ลุงรีเทิร์น ‘ประวิตร’ คัมแบ๊กเสาหลัก ‘อนุรักษนิยม’ บนกระดานอำนาจ

ชาติทหารเสือ ประวิตร คัมแบ๊กสนามอำนาจ ไว้ลายเสาหลักอนุรักษนิยม ลุงรีเทิร์นในจังหวะ สว.ตัวตึง ขอเปิดศึกซักฟอกรัฐบาล

นุ่งยีนส์สวมผ้าใบ ใจบันดาลแรงภาค 2 ประวิตร ลุยสมรภูมิเป้าหมาย พปชร. แอบฝันส้มหล่น หากมีอุบัติเหตุ เกมอำนาจพลิกผัน

รับศักราชใหม่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กลับมาอยู่ในพื้นที่ข่าวอีกครั้ง หลังกิจกรรมพลังประชารัฐสัญจรที่ อ.วิเชียรบุรี และ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์

ที่สำคัญ ดอกผลของนโยบายพรรคพลังประชารัฐ จะถูกกล่าวขวัญถึงมากขึ้นในสัปดาห์นี้คือ การแจกโฉนด ส.ป.ก.เพื่อการเกษตร

วันที่ 15 ม.ค. 2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเป็นประธานในการมอบโฉนดเพื่อการเกษตรจำนวน 1,000 ฉบับ ที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

นี่เป็นการคิกออฟมอบโฉนดเพื่อการเกษตร ให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 25,000 ราย พร้อมกันทั่วประเทศ

วันที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมพรรคพลังประชารัฐสัญจรที่เพชรบูรณ์ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำถึงนโยบายการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.เป็นโฉนด ซึ่งทางพรรคได้มอบหมาย ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็นผู้ดำเนินการ

วันนั้น ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้ขึ้นประกาศบนเวทีว่า เราจะแจกโฉนดเพื่อการเกษตรให้กับคนไทยทั้งแผ่นดิน ซึ่ง พล.อ. ประวิตร เป็นคนสั่งว่าต้องทำให้ได้ 

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้ากองทัพสื่อ จึงมีเสียงเล่าลือว่า ลุงป้อมวางมือแล้ว ฉะนั้น ในวันเจอนักข่าวที่เพชรบูรณ์ ลุงใจบันดาลแรง จึงบอกว่า “ผมดูแลเฉพาะพรรค” ส่วนงานในคณะรัฐมนตรีนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นตัวแทนคอยประสานกับนายกฯเศรษฐา

 

 

 

คำอธิบายข้างต้นนี้ ก็สอดรับกับการวิเคราะห์ว่า ลุงป้อมยังไม่วางมือ เพราะต้องการสนับสนุนให้น้องชาย-ลุงป๊อด พัชรวาท สร้างผลงานในรัฐบาลเศรษฐา รอเวลามารับไม้ต่อคุม พปชร.ในวันข้างหน้า 
 

เสาหลักอนุรักษนิยม
สังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของ พล.อ.วิชญ์ วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มือทำงานคนหนึ่งของบ้านป่ารอยต่อฯ ที่พยายามสร้างภาพลุงป้อมให้เป็นหัวแถวฝ่ายอนุรักษนิยม 

หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรี ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และพรรครวมไทยสร้างชาติ 

เมื่อไม่นานมานี้ พล.อ.ประวิตร ได้ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐออนไลน์ว่า “พล.อ.ประยุทธ์ ก็มาหาผม โดยบอกกับผมว่า มีพี่คนเดียวที่เป็นหลักปกป้องสถาบัน ผมบอกก็ช่วยกัน ทุกคนก็รักประเทศชาติ รักสถาบัน”

สอดรับกับคำให้สัมภาษณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ว่า พลังประชารัฐ เป็นพรรคอนุรักษนิยม 

เลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำที่มีคะแนนนิยมสูงสุดในกลุ่มโหวตเตอร์ฝ่ายอนุรักษนิยม

เมื่อไม่มีลุงตู่ในเวทีการเมือง ลุงป้อมจึงหวังที่จะแชร์คะแนนเสียงจากมวลชนอนุรักษนิยม ที่มีมากกว่า 5 ล้านเสียง

ส่วนประเด็นลุงป้อมจะคัมแบ๊กในตำแหน่งสำคัญ ในช่วงก่อน สว.จะหมดวาระ 11 พ.ค. 2567 นั้น ก็ยังเป็นเรื่องการวิเคราะห์ เกมนี้ฝันได้ คิดได้ แต่ความจริงเป็นคนละเรื่องกัน

 

 

ชิงแบรนด์พรรคปีกขวา
การเลือกตั้งปี 2566 พรรคพลังประชารัฐได้เก้าอี้ สส. 40 ที่นั่ง เป็น สส. แบบแบ่งเขต 39 ที่นั่ง และ สส. บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง 

เมื่อเข้าร่วมรัฐบาลเศรษฐา พรรค พปชร. ได้โควตาเก้าอี้ 4 รัฐมนตรีคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข 

ที่เหลืออีก 1 เก้าอี้คือ ไผ่ ลิกค์ รมช.พาณิชย์ ติดปัญหาเรื่องคุณสมบัติ จึงไม่มีการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ และยังต้องรอการปรับ ครม.รอบหน้า

ภาพขุนพล พปชร.ที่ยืนข้าง พล.อ.ประวิตร ในวันที่เดินทางไป จ.เพชร บูรณ์ ไล่ตั้งแต่ ตรีนุช เทียนทอง, ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์, ไพบูลย์ นิติตะวัน, วราเทพ รัตนากร, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และอรรถกร ศิริลัทธยากร รวมไปถึง สส.พลังประชารัฐอีกจำนวนหนึ่ง

มินับ 3 รัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และสันติ พร้อมพัฒน์ ที่ไปกันพร้อมหน้า สะท้อนความเป็นปึกแผ่นของบ้านป่ารอยต่อฯ