คอลัมนิสต์

คนละครึ่ง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ขยับรุก ‘เศรษฐา’ เงื่อนไขดีลลับกลับบ้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตัวจริงบ้านจันทร์ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ควงคุณหญิงอ้อ ออกงาน สะท้านเก้าอี้ เศรษฐา นายกฯคนละครึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ บนเงื่อนไขดีลลับ

ราวแผ่นดินไหว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ประมุขเพื่อไทย ควงคุณหญิงอ้อออกงาน สะท้านเก้าอี้ เศรษฐา มาพร้อมข่าวลือดีลลับคนละครึ่ง


เหตุที่ไม่เชื่อว่า เศรษฐา คือตัวจริงตั้งแต่ 22 สิงหา จึงเกิดทฤษฎีสลับกันคนละ 2 ปี ฟังดูเหมือนมุขตลก แต่คนชั้น 14 อาจไม่ขำ


ยังโจษขานกันไม่จบ เหตุการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมมารดา คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เข้าร่วมกิจกรรมของมูลนิธิไทยคมที่ท้องสนามหลวง

จังหวะที่คุณหญิงพจมาน ผู้มากบารมีแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้าปรากฏตัวพร้อมลูกสาว ที่เพิ่งได้ตำแหน่งหัวหน้าพรรค จึงมีการวิเคราะห์กันมากมาย 


หลายสำนักไปไกลถึงขั้นตระกูลชินวัตร เตรียมดันแพทองธาร นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี โดยอ้างอิงทฤษฎีแบ่งกันคนละ 2 ปี ระหว่างอุ๊งอิ๊งกับเสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน


“วันนี้ผมเองมาสวมหมวกนายกฯ วันนี้ผมเป็นนายกฯ ผมเองก็บริหารจัดการหน้าที่ของผมไป คุณอุ๊งอิ๊งก็ทำหน้าที่รองประธาน Soft Power ก็บริหารจัดการไป เราเข้าใจกันดี ไม่มีปัญหาตรงนี้ ยืนยันว่า ประเทศไทยมีนายกฯ คนเดียว” นายกฯ เศรษฐา อธิบายกับนักข่าวเพื่อสยบข่าวลือ 

 

บทบาทแม่ทัพเพื่อไทย ควบรองประธานบอร์ดซอฟต์พาวเวอร์ฯ ก็เหมือนนายกฯเงา

 


อาการฟุ้งซ่านในโซเชียล น่าจะเริ่มมาจากภาพการแสดงความยินดีของนายกฯเศรษฐาต่ออุ๊งอิ๊ง ที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย


นัยว่า ภาพเดียวก็แทนคำพูดได้ล้านคำ ภาพเศรษฐาจุมพิตมืออุ๊งอิ๊ง จึงถูกตีความทางการเมือง กลายเป็นเรื่องนายกฯคนละครึ่ง


“ถ้าไปดูให้ดี ผมก็ไม่ได้จุมพิตที่มือท่าน ผมก็เอามือผมไปรองอยู่แล้ว มันเป็นความรัก เป็นความเอ็นดูเป็นความผูกพันซึ่งกันและกัน ก็ขอเลยว่าเรื่องนี้อย่าไปขยายความกันต่อดีกว่า”


นายกฯเศรษฐา บอกว่า อย่าไปขยายความ แต่มันก็ถูกลากไปถึงฉากการแสดงความเคารพ ในหนังดังเรื่องก็อตฟาร์เธอร์ เรียบร้อยแล้ว

เหตุจากดีลลับ
มูลเหตุหนึ่งที่คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า เศรษฐา ไม่ใช่นายกฯตัวจริง ก็ย้อนไปดูก่อนโหวตชื่อเศรษฐา วันที่ 22 ส.ค. 2566 ยังมีคนเชื่อว่า เศรษฐาจะโหวตไม่ผ่าน และต้องมาเปลี่ยนเป็นอุ๊งอิ๊ง


เนื่องจากมีดีลลับพาทักษิณกลับบ้าน จึงเกิดการสลับขั้ว ทำให้พรรคเพื่อไทย หันมาจับมือกับพรรคภูมิใจไทย และพรรค 2 ลุงคือ รวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ


ฉากทัศน์คนกลุ่มนั้น จึงเชื่อว่า อุ๊งอิ๊งจะต้องเป็นนายกฯ เสมือนเป็นตัวประกันของฝ่ายอนุรักษนิยม


เมื่อเศรษฐา ทวีสิน ได้เป็นนายกฯ ก็ยังประเมินว่า เสี่ยนิดคงเป็นได้ไม่นาน ตามมาด้วยทฤษฎีสลับกันคนละ 2 ปี ระหว่างอุ๊งอิ๊งกับเศรษฐา


จริงๆ แล้ว การจัดตั้งรัฐบาลในสถานการณ์พิเศษ ที่มี เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก็เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่เพื่อไทยบอบช้ำและเรตติ้งความนิยมทรุดฮวบ 


เพื่อไทยมีต้นทุนที่ต้องจ่ายแพงที่สุดคือ ภารกิจพาทักษิณกลับบ้าน ด้วยการประนีประนอมกับขั้วอนุรักษนิยม  


ชั่วโมงนี้ ทักษิณกลับมาเมืองไทยแล้ว และอยู่ที่ชั้น 14 ร.พ.ตำรวจ การตัดสินใจจะส่งลูกสาวขึ้นเป็นนายกฯหรือไม่ ก็คงต้องอยู่ในเงื่อนไขดีลลับกลับบ้าน

 

ตัวประกันการเมือง
อย่างที่ทราบกัน กลุ่มอนุรักษนิยมบางปีก ยังไม่ไว้วางใจ ทักษิณ ชินวัตร เกรงว่าในวันข้างหน้า ทักษิณจะคิดแบบเดิม หรือนอกลู่นอกทาง


ดังนั้น การที่อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เพิ่มความหวาดระแวงให้กลุ่มขวาจัด 


ยิ่งอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร กล่าวเต็มปากเต็มคำในวันที่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากพ่อ ก็ยิ่งไม่ไว้ใจ


“ดิฉันเติบโตมาในแวดวงการเมือง ได้สังเกต ได้ใกล้ชิด ทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ต้องขอขอบคุณ ดร.ทักษิณ ชินวัตร คุณพ่อที่ทำให้ได้เห็นถึงความตั้งใจ เห็นถึงอุดมการณ์ของท่าน”


ทักษิณเคยเล่าถึงการโคลนนิ่งจากพ่อสู่ลูกว่า “อิ๊งค์ เขาใกล้ชิดผม บางทีคนเรานะ การได้พูดออกมา มันเหมือนกับการทบทวนให้ตัวเอง ผมก็พูดกับลูกดีกว่าพูดคนเดียว..อิ๊งค์เขาเลยจำที่ผมพูดได้หมด” (หนังสือ THAKSIN SHINAWATRA Theory and Thought)


ฉะนั้น อุ๊งอิ๊งจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ ก็ต้องสดับตรับฟังว่า กลุ่มอนุรักษนิยมตัวจริงเสียงจริง จะไฟเขียวเมื่อใด 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ