คอลัมนิสต์

50 ปีฟ้าสีทอง ‘วิสา’ อยากกลับบ้าน ‘ภูมิธรรม’ ทิ้งเพื่อนแล้วหรือ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รำลึก 50 ปี ฟ้าสีทองผ่องอำไพ วิสา คัญทัพ ยังลี้ภัยในเยอรมันปัญญาชนอาวุโสเรียกร้อง ภูมิธรรม ช่วยเพื่อนเดือนตุลากลับบ้าน

50 ปี 14 ตุลา วิสา ถูกทิ้งอยู่เยอรมัน ปัญญาชนอาวุโสเรียกร้อง ภูมิธรรม ช่วยพากวีฟ้าสีทองผ่องอำไพ กลับเมืองไทย


50 ปี 14 ตุลา เครือข่ายทักษิณ กุมอำนาจรัฐ แต่ผองเพื่อนเดือนตุลา ยังเป็นผู้ลี้ภัย ไร้อนาคตในต่างแดน 


ในวาระครบรอบ 50 ปี 14 ตุลาคม 2516 ได้มีการพูดถึง 13 กบฏรัฐธรรมนูญ ผู้จุดไฟการชุมนุมใหญ่ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

1 ใน 13 กบฏรัฐธรรมนูญ คือ วิสา คัญทัพ ที่ยังลี้ภัยอยู่ในเยอรมัน ด้วยเหตุนี้ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดโอกาสให้ผู้เห็นต่างทางการเมืองกลับประเทศ 


“วิสา คัญทัพ 1 ใน 13 กบฏรัฐธรรมนูญ/กวีวรรคทอง ‘เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน’ ยังไม่ได้กลับบ้าน.. รัฐบาลเพื่อไทยควรต้องนำวิสา คัญทัพ และผู้เห็นต่างทางการเมือง กลับบ้าน”


สาเหตุที่อาจารย์ชาญวิทย์ เลือกเขียนจดหมายถึงภูมิธรรม เพราะเห็นว่า รัฐบาลเศรษฐา มีคนเดือนตุลา ได้ดิบได้ดีมีอำนาจวาสนา อย่างอ้วน ภูมิธรรม เป็นรองนายกฯ และหมอมิ้ง-นพ.พรหมินทร์ เป็นนายกฯน้อย น่าจะมีช่องทางช่วยเพื่อนร่วมอุดมการณ์ได้กลับบ้านเสียที


ดังที่รู้กัน วิสา และภรรยา ไพจิตร อักษรณรงค์ เดินทางไปพำนักอยู่ในเยอรมัน เมื่อปี 2557 จนถึงวันนี้ ก็ยังนอนป่วยไข้อยู่ในต่างแดน

กบฏรัฐธรรมนูญ
ในวัยหนุ่ม วิสา คัญทัพ เป็นนักศึกษารามคำแหง และเป็นแกนนำชมรมคนรุ่นใหม่ ได้จุดประกายการต่อต้านเผด็จการถนอม-ประภาส จนนำไปสู่การชุมนุมใหญ่ และเดินขบวนขับไล่เผด็จการ


เมื่อจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี สมัยนั้น มีท่าทีจะลากยาวการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และใช้อำนาจเผด็จการปกครองประเทศต่อไป


นักศึกษาและปัญญาชนกลุ่มหนึ่ง จึงรวมตัวกันในนาม กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ โดยมีการลงชื่อ 100 คน เรียกร้องขอรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยนักวิชาการ นักการเมือง นักคิด นักเขียน และนิสิตนัก ศึกษา


วิสา คัญทัพ ตัวแทนชมรมคนรุ่นใหม่ รามคำแหง ได้เข้าร่วมก่อการในกลุ่มนี้ด้วย

 

วิสา คัญทัพ(ผมยาว) วันที่ถูกจับในข้อหากบฏรัฐธรรมนูญ ปี 2516


วันที่ 6 ต.ค. 2516 กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ นำโดย ธีรยุทธ บุญมี รวมทั้งวิสา ได้เดินแจกใบปลิวเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ในเขตกรุงเทพฯ พวกเขาถูกตำรวจจับกุม ยัดเยียดข้อหาให้เป็นกบฏรัฐธรรมนูญ รวมทั้งหมด 13 คน 


ช่วงวันที่ 6-13 ต.ค.2516 วิสา และเพื่อนพ้องน้องพี่ ถูกควบคุมตัวอยู่ ไม่ได้เห็นภาพการชุมนุมมวลมหาประชาชนเรือนแสน กระทั่ง วิสาได้รับอิสรภาพ จึงได้รับรู้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่

 

เบื้องหลังกวีวรรคทอง
แรงบันดาลใจของ วิสา คัญทัพ ในการเขียนบทกวีการเมือง ที่กลายเป็นตำนาน และถูกเล่าขานมาจนถึงวันนี้คือ เหตุการณ์การชุมนุม 13-15 ต.ค.2516


“ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาปสูญ ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่ ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”


สามปีที่แล้ว วิสา คัญทัพ ได้โพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่าที่มาของบทกวีฟ้าสีทองผ่องอำไพ 


“...หลังถูกปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไขจากเรือนจำชั่วคราวบางเขน ภาพที่เห็นตอนค่ำของคืนวันที่ 13 ตุลาคมคือ ภาพพลังนักศึกษาประชาชนเรือนแสนแน่นขนัดอยู่เต็มอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”


วิสา เก็บภาพจำนั้นไว้ในใจ ยังไม่คิดจะเขียนบทกวี กระทั่งช่วงปี 2517-2518 วิสาได้ทำงานประจำที่กองบรรณาธิการ นสพ.เสียงใหม่ รายวัน


“ผมเขียนกลอนบทนี้ที่นี่ ตอนนั้นผมรับเป็นผู้ถอดความหนังสือประกอบภาพปั้นของจีนที่ชื่อ พืชพันธุ์แห่งการต่อสู้ : ภาพปั้นแกะสลักของชนผู้ยากไร้ อันเป็นเรื่องราวความทุกข์ระทมของชาวนาจีนในสังคมศักดินา ตอนจบของเรื่อง ที่หน้าสุดท้ายมีภาพดวงตะวันสีแดงดวงโตปรากฎซ้อนอยู่กับภาพชาวนาที่ลุกขึ้นสู้ จนได้ชัยชนะ”


อย่างไรก็ตาม วิสายืนยันว่า แรงบันดาลใจที่เขียนกลอนฟ้าสีทอง ไม่ใช่ใบหน้าชาวนาจีน แต่หากเป็นภาพพลังนักศึกษาประชาชน 14 ตุลา 


50 ปีผ่านไป กวีวรรคทอง “เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” ได้ถูกนำไปใช้ปลุกระดมในเวทีม็อบชาวนา ม็อบกรรมกร ช่วงก่อน 6 ต.ค.2519 จนถึงม็อบคนรุ่นใหม่ ปี 2563-2564


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ