เกมคลุมถุงชน ‘ชลน่าน’ รุกในถอย ‘เพื่อไทย’ ลุ้นนายกฯ ก๊อกสอง

แยกจากกันไม่ได้ ชลน่าน เปรียบ 25 ล้านเสียง จับคลุมถุงชน เพื่อไทย-ก้าวไกล ในกระแสข่าวปล่อย พรรคสีส้มได้ประธานสภา แลกพรรคสีแดงได้นายกฯ ก๊อก 2

เพื่อไทยเชื่อ พิธา ไม่ผ่านด่าน 250 สว.ในก๊อกแรก จึงหวังก๊อก 2 ที่จะเสนอชื่อคนของเพื่อไทย เป็นนายกฯ แต่เกมนี้ ก้าวไกลจะเล่นด้วยหรือไม่ 
 

วันที่ 29 มิ.ย. 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปร่วมงานที่สถานี โทรทัศน์วอยซ์ทีวี ตอบคำถามนักข่าวเกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งประธานสภา และยอมรับว่าพรรคตกเป็นจำเลยของด้อมส้ม ทั้งที่เพื่อไทย มีสิทธิ์ที่ยื่นข้อเสนอตำแหน่งประธานสภาต่อพรรคอันดับ 1 

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ได้เข้าร่วมการประชุมกับพรรคก้าวไกล เพื่อหารือเรื่องการจัดทำงบประมาณ ซึ่งมี เศรษฐา ทวีสิน, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และจักรพงษ์ แสงมณี เข้าร่วมด้วย ส่วนก้าวไกล นำทีมโดย ศิริกัญญา ตันสกุล และพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 

 

 

 

ที่น่าสนใจ อุ๊งอิ๊ง ได้โพสต์คลิปวงประชุมลงอินสตาแกรมส่วนตัว เช่นเดียวกับศิริกัญญา โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก เหมือนต้องการสื่อสารไปถึงเอฟซีทั้งสองพรรคว่า พวกเราลงมือทำงานกันแล้ว
 

ฝั่งแกนนำพรรคก้าวไกล ได้มีนัดประชุมด่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภา อยู่ที่ทำการพรรค โดยไม่มีการแถลงข่าวใดๆ

ตกค่ำ มีรายงานข่าวอ้างว่ามาจากพรรคเพื่อไทย ในเรื่องตำแหน่งประธานสภา ได้ข้อยุติแล้ว โดยพรรคก้าวไกล จะได้ตำแหน่งประธานสภา ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งรองประธานสภา 2 ที่นั่ง 

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ข้อตกลงข้างต้นนี้ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ต้องเห็นชอบและรับรู้ร่วมกันว่า จะหนุนพิธา เป็นนายกฯ แต่หากไม่ผ่านด่าน สว. พรรคก้าวไกลจะสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

คิดแบบชั้นเดียวเชิงเดียว แสดงว่า ก้าวไกลขอประธานสภา แลกกับเพื่อไทยได้นายกฯ ก๊อกสอง เนื่องจากประเมินเสียงฝั่ง สว.แล้ว พิธา มีแนวโน้มไม่ผ่านด่าน สว.สูงมาก

 

การเมืองแบบคลุมถุงชน
ตลอดสัปดาห์นี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และแกนนำพรรคเพื่อไทย ต้องเผชิญกับปรากฏการณ์ทัวร์ลงอย่างหนัก หลังจากที่ประชุม สส.ของพรรค เสนอพรรคอันดับ 2 ต้องการตำแหน่งประธานสภา

นพ.ชลน่าน จึงโอดครวญว่า “เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน นี่ผมพูดหลายครั้ง แม้เราอยากออกไปแต่เราออกไปไม่ได้ แม้เราอยากออกไป ซึ่งเรามีสิทธิด้วยนะครับที่จะออกไป แต่มันไม่ชอบธรรม เราถูกพี่น้องประชาชน 25 ล้าน มัดเรากับพรรคก้าวไกลให้ติดกัน มันเสมือนพ่อแม่เรา เราเป็นลูก เราถูกจับคลุมถุงชนให้มาแต่งงานกัน เราไม่มีสิทธิปฏิเสธจริงๆ”

คำว่า คลุมถุงชน ของหมอชลน่าน ถูกตีความอย่างมากมายจากด้อมส้มและติ่งแดง แต่ในข้อเท็จจริง พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ก็ถือว่าเป็นคนละสายพันธุ์

สส.เพื่อไทยส่วนใหญ่ มีอุดมการณ์อนุรักษนิยม ต่างจาก สส.ก้าวไกล เป็นคนรุ่นใหม่ มีอุดมการณ์เสรีนิยม

ดังนั้น สส.เพื่อไทยจำนวนหนึ่ง อาจคิดต่างจากแกนนำพรรครุ่นใหม่อย่างอุ๊งอิ๊ง และเศรษฐา พวกเขาไม่กลัวว่าจะสูญพันธุ์หรือไม่ เพราะมีฐานเสียง มีทรัพยากรพร้อมสรรพ

 

 

อะไรก็เกิดขึ้นได้
หากเป็นสถานการณ์การเมืองแบบปกติ พรรคอันดับ 2 อย่างเพื่อไทย ก็มีสิทธิ์ตั้งรัฐบาลแข่งได้ตามกติกา แต่กระแสสังคมที่จับมัดให้เป็นฝ่ายประชาธิปไตย จึงต้องจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ก้าวไกลและเพื่อไทย 

พรรคเพื่อไทย มีรากเหง้ามาจากพรรคไทยรักไทย ที่มี ทักษิณ ชินวัตร เป็นเจ้าของพรรค ได้สร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ ผสมกับพวกบ้านใหญ่ ซึ่งนโยบายแบบคิดใหม่ ทำใหม่ ได้นำมาสู่ชัยชนะของไทยรักไทยสมัยนั้น

ดังนั้น พรรคของทักษิณ ไม่ว่าจะแบรนด์ไหน จะเน้นการแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน ไม่เคยคิดแตะเรื่องการเมืองเชิงโครงสร้าง ไม่แก้ ม.112 ไม่ปฏิรูปกองทัพ ไม่ปฏิรูปการศึกษา ฯลฯ

ข่าวปล่อยดีลจบแล้ว เรื่องตำแหน่งประธานสภา อาจพลิกผันเป็นอย่างอื่นอีกก็ได้ เพราะสองพรรคนี้ มีพื้นฐานทางอุดมการณ์ต่างกัน และเพื่อไทย มีเจ้าของพรรคชื่อทักษิณ