คอลัมนิสต์

ดั่งนกไร้รัง ‘วิสา’ ฟ้ามืดดำไม่อำไพ ‘อดิศร’ เป็นใหญ่ในสภา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

50 ปีผ่านไป วิสา ป่วยไข้ลี้ภัยในเยอรมัน ดั่งนกไร้รัง ฝากถึง อดิศร เพื่อนรัก ฟ้ายังมืดมนดำไม่อำไพ สหายศรชัยเป็นใหญ่ในสภา

50 ปี 14 ตุลา วิสา ยังไม่ได้กลับบ้าน ดั่งนกไร้รัง ฝากกลอนถึง อดิศร สหายรัก โลกนี้คือละคร มีบุญวาสนาเป็นประธานวิปรัฐบาล


ตำนานกวีฟ้าสีทอง วิสา ลี้ภัยในเยอรมันนานนับ 10 ปี โรคพาร์กินสันรุมเร้า ชีวิตนี้ยังหวังจะได้คืนรัง


ในวาระ 47 ปี 6 ตุลา และ 50 ปี 14 ตุลา จอม เพชรประดับ สื่ออิสระได้สัมภาษณ์ วิสา คัญทัพ เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ผ่านการไลฟ์สดทางเพจเฟซบุ๊ก Jom Petchpradab  และทาง Youtube/Jom Voice Channel เมื่อคืนวันที่ 6 ต.ค. 2566 

วิสา คัญทัพ คนเดือนตุลา เจ้าของกวีวรรคทอง “เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” เดินทางไปลี้ภัยในเยอรมันตั้งแต่ปี 2557


เมื่อปี 2563 ไพจิตร อักษรณรงค์ อดีตนักร้องดัง ภรรยาของวิสา คัญทัพ บอกเล่าอาการป่วยไข้ของสามีว่า “พี่วิสาป่วยเป็นพาร์กินสันก็ไปหาหมอเพื่อรักษาอาการสั่นมาเป็นระยะ แต่คนที่เป็นโรคนี้หมอบอกยังไงก็รักษาไม่หายขาด ต้องกินยาไปตลอดชีวิต..”

 

วิสา คัญทัพ และไพจิตร อักษรณรงค์ ในวันนี้ที่เยอรมัน

 


“ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาปสูญ ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่ ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”


เมื่อ 50 ปีที่แล้ว วิสา คัญทัพ เขียนกลอนบทนี้ จากแรงบันดาลใจที่ได้เห็นพลังประชาชนเรือนแสน ออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยบนท้องถนนเมื่อ 14-15 ต.ค. 2516

ฟ้ามืดมนดำไม่อำไพ
วิสา คัญทัพ เล่าให้จอม เพชรประดับ ฟังว่า “ปัญหาสุขภาพตอนนี้ เหมือนการรบที่ยืดเยื้อ เป็นโรคที่ไม่หาย รักษาพยุงเป็นครั้งๆ ไป”


แม้สุขภาพกายจะไม่แข็งแรง แต่สุขภาพใจยังเข้มแข็ง จุดยืนทางการเมืองแจ่มชัด และยังเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่


เมื่อจอม ถามถึงเพื่อนคนเดือนตุลา วิสาบอกว่า “ถ้าจะคงความขลัง คงความศรัทธาของคนเดือนตุลา ก็คือการทำให้ประชาธิปไตยที่แท้จริงเกิดขึ้นมาให้ได้ เพราะเวลาผ่านไป 50 ปี 14 ตุลา เรายังคงย่ำเท้าอยู่กับที่ ซอยเท้าอยู่บนรอยทรายเดิม”


วิสาเขียนกลอนถึงสหายร่วมรบในอดีต “เหมือนว่าเราหลับไป 50 ปี ตื่นขึ้นมายังไม่มีอะไรใหม่ ฟ้ายังมืดมนดำไม่อำไพ 14 ตุลาพาไทยอยู่ที่เดิม”


ตอนท้าย จอมถามเรื่องความหวังที่จะได้กลับบ้าน วิสาบอกตรงๆ ว่า “เป็นเรื่องที่คิดอยู่ตลอดเวลา ตามประสาคนไกลบ้าน นกไร้รัง..”


ก่อนยุติการให้สัมภาษณ์ วิสาได้ฝากกลอนถึงเพื่อนเก่า “โลกนี้คือละครย้อนยอกนัก ห่วงคนเป็นที่รักต้านไม่ไหว ทุ่มสุดกายสุดตัวสุดหัวใจ สุดชีวิตมอบให้ไปหมดแล้ว”


วิสาไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร แต่คาดเดาว่า น่าจะหมายถึง อดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย 

 

 

โลกนี้คือละคร
วิสา คัญทัพ และอดิศร เพียงเกษ สนิทสนมกันมาแต่สมัยอยู่ในเมืองและป่าเขา ตอนที่อยู่สำนัก A30 แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว วิสาใช้ชื่อ สหายตะวัน อดิศรใช้ชื่อ สหายศรชัย


เมื่อออกจากป่า วิสาและอดิศร ยังทำงานด้านวัฒนธรรมร่วมกัน ยามที่อดิศรเป็นรัฐมนตรี ก็จะดึงวิสา ไปเป็นที่ปรึกษาหรือคณะทำงาน 


สมัยรัฐบาลไทยรักไทย อดิศรเป็นตัวตั้งตัวตีตั้งวงดนตรีสามก้อนเส้าโดยมีตัวอดิศร และวิสา เป็นตัวยืน มีเพื่อนรัก-สุรชัย จันทิมาธร มาร่วมแจม


ยุคแดงทั้งแผ่นดิน อดิศรเป็นประธานสถานีโทรทัศน์เอเชียอัพเดท และดี-สเตชั่น วิสาและไพจิตร ก็มาจัดรายการเพลงเพื่อคนเสื้อแดง ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สองสามีภรรยาได้ตำแหน่งข้าราชการประจำฝ่ายการเมือง 


ปัจจุบัน อดิศรกลับมาเป็น สส.อีกครั้งในรอบ 17 ปี และได้ตำแหน่งประธานวิปรัฐบาล หลังรับบทหัวหมู่ทะลวงฟันค่ายสีส้ม
 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ