จัดฉากจบ ‘เศรษฐา’ ติดกับดักกู้มาแจก ‘อุ๊งอิ๊ง’ ขยับเรือธงลำใหม่

ลุ้นทีละช็อต เศรษฐา อุ้ม พ.ร.บ.เงินกู้ ฝ่าด่าน 2 สภา เรือธงดิจิทัลวอลเล็ต ส่อพลิกคว่ำที่ศาลรัฐธรรมนูญ ปรับแผนเรือธงดัน อุ๊งอิ๊ง ไต่บันไดดาว

ผ่าแผนกู้เพื่อชาติ 5 แสนล้าน ทำโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต แจกหัวละ 10,000 บาท เศรษฐา ว้าวุ่น เจอนักร้องเรียงหน้ายื่นองค์กรอิสระตรวจสอบ 

ประเด็นร้อนเงินดิจิทัลวอลเล็ต กลายเป็นเรื่องแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการดังกล่าว เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ได้ประกาศแล้วว่า จะมาจากการออกพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านบาท

จะว่าไปแล้ว การตราเป็นพระราชบัญญัติ ต้องผ่าน 2 สภาคือ สภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา สภาละ 3 วาระ และอาจมีขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญอีก คงต้องใช้เวลานานพอสมควร

นายกฯเศรษฐา มั่นใจ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 140 มีความจำเป็นเร่งด่วนในการกู้เงิน เพราะเศรษฐกิจไทยอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เติบโตเฉลี่ย 1.8-1.9% รั้งท้ายประเทศในกลุ่มอาเซียน

“ผมมั่นใจพรรคร่วมรัฐบาล มี 320 เสียง ผมว่าเสียงของผมมั่นคง และเราทำงานเป็นทีม เชื่อว่าผ่าน” นายกฯ เศรษฐา พูดถึง สส.ในสภาฯ กรณีที่จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ ดังกล่าว

 

จอดป้ายที่ศาล รธน.
ภายในเดือน พ.ย.นี้ นายกฯเศรษฐา จะส่งร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทดังกล่าว ไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาว่า จะสามารถออกเป็น พ.ร.บ.เสนอต่อสภาได้หรือไม่ หากไม่มีปัญหา ก็จะส่งต่อไปยังสภาต่อไป คาดว่า จะเข้าสภาฯช่วงเดือน ก.พ.ปีหน้า

สแกนพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน มี 314 เสียง พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียงพรรคชาติ พัฒนากล้า 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคท้องที่ไทย 1 เสียง และพรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง

การที่นายกฯเศรษฐา พูดถึงตัวเลข 320 เสียง อาจจะรวมถึงพรรค 1 เสียงอีกจำนวนหนึ่งที่เคยแสดงตัวว่า สนับสนุนรัฐบาลเศรษฐา

แกนนำเพื่อไทยเชื่อว่า เสียงโหวต พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน จากพรรคร่วมรัฐบาล จะผ่าน 3 วาระรวด คงจะไม่มีรายการแตกหักกันในเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพราะทุกพรรคในฝั่งรัฐบาล คงไม่พร้อมจะลงเลือกตั้งใหม่ในเร็ววันนี้

สำหรับสภาสูง สว.ส่วนหนึ่งน่าจะประกาศคว่ำร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ แม้หลายฝ่ายคาดว่า สว.ไม่ให้ผ่านแน่ แต่บางเสียงก็แย้งว่า รัฐบาลเศรษฐา เป็น รัฐบาลพิเศษ คงต้องฟังเสียงฝ่ายค้ำบัลลังก์อำนาจให้ด้วย

หากว่าหัวขบวนอนุรักษนิยม ปล่อยให้ สว.คว่ำเรือธงเพื่อไทย ก็จะเข้าทางพรรคก้าวไกล ไม่เป็นผลดีต่อภาพรวมการต่อสู้ชิงอำนาจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ยกเว้นกรณีที่พรรคเพื่อไทยต้องการให้จบ เพราะเกิดกระแสโจมตีเรื่องกู้มาแจก กลายเป็นกระแสลบทั่วทั้งสังคม อาจต้องเลือกไปจอดป้ายที่ศาลรัฐธรรมนูญเหมือนกรณีร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์

 

 

 

 

ขยับเรือธงใหม่
หากร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน จอดป้ายที่ศาลรัฐธรรมนูญ คงมีเสียงเรียกร้องหาผู้รับผิดชอบ ก็คือ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี 

สถานการณ์การเมืองเวลานั้น คงตรึงเครียด สส.เพื่อไทยบางกลุ่ม น่าจะกดดันให้มีการเปลี่ยนม้ากลางศึก ก็ต้องรอดูว่า คนชั้น 14 จะคิดอ่านอย่างไร

ว่ากันว่า บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ประสงค์ที่จะให้ อุ๊งอิ๊ง แพทอง ชินวัตร เป็นนายกฯ ในห้วงเวลาที่เร็วเกินไป และสุ่มเสี่ยงที่จะถูกทำลายทางการเมือง

ดังที่ทราบกัน พรรคเพื่อไทย มี 2 เรือธงคือ เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และซอฟต์พาวเวอร์ เมื่อเรือธงลำหนึ่งส่อเค้าเกยตื้น ก็อาจต้องทิ้งไปเลย

ส่วนซอฟต์พาวเวอร์เป็นโจทย์ใหม่แห่งอนาคต ที่มีอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้รับผิดชอบ และตัวเธอเองถูกวางตัวให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำรุ่นต่อไปของพรรคเพื่อไทย

หากยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์สำเร็จ ก็เป็นจุดขายใหม่ในการเลือกตั้งสมัยหน้า และอีก 3 ปีข้างหน้า ผู้คนก็อาจลืมเรื่องเงินดิจิทัลวอลเลตไปแล้ว