รัฐลวงลึก ‘เศรษฐา’ รับไม้ต่อ ‘ประยุทธ์’ ถือไพ่ตัวประกันทักษิณ

ขุนศึกมีชัย เศรษฐา รุดคารวะ ประยุทธ์ ก้าวสู่โหมดรัฐบาลพิเศษ ทักษิณ ตัวประกันฝ่ายอนุรักษนิยม

เศรษฐา ยกพลังงานให้ รทสช. ประยุทธ์ จัดทัพทหาร-ตำรวจฉลุย จับตา รมว.กลาโหมคนใหม่ เพื่อนร่วมรุ่นบิ๊กแดง

ก่อนเที่ยงวันที่ 24 ส.ค. 2566 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว และแสดงความขอบคุณนายกฯประยุทธ์ 

ต่อมา เศรษฐา ทวีสิน ได้แถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการติดต่อขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันนี้ว่า “...เป็นการพบกัน พูดคุยกันธรรมดา เพื่อประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งวันนี้ก็ก้าวข้ามความขัดแย้งแล้ว แล้วก็มาดูแลบ้านเมืองให้ดี พล.อ.ประยุทธ์ ก็ฝากฝังไว้ เพราะมีความเป็นห่วง”

พล.อ.ประยุทธ์ บอกกับเศรษฐา ว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรี 2 ท่านมาพบปะพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ 

ด้อมส้มอาจมองภาพนี้เปรียบเหมือนละครดังช่อง 3 เรื่อง เกมรักทรยศ แต่ติ่งแดงอาจคิดต่างว่าเป็นละครเรื่อง รักประกาศิต

แหล่งข่าวในสภาสูงประเมินศึกโหวตนายกฯ รอบที่ 3 ซึ่งเศรษฐาได้รับเสียงเห็นชอบท่วมท้น โดยเฉพาะเสียง สว.สายลุงตู่ ว่า โดยภาพรวมแล้ว เป็นชัยชนะของอำนาจเก่า ผ่านลุงตู่โดยแท้ ได้ตั้ง ผบ. 4 เหล่าทัพ ได้ตั้ง ผบ.ตร. และได้เพื่อไทยมารับไม้บริหารประเทศสู้กับพลังใหม่อย่างก้าวไกล 

เหนืออื่นใด ฝ่ายอนุรักษนิยม ยังมีอิสรภาพของทักษิณ ชินวัตร อยู่ในมือ หรือพูดอีกอย่างว่าเป็นตัวประกันทางการเมือง

“อำนาจเก่ามีประสบการณ์ในการรักษาอำนาจนำมายาวนาน ฝ่าวิกฤตหนักมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปรับตัวอยู่ตลอดเวลา” แหล่งข่าว กล่าว

 

 

อำนาจในมือลุงตู่
การจัดทำโผ ครม.เศรษฐา ที่มีพรรคร่วมรัฐบาล 11 พรรคนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ในการจะเกลี่ยเก้าอี้รัฐมนตรีให้เป็นที่พอใจแก่ทุกฝ่าย

ที่น่าสังเกตโผ ครม.ในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลที่นิ่งเร็วที่สุดคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม บวกอีก 2 เก้าอี้ รมช.ไม่ระบุกระทรวง

โดย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะรับตำแหน่ง รมว.พลังงาน และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร จะรับตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม

อีกด้านหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  ในฐานะประธานบอร์ดกลาโหม ได้ประชุมพิจารณาแต่งตั้งนายทหารระดับ ผบ.เหล่าทัพแทนที่เกษียณในเดือน ก.ย.นี้ เป็นที่เรียบร้อย

พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (ตท.24) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด(รองผบ.ทสส.) เป็นผบ.ทสส.

พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.23) รอง ผบ.ทบ.เป็น ผบ.ทบ.

พล.อ.อ.พันธ์ภักดี   พัฒนกุล (ตท.24) ผช.ผบ.ทอ. เป็น ผบ.ทอ.

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม(ตท.23) ผบ.กองเรือยุทธการ เป็นผบ.ทร.

ตามมาด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ที่ขยับขึ้น ผบ.ตร.คนใหม่ ตามความคาดหมาย

พูดตามตรง พล.อ.ประยุทธ์ ได้วางเครือข่ายสายความมั่นคง ส่งต่อให้นายกฯ เศรษฐา อย่างราบรื่น

 

 

 

 

จับตารัฐมนตรีกลาโหม
แม้แกนนำเพื่อไทย จะพยายามผลักดัน สุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ เป็นรัฐมนตรีกลาโหม โดยมีเหตุผลว่า ต้องการทำหน้าตาของ ครม.ให้เป็นสากล ที่มีพลเรือนนั่งเก้าอี้ดังกล่าว 

จริงๆ แล้ว เพื่อไทยต้องการสลัดภาพรัฐบาลสืบทอดอำนาจ คสช. แต่ถึงกระนั้น เศรษฐาก็คงจะนำชื่อสุทิน ไปหารือกับกองทัพว่า จะเป็นที่ยอมรับหรือไม่

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวน่าเชื่อถือได้ระบุว่า ตำแหน่ง รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทยนั้น นายกฯเศรษฐา อาจจะใช้บริการคนนอกอย่าง พล.อ.ณัฐพล  นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มีบทบาทหลายด้านในรัฐบาลลุงตู่ ช่วงเกิดโรคระบาดโควิด 19  

พล.อ.ณัฐพล เป็นนายทหาร ตท.20 รุ่นเดียวกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองเลขาธิการพระราชวัง และอดีต ผบ.ทบ. อดีตนายทหารใหญ่โตมาคู่กันใน ทบ.

มองจากปรากฏการณ์โผ ครม.ที่นิ่งเร็วที่สุดของรวมไทยสร้างชาติ จนมาถึงกระแสข่าวว่าที่ รมว.กลาโหมคนใหม่ เสมือนเป็นคำตอบว่า เหตุใด สว.สายลุงตู่ จึงเทเสียงให้เศรษฐา โดยพร้อมเพรียงกัน