ขงเบ้งบ้านจันทร์ ‘ภูมิธรรม’ คุมเกม ‘ประชามติ’ ตอบโจทย์ฝ่ายจารีต
สายตรงชั้น 14 ภูมิธรรม เล่นกลประชามติแก้รัฐธรรมนูญ แนวร่วมส้มป่วน ขงเบ้งอ้วน มือคุมการเมือง ไม่แปลกที่จะได้รับฉายา รองกอง
ขงเบ้งบ้านจันทร์ ภูมิธรรม เล่นกลประชามติแก้รัฐธรรมนูญ แนวร่วมส้มป่วน ถามข้อเดียว ส่อเค้าเสียงโหวตไม่ผ่าน ลากยาวไปอีก 4 ปี
คนชั้น 14 เลือก ภูมิธรรม เป็นเบอร์ 2 คุมการเมืองรัฐบาลเศรษฐา จึงไม่แปลกที่จะได้รับฉายา รองกอง จากสื่อทำเนียบรัฐบาล
ในที่สุด ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ประธาน ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เห็นชอบให้ทำประชามติ 3 รอบ โดยรอบแรกภายในเดือน เม.ย.-พ.ค.2567 โดยจะถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์”
นี่เป็นคำถามเพียงข้อเดียวที่รัฐบาลจะสอบถามประชาชนในการลงประชามติครั้งแรก โดยไม่มีการระบุให้ชัดเจนว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะเป็นผู้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ภายในเดือน ม.ค.2567 คณะกรรมการชุดดังกล่าว จะนำข้อสรุปที่ได้ข้างต้นนี้ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี หาก ครม. ให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งเรื่องให้ กกต. กำหนดวันออกเสียงประชามติต่อไป
ปฏิกิริยาจากองค์กรพันธมิตรของพรรคก้าวไกล รู้สึกไม่พอใจต่อการตัดสินใจทำประชามติตามแนวทางของรองนายกฯ ภูมิธรรม เพราะเหมือนเป็นการมัดมือชก ตั้งใจให้ประชามติไม่ผ่าน ลากเกมแก้รัฐธรรมนูญให้ยืดยาวออกไปอีก
จะว่าไปแล้ว นับแต่มีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว พรรคเพื่อไทย ได้ส่งสัญญาณมาแต่แรกแล้วว่า เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วน
ไม่แน่ใจว่า เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในดีลลับหรือไม่ และการตั้งคำถามประชามติว่าด้วยการไม่แก้หมวด 1-2 รัฐธรรมนูญ 2560 ก็ชัดเจนว่าคนชั้น 14 คิดอะไรอยู่
รองกองไม่ใช่ลองกอง
วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี ปรากฏว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ได้ฉายา รองกอง
คำว่า รองกอง มาจากชื่อผลไม้ลองกอง ผลดก พวงยาว กิ่งใหญ่ เปรียบเหมือนงานต่างๆ ที่กองสุมอยู่รอบตัวรองนายกฯอ้วนคนเดียว
เนื่องจาก ภูมิธรรม เป็นรองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 เมื่อนายกฯเศรษฐา ต้องออกไปเดินสายขายของในต่างประเทศ รองนายกฯอ้วน จึงต้องรับเละทุกงานในมิติการเมือง
ที่ผ่านมา รองนายกฯอ้วน ต้องทำหน้าที่แทนนายกฯเศรษฐา นับตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาประมง กลุ่มพีมูฟ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ EEC หรือแม้แต่ปัญหาแรงงานไทยในอิสราเอล ไหนจะงานหลักในกระทรวง ปัญหาของแพง ราคาอ้อย น้ำตาล
ทักษิณ ชินวัตร รู้อยู่แก่ใจว่า จุดอ่อนของเศรษฐา ทวีสิน คืองานการเมือง ฉะนั้น รองนายกฯอ้วน จอมยุทธ์บ้านจันทร์ส่องหล้า จึงต้องแบกรับหน้าที่นี้
ยาสามัญประจำบ้าน
ดังที่ทราบกัน หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดข และอ้วน ภูมิธรรม คือคู่หูคู่คิดที่ทักษิณ ชินวัตร ไว้ใจที่สุด และเป็นคนวงในบ้านจันทร์ส่องหล้า
รัฐบาลผสมที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จึงต้องมีหมอมิ้ง-อ้วน เป็นมือทำงานให้นายกฯเศรษฐา ที่มาจากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และยังขาดประสบการณ์ทางการเมือง
ปฏิบัติการแกงส้ม หรือหลอกส้ม แล้วพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคอนุรักษนิยมใหม่ หากไม่มีคนชื่อ ภูมิธรรม สวมหมวกรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินหมากการเมืองก็ยากที่จะไหลลื่นและราบรื่น
หลายคนคงเห็นความเก๋าของ ภูมิธรรม ที่มีเกมรุก-รับ การวางหมาก วางเกมที่แยบยล แถมบทโหดที่มีทั้งหนักทั้งเบา ยามที่ให้สัมภาษณ์สื่อ
ในสถานการณ์ที่ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในสถานะตัวประกันทางการเมือง ฉะนั้น เบอร์ 2 รองจากเบอร์ 1 ในรัฐบาลเพื่อไทย จึงต้องเป็นผู้ที่เข้าใจแนวทางประนีประนอม รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว
ที่สำคัญ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน รอคิวที่จะกลับบ้านเหมือนพี่ชาย ทุกย่างก้าวทางการเมืองของเพื่อไทย จึงต้องดำเนินไปตามดีลปรองดองนั่นเอง