได้บริหารเอง จึงต้องโอนไปให้ ธ.ก.ส.บริหารจัดการต่อ ตามมติ ครม.ในรัฐบาลประยุทธ์

ถ้าพลิกแฟ้มข่าวเก่ากรณีงบฯ 15,000 ล้านบาทนั้น มีเรื่องที่น่าขีดเส้นใต้ไว้ ทำไมรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกรมการข้าวสมัยนั้น จึงออกมาโวยว่าโดนข้ามหัว

สำนักข่าวอิศรา เมื่อวันอังคารที่ 28 มิ.ย. 2565 พาดหัวข่าวว่า ประภัตร ตั้งประธานคณะที่ปรึกษาฯ สอบปมงบกรมการข้าวปี 66 เพิ่มขึ้น 1.5 หมื่นล้าน พร้อมเผยอธิบดีกรมการข้าว ไม่เคยเสนอเรื่องให้ทราบโดย ตรง 

ผู้ที่ออกมาแถลงข่าวนี้คือ รัฐชทรัพย์ นิชิด้า ประธานคณะที่ปรึกษา ประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ

ตอนหนึ่งที่ปรึกษาประภัตรระบุว่า การเสนอโครงการต่างๆ ของอธิบดีกรมการข้าว ไม่เคยผ่านมายังหน้าห้องรัฐมนตรีที่กำกับดูแลโดยตรง จึงทำให้ไม่ทราบเรื่องงบประมาณที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว

ว่ากันว่า ประภัตรรู้เรื่องงบฯเพิ่มจากกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ พ.ศ.2566 เมื่อกรมการข้าว ของบฯเพิ่มขึ้น 15,000 ล้านบาท ซึ่งปกติได้ปีละ 2,000 ล้านบาท

ในที่สุด งบฯก้อนนี้ได้ถูกโยกจากกรมการข้าว ไปสู่ ธ.ก.ส. แต่ปมขัดแย้งระหว่างประภัตร และอธิบดีโจ เหมือนจะไม่ยอมจบ และบานปลายมาถึงวันนี้