เกมสองหน้า ‘ทักษิณ’ ผสมขั้ว ‘พรรคลุง’ โหวตฟรีไม่มีในโลก

เขี้ยวบวกเก๋า ทักษิณ เจรจาหลังม่าน หน้าฉากส่ง ภูมิธรรม-ประเสริฐ เล่นเกมสองหน้า ของจริงโหวตฟรีไม่มีใครในโลก  

เพื่อไทยใช้ต้นทุนสูง จัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา บวกพรรคลุง เพื่อได้เสียง สว.หนุน ตั้งเป้าโหวตรอบเดียวจบ 
 

วันที่ 15 ส.ค. 2566 อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ได้เผยแพร่คลิปผ่านวิดีโอสตอรีอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมเช็กอินอยู่ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมข้อความระบุว่า “พาคุณพ่อมาหาหมอตาค่ะ” โดยภาพทักษิณเข้าพบกับแพทย์ เพื่อรับการตรวจสายตา

วันเดียวกัน อุ๊งอิ๊งได้แชร์คลิปความยาว 1 นาทีจากแอปพลิเคชัน TikTok แอ็กเคานต์ @thaksinneverdie ที่มีการโพสต์คลิปนี้ไว้ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. 2566 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของทักษิณ เป็นเรื่องราวของทักษิณ และคนในครอบครัว ตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งจบคลิปเป็นภาพที่ทักษิณ กลับเมืองไทย และกราบแผ่นดินเมื่อปี 2551 

ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร จะกลับไทยในช่วงหลังการโหวตนายกรัฐมนตรี และมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว

สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย มาถึงวันนี้ แกนนำสายตรงทักษิณ ค่อนข้างมั่นใจว่า เศรษฐา ทวีสิน จะได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น

ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังยืนยันเหมือนเดิม จะมีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี หลังโหวตนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว 

เช่นเดียวกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า เมื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว จึงจะมีการมาคุยกันเรื่องตำแหน่ง

ดูเหมือนว่า แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ไม่สนใจถ้อยแถลงของประเสริฐ-ภูมิธรรม เพราะรู้ดีว่า โหวตฟรีไม่มีในโลก และไม่มีเงื่อนไขนั่งกระทรวงเดิมไม่ได้

ที่สำคัญ การเจรจาหลังม่าน ระหว่างคนแดนไกลกับตัวแทนพรรคขั้วรัฐบาลเดิมนั้น สามารถปิดดีลได้เกือบทุกพรรคแล้ว

อย่างเช่น อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีว่า เบื้องต้นน่าจะได้ 4+4 คือ 4 รัฐมนตรีว่าการ และ 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ซึ่งเป็นไปตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้

ตราบใด ทักษิณยังต้องการจะกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน ตราบนั้น เพื่อไทยก็ยากที่จะปฏิเสธข้อต่อรองจากพรรคอันดับที่ 3 และพรรคลุงทั้งรวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ

 

 

 

 

แผนกลับบ้าน
แผนเลื่อนการกลับบ้านของทักษิณ น่าจะรอให้พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล โหวตชื่อนายกฯ เรียบร้อย และมีการโปรดเกล้าฯ นายกฯ และ ครม.ชุดใหม่ 

เหนืออื่นใด คนแดนไกลก็ต้องรู้ว่า ใครจะมาคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางกลับประเทศ ต่อเนื่องไปถึงรัฐมนตรียุติธรรม และรัฐมนตรีมหาดไทย 

รวมถึงทักษิณถูกคุมขังตามคำพิพากษาของศาลในคดีถึงที่สุดแล้ว ที่ต้องไปอยู่ในความดูแลกรมราชทัณฑ์ การจัดชั้นนักโทษ เกณฑ์ลดโทษ หรือแม้แต่การถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ

มีรายงานข่าวจากเพื่อไทยว่า จะมีอดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะเข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยกระทรวงหนึ่ง และอยู่แผนปฏิบัติการพาทักษิณกลับบ้าน

 

 

โควตารัฐมนตรี
สำหรับความคืบหน้าการแบ่งโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี จะใช้สูตร 9 สส. ต่อ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี โดยพรรคเพื่อไทย คงจะได้เก้าอี้กระทรวงสำคัญอย่าง คลัง, มหาดไทย, คมนาคม, พลังงาน, เกษตรฯ , ต่างประเทศ ,พาณิชย์และศึกษาธิการ 

พรรคภูมิใจไทย ได้โควตา 4 รัฐมนตรีว่าการ 4 รัฐมนตรีช่วย ส่วนจะได้สาธารณสุข คมนาคม และท่องเที่ยวและกีฬา เหมือนเดิมหรือไม่ คงต้องเจรจากันอีกหลายรอบ

พรรคพลังประชารัฐ ได้ 2 รัฐมนตรีว่าการ และ 3 รัฐมนตรีช่วย มีข่าวจะขอเกษตรฯ ,ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแรงงาน

พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 2 รัฐมนตรีว่าการ 2 รัฐมนตรีช่วย อาจได้เก้าอี้ รมช.เพิ่มอีก 1 ซึ่งคาดว่า พลังงานน่าจะเป็นของเพื่อไทย แต่อาจกระทรวงหลักมาทดแทน

พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ 1 รัฐมนตรีว่าการ ต้องลุ้นจะได้กระทรวงเดิมหรือไม่ เพราะมีข่าวว่า คนแดนไกลอยากให้ย้ายไปอยู่กระทรวงใหม่

กล่าวถึงที่สุด เพื่อไทยก็คงต้องดึงพรรคลุง ทั้งสองพรรคเข้าร่วมรัฐบาล เพราะได้ลุง ก็ได้ สว.มาโหวตให้อีกร้อยกว่าเสียง

ยิ่งก้าวไกลมีมติเอกฉันท์ ไม่โหวตให้เศรษฐา ก็เหมือนผลักให้เพื่อไทยย้ายไปอยู่ขั้วอนุรักษนิยมเต็มตัว