คอลัมนิสต์

นับถอยหลัง ‘ทักษิณ’ จุดเปลี่ยนการเมือง ‘เพื่อไทย’ สยบส้มสุดขั้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อ่านเกมข้ามช็อต ทักษิณ บนชั้น 14 รพ.ตำรวจ ครบ 120 วัน เผือกร้อนรัฐบาลเศรษฐา จะนอนนอกคุกหรือไปต่อ รอจุดเปลี่ยนการเมืองไทย

ใกล้ครบ 120 วัน ทักษิณ บนชั้น 14 เผือกร้อนรัฐบาลเศรษฐา จะฝืนกระแส หรือนอนพักรักษาตัวต่อ จับตาจุดเปลี่ยนหลังพ้นโทษ


อ่านการเมืองไทย มองข้ามช็อต ทักษิณ พ้นโทษกลางปี 2567 ส่งสัญญาณการปรับเปลี่ยน คนชั้น 14 กุมดุลอำนาจตัวจริง


นับถอยหลังครบรอบ 120 วัน ในวันที่ 22 ธ.ค. 2566 กรณี ทักษิณ ชินวัตร หลังกรมราชทัณฑ์ส่งตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้ามารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจ

ฉะนั้น การเมืองไทยในสัปดาห์นี้ จึงโฟกัสไปที่ชั้น 14 อาคารภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ


ว่ากันตามจริง ทักษิณ จะต้องรับโทษ 1 ใน 3 หรือ 6 เดือนก่อน จึงจะเข้าเงื่อนไขการพักโทษ ซึ่งจะครบในวันที่ 22 ก.พ. 2567


กรณีการรักษาตัวนอกเรือนจำของทักษิณ ตามระเบียบราชทัณฑ์ หากครบ 120 วัน เป็นอำนาจอธิบดีกรมราชทัณฑ์เห็นชอบ และต้องเสนอ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมให้รับทราบ


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า เป็นดุลยพินิจของคณะแพทย์ รพ.ตำรวจ และแพทย์จากราชทัณฑ์ ที่รายงานต่อปลัดกระทรวงยุติธรรม และเสนอมายัง รมว.ยุติธรรม พิจารณาจะให้ทักษิณนอนรักษาตัวต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการรักษาเป็นหลัก 


บังเอิญว่า ระหว่างนี้มีการประกาศระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังนอกเรือนจำพอดิบพอดี กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองเรื่องเอื้อทักษิณให้กลับไปรับโทษที่บ้านอย่างเท่ๆ


หากย้อนไปดูลำดับเวลาของที่มาระเบียบราชทัณฑ์คุมขังนอกคุก ก็พอจะเข้าใจว่า เหตุใดผู้คนจึงออกมาโวยเรื่องอภิสิทธิ์ชน คนไม่เท่ากัน


ปลายปี 2563 สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในรัฐบาลประยุทธ์ ได้ลงนามประกาศใช้กฎกระทรวง กำหนดสถานที่คุมขัง พ.ศ.2563 ว่าด้วยกรณีคุมขังนอกเรือนจำ


หากกรมราชทัณฑ์ออกระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ รองรับกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวตั้งแต่ปลายปี 2563 หรือต้นปี 2564 ก็จะไม่ข้อครหาใดๆ

รอต้อนรับที่ปรึกษา
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์สื่ออยู่ 2 ประเด็นคือ พูดในฐานะลูกสาว ก็อยากให้พ่อทักษิณพ้นโทษกลับบ้านโดยเร็ววัน และอยากให้พ่อทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาตัวเอง หรือคนอื่นๆ เพื่อบ้านเมือง


เฉพาะหน้านี้ ครอบครัวชินวัตร ก็เฝ้าให้กำลังใจและขอให้มีสุขภาพแข็งแรง รอวันพ้นโทษกลางปี 2567 (ตามกระบวนการยุติธรรมปกติ)

 

 

ใกล้ครบ 120 วัน คุณหญิงพจมาน และอุ๊งอื๊ง ตกอยู่ในกระแสคนชั้น 14

 


“เมื่อออกมาอย่างแข็งแรง และสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ในแง่ของเป็นที่ปรึกษาทั้งตัวของตนเอง และใครก็ตามที่ยังเคารพรักท่านอยู่ให้ได้มีความรู้ใช้ความรู้ความสามารถของท่านให้ประเทศชาตินี้ ไปอยู่ในจุดที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีวันถอยหลัง นี่คือสิ่งที่ตั้งใจและอยากให้มันเป็น” 

 

สมการการเมืองใหม่
เมื่ออุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เปิดประเด็นรอวันที่พ่อทักษิณพ้นโทษ เพื่อมารับบทที่ปรึกษาส่วนตัวของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทุกสำนักข่าวก็มองข้ามช็อตไปถึงการปรับ ครม. หรือบางสำนักไปไกลถึงขั้นเปลี่ยนตัวนายกฯ


แน่นอน ไม่มีใครปฏิเสธว่า เมื่อทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขวัญใจคนเสื้อแดงได้ออกมาโลดแล่นบนถนนการเมืองอีกครั้ง จะเป็นจุดเปลี่ยนการเมืองไทย


อย่าลืมว่า ต้นปีหน้า มีคดีทางการเมืองที่สำคัญเกี่ยวกับพรรคก้าวไกลอยู่ 2 คดี หากผลออกมาเป็นลบ อาจมีความวุ่นวายนอกสภาฯ 


นัยว่า ผลแห่งคดีล้มล้างการปกครองฯ จะชี้ชะตาก้าวไกล และพิสูจน์ความขลังของดีลลับรัฐบาล 314 เสียง


ในวันที่ไม่มี 3 ป.อยู่ในกระดานอำนาจ ทักษิณและเพื่อไทย จึงเป็นตัวแทนของพลังจารีตไปโดยปริยาย เหมือนไฟต์บังคับต้องเผชิญหน้ากับพลังด้อมส้ม


อีกด้านหนึ่ง สถานการณ์ในรัฐบาลเศรษฐา แม้ว่า เฉลิม ชัยศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. จะบอกว่า ไม่ใช่อะไหล่ทางการเมืองของใคร แต่ในแวดวงการเมืองเชื่อว่า 21 เสียงของกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย ได้ผนึกแน่นกับเครือข่ายคนชั้น 14 ไปเรียบร้อยแล้ว


นักสังเกตการณ์ทางการเมืองจึงมองว่า พรรค ปชป. นี่แหละซอฟต์พาวเวอร์ เพิ่มพลังต่อรองให้เพื่อไทย คงไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนกล้าแสดงอิทธิฤทธิ์แน่นอน


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ