หนองบัวโมเดล ‘เศรษฐา’ เยียวยาบ้านใหญ่ ‘ไชยา-วิเชียร’ รักษาที่มั่นอีสาน

หนองบัวโมเดล เศรษฐา กับแผนเยียวยาบ้านใหญ่ ไชยา บวกตระกูลขาวขำ แห่งอุดรธานี อนาคต วิเชียร อาจได้นั่งรัฐมนตรี 

ครม.สัญจรครั้งแรก เศรษฐา ปักธงที่หนองบัวลำภู พ่วงเดินสายเยี่ยมยามเมืองอุดรฯ และเลย รักษาที่มั่นใหญ่อีสานเหนือ

ปลายปี 2566 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคิวงานแน่นตามสไตล์ทำงานไม่มีวันหยุด เฉพาะช่วงวันที่ 3-4 ธ.ค. 2566 คิกออฟ ครม.สัญจรครั้งแรกที่ จ.หนองบัวลำภู 
 

ช่วงเวลาเดียวกัน นายกฯเศรษฐา ก็วางคิวลงพื้นที่ จ.อุดรธานีและ จ.เลย เพราะเป็นที่มั่นทางการเมืองอันสำคัญของพรรคเพื่อไทย

หลายคนมองว่า ครม.สัญจรหนองบัวลำภู อาจเป็น ‘หนองบัวโมเดล’ แก้ปัญหาความทุกข์ยากของคนอีสาน เหมือนอาจสามารถโมเดล สมัยรัฐบาลทักษิณ

สำหรับรัฐบาลเศรษฐา หนองบัวโมเดลในทางการเมือง น่าจะมีเรื่องการเยียวยากลุ่มก๊วนในพรรคเพื่อไทยด้วย

กรณีแรก ไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู 8 สมัย เพิ่งได้ตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็มีปัญหาระหองระแรงกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ มาหลายรอบแล้ว

กรณีที่สอง วิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี ที่เจอนายกฯเศรษฐา ทักท้วงเรื่องงบฯ โครงการพืชสวนโลก กลางวงประชุม ทำเอาบ้านใหญ่อุดรฯ เสียศูนย์ไปเหมือนกัน    
 

บ้านใหญ่ศรีบุญเรือง
การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในช่วงการฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา นัยว่า มีเรื่องค้างคาใจกันมากมาย

ยกตัวอย่างเพื่อไทยอุดรธานี มี สส. 7 คน แต่ไม่ได้รัฐมนตรี เหตุใดเก้าอี้รัฐมนตรี จึงไปหล่นที่หนองบัวลำภู ที่มี สส. 3 คน และนครพนม ที่ได้ สส. 2 คน

ว่ากันว่า ไชยา พรหมา นักการเมืองอาวุโสที่ได้ รมช.เกษตรฯ อาจเป็นเพราะศราวุธ เพชรพนมพร อดีต สส.อุดรฯ สอบตก

สำหรับ ไชยา พรหมา เป็น สส. 8 สมัย แยกเป็น สส.อุดรธานี 3 สมัย และ สส.หนองบัวลำภู 5 สมัย

ไชยา ไม่ใช่คนหนองบัวลำภูโดยกำเนิด เขาเกิดที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น หลังเรียนจบรามคำแหง ได้แต่งงานกับอัญชลี ทายาทร้านศรีบุญเรืองวัฒนา ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องเขียนแบบเรียน และสังฆภัณฑ์ร้านเดียวใน อ.ศรีบุญเรือง

อีกด้านหนึ่ง ไชยา มีความสนิทชิดเชื้อกับสมชาย-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จึงน่าจะเป็นแรงส่งให้ได้เก้าอี้รัฐมนตรี 

 

 

บ้านใหญ่อุดรฯ
หลายคนอาจจำได้ นายกฯเศรษฐา มาเยือนอีสานเหนือ 8-9 ก.ย. 2566 ได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งทาง จ.อุดรธานี และ อบจ.อุดรธานี เป็นเจ้าภาพนายกฯ

ช่วงหนึ่ง นายกฯเศรษฐา ได้พูดเบรกเรื่องงบฯ การจัดงานพืชสวนโลก ทำให้ วิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี รู้สึกเสียหน้า และ สส.อุดรฯ ก็ไม่พอใจท่าทีของเศรษฐา

นี่เป็นจุดอ่อนของเศรษฐา ที่ยังไม่มีความชำนาญงานการเมือง และหลงคิดว่า ตัวเองเป็นซีอีโอแสนสิริอยู่

ต่อมา วิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรฯ ได้ตั้งโต๊ะชี้แจงข้อมูลกรณีงบฯจัดงานพืชสวนโลก โดยสรุปว่า กรมวิชาการเกษตร เป็นผู้ทำเรื่องของบเพิ่มเติม ไม่เกี่ยวกับตนเอง และ อบจ.แต่อย่างใด 

จริงๆ แล้ว ครอบครัวนายกฯวิเชียร เป็น สส.อุดรฯ 2 คนคือ วัชระพล ขาวขำ และภรรยา เทียบจุฑา ขาวขำ สส.อุดรธานี 3 สมัย ไม่แน่ใจว่า เศรษฐา รู้ข้อมูลนี้มาก่อนหรือไม่

การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายกฯ วิเชียร จับมือกับศราวุธ เพชรพนมพร อดีต สส.อุดรฯ และลูกเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก จัดทัพผู้สมัคร สส.ทั้ง 10 เขต 

น่าเสียดายที่ศราวุธ เพชรพนม พ่ายก้าวไกล จึงไม่ได้ลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรี และน่าจับตาว่า ศราวุธจะลงสมัครนายก อบจ.อุดรฯ แทนวิเชียรหรือไม่

ว่ากันตามจริง เพื่อไทยอุดรฯ อาจไม่ชนะยกจังหวัดเหมือนครั้งก่อน แต่การที่ได้ 7 ที่นั่งจาก 10 ที่นั่ง สมควรจะได้โควต้ารัฐมนตรีอย่างน้อยก็ 1 เก้าอี้

ปลายปี 2567 วิเชียร ขาวขำ ก็จะครบวาระการดำรงตำแหน่งนายก อบจ. มีกระแสข่าวว่า คนหลังม่านไฟเขียวให้วิเชียร ได้นั่งรัฐมนตรี หากมีการปรับ ครม.ครั้งต่อไป

ดังนั้น นายกฯเศรษฐา ยกคณะ ครม.มาประชุมที่หนองบัวลำภู ต่อด้วยการลงพื้นที่อุดรฯ ก็ถือว่าเป็นการเยียวยาบ้านใหญ่ทั้งสองจังหวัด