ซุ้มโคล้านตัว ‘สมศักดิ์’ แพ็กคู่ ‘อนุชา’ เดินเกมซุ่มซ่อนสะสมกำลัง

ซุ้มโคล้านตัว สมศักดิ์ จับคู่ อนุชา ต่างพรรคพวกเดียวกัน อ่านขาดสิ้นยุค 3 ป. แยกกันเราอยู่ รวมหมู่หลังได้เป็นเสนาบดี ปั้นผลงานส่งการบ้านชั้น 14  

สามสหาย สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา ดำเนินกลยุทธ์ซุ่มซ่อนสะสมกำลัง รอคอยโอกาส ด้วยประสบการณ์การเมืองยาวนานกว่า 40 ปี 

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร เดินทางไปพบสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ จ.อุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่ในการรับผิดชอบของ สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี จึงมีนำการนำ สส.สุโขทัย, พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ ไปต้อนรับกันคึกคัก

สมศักดิ์จับจังหวะนี้ให้สัมภาษณ์สื่อทำนองอย่าเพิ่งไปแซวหัวหน้าอิ๊ง เตรียมตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ยังมีเวลาสั่งสมบารมีอีกหลายปี

ก่อนหน้านั้น วันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และ อนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ตรวจเยี่ยมโครงการโคล้านครอบครัว ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พื้นที่ต้นแบบจังหวัดสุโขทัย

น่าจะเป็นครั้งแรกที่สองสหาย อดีตผู้ก่อการค่ายวังน้ำยม จะได้ลงพื้นที่พร้อมกันในฐานะเสนาบดี 
 

จะว่าไปแล้ว โครงการโคล้านครอบครัวนั้น ริเริ่มโดย อนุชา นาคาศัย สมัยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ

ในรัฐบาลเศรษฐา สมศักดิ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกองทุนหมู่บ้านฯ จึงได้สานต่อโครงการโคล้านครอบครัว 

เอ่ยชื่อนโยบายโคล้านตัว ก็ต้องนึกถึง สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่พยายามผลักดันโครงการนี้มาแต่สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย และจำได้ว่า ช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2548 สมศักดิ์นั่งเครื่องบินส่วนตัวไปปราศรัยขายฝันโคล้านตัวทั่วประเทศ

กลยุทธ์แยกกันเดิน
ถ้าจำกันได้ ช่วงปลายรัฐบาลประยุทธ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ตัดสินใจหวนคืนพรรคเพื่อไทย เนื่องจากสมศักดิ์ประเมินแล้วว่า ยุคสมัย 3 ป.จบลงแล้ว ก็ควรจะปิดฉากกลุ่มสามมิตร

ส่วน เสี่ยแฮงก์-อนุชา นาคาศัย มีสัญญาใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในภารกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงต้องแยกทางกับสมศักดิ์ เป็นการชั่วคราว

นักการเมืองอาวุโสจากสุโขทัย ที่ไม่เคยพลาดเก้าอี้รัฐมนตรี เป็นนักกลยุทธ์ที่ช่ำชองเกมการเมืองคนหนึ่ง ถึงจะได้รองนายกรัฐมนตรี แทนที่จะเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ก็รู้จักถอย ไม่ตีโพยตีพาย

วันที่ สมศักดิ์ อุ้มพระเข้าห้องทำงานรองนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล จึงมีแสดงพลังให้ทุกคนได้เห็น ด้วยการระดม สส.เพื่อไทยกว่า 30 ชีวิตมาให้กำลังใจคนบ้านใหญ่ศรีสำโรง

จริงๆ แล้ว สมศักดิ์ อาจพลาดหวัง แต่ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้นั่ง รมว.คมนาคม ส่วน อนุชา นาคาศัย ที่อยู่รวมไทยสร้างชาติ ทำตัวเงียบๆ ไม่ออกอาการต่อรอง ก็เข้าป้าย รมช.เกษตรฯ ถือว่า ก๊วนวังน้ำยมเดิม นี่ฝีมือไม่ธรรมดา

 

 

บ้านใหญ่ชัยนาท
หนุ่มชัยนาท อนุชา เรียนจบกฎหมาย เป็นทนายความอยู่ระยะหนึ่ง เพื่อนของสมศักดิ์ จึงชักชวนให้มาช่วยงานนักการเมืองหน้าใหม่จากสุโขทัยเมื่อปี 2526 

แทบไม่น่าเชื่อว่า เสี่ยแฮงก์อยู่กับสมศักดิ์ มาตั้งแต่พรรคกิจสังคม, พรรคไทยรักไทย, พรรคมัชฌิมาธิปไตย, พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ เพิ่งมาแยกทางกันเมื่อการเลือกตั้งปี 2566

เสี่ยแฮงก์เป็น สส.ชัยนาท สมัยแรกปี 2544 หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบจึงเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี สมัยพรรคมัชฌิมาธิปไตย เสี่ยแฮงก์ ได้ส่งพรทิวา ศักดิ์ศิริเวทย์กุล อดีตภรรยา ลงสมัคร สส.ชัยนาท และพรทิวาได้เป็น รมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลอภิสิทธิ์

บังเอิญ พี่น้อง 2 ป.มีรอยร้าว อนุชาเลือกข้างลุงตู่ ทำงานเข้าตาทีมงานฝ่าย เสธ.ในทำเนียบฯ จึงได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

ผู้ชาย 3 คน สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา ที่ถ่ายภาพร่วมกันกันในห้องทำงานรองนายกฯ เป็นการส่งสัญญาณว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า บ้านใหญ่ชัยนาทคงได้ร่วมงานกับ 2 ส. ภายใต้ร่มธงทักษิณ