นายใหญ่ยกสุดท้าย ‘หมอมิ้ง’ นายกฯน้อย ‘ภูมิธรรม’ คุมความมั่นคง
ยุติสงครามขั้วสี 17 ปี หมอมิ้ง หวนคืนทำเนียบ นั่งนายกฯน้อย ภูมิธรรม คุมความมั่นคง ภารกิจครั้งสุดท้าย เพื่อนายใหญ่
ไทยรักไทยรีเทิร์น หมอมิ้ง หวนคืนทำเนียบ นั่งนายกฯน้อย ภูมิธรรม คุมความมั่นคง ภารกิจครั้งสุดท้าย เพื่อนายใหญ่
เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน หมอมิ้งวัย 69 อ้วน ภูมิธรรมวัย 70 เดินแนวทางประนีประนอม ยุติสงครามขั้วสี 17 ปี
ในที่สุด เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามความคาด หมายของสื่อทุกสำนัก
เนื่องจาก หมอมิ้ง-นพ.พรหมินทร์ เคยตำแหน่งเลขาธิการนายก รัฐมนตรี ในรัฐบาลทักษิณ 1 (ปี 2544) และรัฐบาลทักษิณ 2 (2549)
“ความจริงอายุก็มากแล้วนะ ไม่ควรจะต้องมาทำงาน แต่ถ้าเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง เคยตั้งปณิธานไว้ว่า อะไรที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองพร้อมที่จะทำ” หมอมิ้ง ออกตัวกับนักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล
เมื่อถูกถามว่า ทักษิณและเศรษฐา มีบุคลิกเหมือนหรือต่างอย่างไร หมอมิ้งตอบว่า “โอ้ คล้ายกันเลยครับ ทำงานเร็ว ทำงานเยอะ เร็วมาก ผมกลัวจะทำไม่ทันท่าน”
สายเหยี่ยวในอดีต
หมอมิ้งเคยบอกเล่าการทำงานกับอดีตนายกฯ ทักษิณว่า ต้องเดาใจ และต้องเตรียมให้แม่นให้เร็ว เพราะทักษิณเป็นคนคิดไว ทำไว
ฉายา นายกฯน้อย มาจากการทำงานของ นพ.พรหมินทร์ ในสมัยอดีตนายกฯทักษิณ มีหน้าที่จัดข้อมูลให้ให้นายกฯ ขณะเดียวกัน ยังเตรียมชุดคำอธิบายเรื่องต่างๆ ให้รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดีด้วย เพื่อจะได้ตอบคำถามของสื่อได้ทันท่วงที และมีเอกภาพ
ช่วงปลายรัฐบาลทักษิณ 2 (ปี 2548-2549) ได้เกิดขบวนการต่อต้านระบอบทักษิณ มีการชุมนุมและเดินขบวนต่อเนื่อง ตามมาด้วยการบอยคอตเลือกตั้งของพรรคฝ่ายค้าน
หมอมิ้งในฐานะเลขาธิการนายกฯ ได้ลุกขึ้นมาตอบโต้แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนได้ฉายา นักการเมืองสายเหยี่ยว
สำหรับ พ.ศ.นี้ วันที่พรรคเพื่อไทย ยอมทุ่มทุนหมดหน้าตัก เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพิเศษสลายขั้ว หมอมิ้งเก็บตัวเงียบ และปล่อยให้อ้วน ภูมิธรรมเดินเกมการเมืองพลิกขั้ว
ประกอบกับช่วงเลือกตั้ง 2566 นพ.พรหมินทร์ รับตำแหน่งประธานคณะกรรม การด้านเศรษฐกิจ ควบประธานคณะกรรมการนโยบาย พรรคเพื่อไทย จึงมุ่งมั่นทำงานด้านนโยบายรัฐบาลเศรษฐาอย่างเดียว
ชั่วโมงนี้ หมอมิ้งคงกลืนเลือดเหมือนแกนนำเพื่อไทยหลายๆ คน เพราะไม่ยอมถอย ก็จะทำให้เพื่อไทย ชวดโอกาสคว้าเก้าอี้นายกฯ มาให้เศรษฐา ทวีสิน
มือการเมือง
ช่วงปี 2544 หมอมิ้ง และอ้วน ภูมิธรรม กลายเป็นคู่หูคู่คิดที่ทักษิณ ชินวัตร ไว้ใจที่สุด และกลายเป็นคนวงในบ้านจันทร์ส่องหล้า
ดังนั้น รัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทย จึงต้องมีหมอมิ้ง-ภูมิธรรม เป็นมือทำงานให้นายกฯเศรษฐา ที่มาจากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และยังขาดประสบการณ์ทางการเมือง
นายกฯเศรษฐา ได้จัดลำดับรองนายกรัฐมนตรี และ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ประกอบด้วย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ (สร.2) ,สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ (สร.3) , ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ (สร.4)
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย (สร.5),พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สร.6) , พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายก รัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน (สร.7) และพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ (สร.8)
ที่น่าสนใจ ภูมิธรรม รองนายกฯ ควบ รมว.พาณิชย์ จะเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และมีแนวโน้มสูงที่จะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
เหตุที่ต้องแบ่งงานให้รองนายกฯ ภูมิธรรม แบบแปลกๆ เพราะเดิมทีมีการวางตัวให้ภูมิธรรมเป็น รมว.มหาดไทย แต่ผลการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล ทำให้เพื่อไทยต้องถอย และยอมยกมหาดไทยให้ภูมิใจไทย
เมื่อพิจารณาดูรายชื่อรองนายกรัฐมนตรี ทั้ง 6 คน ก็ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับภูมิธรรม เนื่องจากเป็นมือการเมือง และเป็นสายตรงที่นายใหญ่ไว้ใจที่สุด
เหนืออื่นใด ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในสถานะตัวประกันทางการเมือง ฉะนั้น รองนายกรัฐมนตรีที่จะกำกับดูแลงานความมั่นคง จึงต้องเป็นผู้ที่เข้าใจแนวทางประนีประนอม รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว
ภูมิธรรมในวัย 70 ปี มีประสบการณ์ รองนายกฯ คุมงานด้านความมั่นคง จึงน่าจะเป็นตอบโจทย์การสลายขั้วสลายสีได้ดีที่สุด