ศึกสองขั้ว ‘พิธา’ ฝ่าคมดาบตุลาการ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ดิ้นหนีบ่วงบาศฝ่ายขวา

การเมืองสองขั้ว พิธา ขอสู้ต่ออีกสมัย ลบคำปรามาสนายกฯทิพย์ อุ๊งอิ๊ง เข้าสู่โหมดแต่งตัว ล้างภาพขวาใหม่ รอชิงนายกฯ คนที่ 31 

พิษดีลข้ามขั้ว ส่งผลบริบทการเมืองเปลี่ยน สื่อทุกสำนักฟันธง เลือกตั้งสมัยหน้าคือ ศึกสองขั้ว เสรีนิยมก้าวหน้า-อนุรักษนิยมใหม่

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัว หน้าพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งแน่นอน

พิธาบอกสื่อนอกว่า เขาจะไม่ยอมแพ้ และมันเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลา

ตัดกลับไปที่บิ๊กดินเนอร์ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล บนตึกสูงย่านสาทร เมื่อค่ำวันที่ 8 พ.ค.นี้ ซึ่งการปรากฏตัวของ แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำให้สื่อวิเคราะห์ว่า วงข้าวการเมืองวงนี้ เป็นการโปรโมทอุ๊งอิ๊ง

อนุทิน ชาญวีรกูล มังกรการเมืองค่ายบุรีรัมย์ อธิบายประเด็นนี้ว่า ไม่ได้เป็นการโปรโมทอุ๊งอิ๊ง “..คนรุ่นใหม่ทุกคน มีความรู้ความสามารถ ถ้าถึงเวลาอันควร และเจ้าตัวมีความพร้อม องค์ประกอบครบ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น” เซียนหนู กล่าว 

 

เซเลปการเมือง
ปรากฏการณ์ 22 สิงหา ทำให้พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ที่เคยเป็นพันธมิตรฝ่ายประชาธิปไตย ต้องกลายเป็นคู่แข่งขันกันโดยปริยาย

รูปธรรมแห่งอนาคตคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ แพทองธาร ชินวัตร คือคู่ชิงนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ในกรณีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองใน 3-4 ปีข้างหน้านี้

ช่วงที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. แต่ข่าวสารเกี่ยวกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะเซเลปการเมือง ยังเต็มพื้นที่สื่อ เมื่อพิธา เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมงานกาลาดินเนอร์ TIME100 NEXT จากนิตยสาร TIME และขอบคุณคนไทยในต่างแดน ที่ช่วยกันออกมาลงคะแนนเลือกตั้ง

ในมิติทางการเมือง กระแสพิธาอาจดูเหมือนอ่อนแรง แต่ในแง่ความเป็นเซเลปการเมือง แบรนด์พิธายังแข็งแรง

อย่างไร ช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้ พิธา และพรรคก้าวไกล ยังต้องลุ้นคดีสำคัญที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 

คดีแรก กรณี ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียง เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่

คดีที่สอง กรณี กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ อยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ

เมื่อเดินทางไปสหรัฐ พิธาให้สัมภาษณ์สื่อนอกว่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งกรณีถือหุ้นสื่อ และล้มล้างการปกครอง เป็นเรื่องของความตั้งใจ ของกลุ่มคนที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง

 

 

 

ติดบ่วงอนุรักษนิยม
สำหรับพรรคเพื่อไทย เกจิการเมืองมองข้ามช็อตไปถึงช่วงปลายปี 2567 เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร จะพ้นโทษ และทักษิณอาจมาทำหน้าที่ปรึกษาส่วนตัวของอุ๊งอิ๊ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ว่ากันว่า บรรยากาศดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล อันชื่นมื่นได้ชี้ถึงแนวโน้มและความเป็นไปได้ว่า เศรษฐา ทวีสิน จะเป็นนายกรัฐมนตรี จนครบตามวาระ ไม่มีการเปลี่ยนม้ากลางศึก

ดังนั้น พรรคเพื่อไทยที่ต้องการบรรลุเป้าหมายชนะเลือกตั้ง เป็นพรรคที่ได้ สส.อันดับหนึ่ง เหนือกว่าพรรคก้าวไกล จึงอาจได้เห็นภาพสองพ่อลูกตระกูลชินวัตร เดินสายพบปะคนเสื้อแดงทั่วประเทศ

แน่นอน ทักษิณในวัย 70 กว่า ไม่ใช่ไอดอลของคนรุ่นใหม่ แต่อย่าลืมฐานเสียงเดิมของไทยรักไทย ก็ยังอีกหลายสิบล้านคน

บิ๊กดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อค่ำวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงเป็นการสัญญาณไปสู่ทิศทางอนาคตด้วย 

อันหมายถึง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร จะสั่งสมประสบการณ์และบารมี เพื่อเตรียมตัวเป็นผู้นำรัฐบาลใหม่ หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า