คอลัมนิสต์

ฉกประธานสภา ‘ทักษิณ’ กลับบ้านโยงดีลลับ ‘พิธา’ รู้ทันไม่เจรจา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หักเหลี่ยมเฉือนคม ทักษิณ วางแผนกลับบ้าน เพื่อไทยจองประธานสภา พิธา รู้ทันไม่เจรจา เกมยังไม่จบ ก้าวไกลเล่นกับกระแสมวลชน ปูดดีล ลับสลับขั้ว

การศึกมิหน่ายเล่ห์ ทักษิณ วางแผนกลับบ้าน เพื่อไทยหักดิบขอประธานสภา พิธา แก้เกมเลื่อนเจรจาไม่มีกำหนด หวังใช้มวลชนกดดันค่ายสีแดง 


วาทกรรมฝ่ายประชาธิปไตยคือมายา ทักษิณ กลับไทยเท่ๆ คือของจริง พิธา ส่อเค้าตกสวรรค์ แต่เกมยังไม่จบ ก้าวไกลเล่นกับกระแสสังคม ต้านดีลลับข้ามขั้ว
 

เป็นไปตามความคาดหมาย เกมชิงประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นตัวชี้ขาดเกมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ที่หนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ


ในที่สุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เปิดการแถลงข่าวว่า ที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เห็นชอบในหลักการ 14 บวก 1 หมายความพรรคเพื่อไทย ได้ 14 เก้าอี้รัฐมนตรี บวกประธานสภาฯ และพรรคก้าวไกล ได้ 14 เก้าอี้รัฐมนตรี บวกนายกฯ


พูดง่ายๆ พรรคเพื่อไทย ขอตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ นพ.ชลน่าน บอกว่า นี่คือเสียงส่วนใหญ่จากที่ประชุม สส. ไม่ใช่มติคณะกรรมการบริหารพรรค


เวลาไล่เลี่ยกัน พรรคก้าวไกล พอรู้ว่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ก็ส่งข่าวออกไปทันทีว่า มติพรรคมีความเห็นเสนอชื่อ หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก เป็นประธานสภา แถมเพจพรรคก้าวไกล นำเสนอวิสัยทัศน์หมออ๋องแบบยาวๆ 
 

สาเหตุที่ก้าวไกล ชิงตัดหน้าโปรโมตหมออ๋อง เพราะรู้ว่า เพื่อไทยยังไม่กล้าเปิดชื่อประ ธานสภา เพราะชื่อนี้มีประเด็นทางการเมือง แต่ จตุพร พรหมพันธ์ ฟันธงมาร่วมสัปดาห์แล้วว่าชื่อ สุชาติ ตันเจริญ 


ล่าสุด พรรคก้าวไกล ได้ขอเลื่อนการประชุมระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทย ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เป็นวาระหารือในประเด็นตำแหน่งประธานสภา ออกไปอย่างไม่มีกำหนด 

 

 

พิธา ยังเดินหน้าหามวลชน มาเป็นกองหนุน ก้าวสู่นายกฯ

 

 

ดีลลับเหนือดีลรัก
พลันที่พรรคเพื่อไทย ยืนกรานจะขอตำแหน่งประธานสภา นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักต่างโฟกัสไปที่แผนการกลับบ้านของ ทักษิณ ชินวัตร ในช่วงปลายเดือน กค.2566


ก่อนหน้านี้ จตุพร พรหมพันธุ์ ได้ออกมาไลฟ์เฟซบุ๊กรายวัน วิเคราะห์ว่า สุชาติ ตันเจริญ จะเป็นประธานสภา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ โดยพรรคก้าวไกล จะไปเป็นฝ่านค้าน ก็ไม่มีใครเชื่อ แถมบางคนยังดูถูกหยามหยัน


เหตุที่การเมืองพลิกขั้วอย่างนี้ จตุพรชี้ว่า สืบเนื่องมาจาก ทักษิณ ชินวัตร จะกลับบ้านอย่างปลอดภัย จึงต้องมีรัฐบาลผสมข้ามขั้ว เพื่อไทย พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย เป็นแกนหลัก โดยยกเก้าอี้ให้ พล.อ.ประวิตร มือประสานสิบทิศ 


นักวิชาการส่วนใหญ่จะมองว่า ถ้าเพื่อไทยเล่นเกมนี้ สูญพันธุ์แน่ แต่ในมุมมองของ สส.เพื่อไทย กลับประเมินว่า เพื่อไทย และก้าวไกล ต่างกันโดยดีเอ็นเอของพรรค


เพื่อไทยเป็นพรรคการเมือง ที่ยึดโยงกับทักษิณ และได้รับชัยชนะด้วยการเมืองเชิงนโยบาย ส่วนก้าวไกล เป็นแนวอุดมการณ์นิยม หรือการเมืองเชิงโครงสร้าง จึงปักธงแก้ ม.112 ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปศาล ฯลฯ


หากวันข้างหน้า เพื่อไทยจะรีแบรนด์ให้เหมือนก้าวไกล พอถึงวันเลือกตั้งสมัยหน้า คนที่เลือกพรรคเชิงอุดมการณ์ ก็เลือกก้าวไกล ไม่เลือกเพื่อไทย

 

 

จับตาเกมโหวตลับ
หากการเจรจาระหว่างก้าวไกล และเพื่อไทย ไม่ได้ข้อยุติ เพราะพรรคสีส้มต้องการตำแหน่งประธานสภา สมมติว่า กรรมการบริหารเพื่อไทยยอมถอย ยกประธานสภาให้ก้าวไกล ก็น่าจะคุมเสียงโหวตในสภาไม่ได้  


ตามที่มีการวิเคราะห์กันว่า วันโหวตประธานสภา จะมีตัวแทนพรรคอื่นเสนอชื่อ สุชาติ ตันเจริญ แข่งกับคนของก้าวไกล และเสียงจากพรรคขั้วรัฐบาลเดิม บวกกับ สส.เพื่อไทย โหวตให้สุชาติเป็นประธานสภา ก็จับไม่ได้ว่า ใครแหกมติเพื่อไทย เพราะเป็นการโหวตลับ


มีข้อสังเกตจากการประชุม สส.พรรคพลังประชารัฐ เมื่อ 27 มิ.ย.นี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้กำชับเรื่องการลงมติเลือกประธานสภา ขอให้เป็นกลุ่มเป็นก้อน เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 40 คน อย่าแตกแยก เพราะการโหวตตำแหน่งประธานสภา จะมีผลต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี ด้วย


คำว่า การโหวตตำแหน่งประธานสภา จะมีผลต่อการเลือกนายกฯ จึงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้คือ สุชาติ ประธานสภา และ พล.อ.ประวิตร นายกฯ หลังจากนั้น ทักษิณก็กลับมาตุภูมิ
    

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ