ใกล้เหมือนไกล ‘พิธา’ โดดเดี่ยวเกมสภา ‘จันทร์ส่องหล้า’ รอสูตรใหม่

ยิ่งใกล้เหมือนยิ่งไกล พิธา นายกฯในฝัน กลับมาอยู่ในเกมของ บ้านจันทร์ส่องหล้า สส.เพื่อไทย ป่วนเก้าอี้ประธานสภา ภายในก้าวไกลร้าวลึก 2 ก๊ก

บทบาทของ ภูมิธรรม สายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า ย่อมไม่ธรรมดา เมื่อมองข้ามช็อตไปถึงการฟอร์มรัฐบาลใหม่ หาก พิธา ไม่ผ่านด่าน สว.
 

เนื่องจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้แจ้งว่า ติดโควิด-19 เป็นรอบที่ 3 ต้องหยุดกิจกรรมนอกบ้านไปโดยปริยาย การนัดหมายกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ในวันที่ 22 มิ.ย.2566 จึงต้องเลื่อนไปวันที่ 26 มิ.ย.2566

สำหรับประเด็นการรวบรวมเสียง สว. ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แจ้งกับที่ประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ว่า เป็นที่น่าพอใจในการเดินหน้าพูดคุยกับ สว. และได้เสียง สว.เพิ่มมาเรื่อยๆ และอีกนิดเดียวจะถึงเป้าที่ต้องการแล้ว 376 เสียง 

ข้อมูลอีกด้านหนึ่งจากวงในสภาสูง พรรคก้าวไกล ยังได้เสียง สว.มาหนุนพิธาไม่มากนัก ทำให้แกนนำพรรคสีส้มบางกลุ่ม ถกปัญหาการแก้ไข ม.112 อย่างเอาจริงเอาจัง เพื่อเปลี่ยนใจ สว.ให้ได้ โดยแกนนำบางคนเสนอให้ถอยในเรื่องนี้
 

ในเรื่องการถอนฟืนออกจากกองไฟ ไม่แก้ ม.112 นั้น ปรากฏว่า ปีกซ้ายในพรรคสีส้มไม่เห็นด้วย หากจะถอยกันขนาดนั้น กลับไปเป็นพรรคฝ่ายค้านดีกว่า

 

 

ร้าวลึกค่ายส้ม
ในพรรคก้าวไกล ยังมีความแตกต่างทางความคิดกัน ระหว่างทิม พิธา กับป๊อก ปิยุบตร แสงกนกกุล โดยมีเอก ธนาธร และต๋อม ชัยธวัช ยืนข้างหนุ่มทิม

ถ้าจำกันได้ ช่วงปลายเดือน ก.พ.2566 ได้เกิดวิวาทะ ระหว่าง พิธา กับปิยบุตร อันมีต้นเหตุมาจากอาจารย์ป๊อก วิพากษ์วิจารณ์แนวทางการหาเสียงของพรรคก้าวไกล แต่ลึกๆ แล้ว มีรายงานว่า ทั้งคู่ขัดแย้งกันเรื่องการจัดวางตัวผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ

ว่ากันว่า อาจารย์ป๊อกอยากให้มีนักวิชาการคนดัง เข้ามาอยู่บัญชีรายชื่อ แต่ พิธา ต้องการให้ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับต้นๆ เป็นของคนทำงานของพรรค รวมถึงอดีต สส.บางคน 

คนในพรรคก้าวไกลรู้ดีว่า ปิยบุตร มีบทบาทโดดเด่นในแวดวงปัญญาชนนอกพรรค ส่วนพิธา ให้ความสำคัญกับผู้ปฏิบัติงานพรรคทุกระดับ โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานในต่างจังหวัด

 

 

พิธา ธนาธร และชัยธวัช น่าจะเป็นคนที่ยืดหยุ่น และเข้าใจธรรมชาติการเมืองไทยระดับหนึ่ง ส่วนปิยบุตร มีบุคลิกนักวิชาการสูง และเชื่อมั่นในแนวทางการสร้างพรรคแบบซ้ายยุโรป

หากมองในภาพกว้าง พิธาและพรรคก้าวไกล ได้รับการสนับสนุนจากมวลชน และกองเชียร์ระดับเซเลบในสังคมมากมาย แต่ในเกมสภา แกนนำสีส้มเหมือนโดดเดี่ยวยังไงชอบกล

 

 

กลยุทธ์จันทร์ส่องหล้า
มีข้อสังเกตว่า ภูมิธรรม มีบทบาทมากขึ้นในการเล่นเกมต่อรองกับพรรคก้าวไกล ดูจากกรณีตำแหน่งประธานสภา ที่มีการให้ข่าวแบบมีลูกล่อลูกชน จนแกนนำสีส้มหลงเหลี่ยม

ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ชื่อว่าเป็นสายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า การออกมาเดินหมากเดินเกมในช่วงนี้ ย่อมหมายถึงได้รับไฟเขียวจากนายหญิง และนายใหญ่แล้ว

ปมปัญหาประธานสภานั้น เสี่ยอ้วนแจงว่า ได้พูดในหลักการคือ พรรคอันดับ 1 ควรได้ตำแหน่งประธานสภา แต่ในความเป็นจริง ยังไม่มีข้อสรุป เพื่อไทยกับก้าวไกล ต้องมาคุยกัน 

การประชุม สส.เพื่อไทย ในวันที่ 21 มิ.ย.2566 สส.หลายคนน่าจะพูดเรื่องประธานสภากันอย่างกว้างขวาง และเสี่ยอ้วน คงให้รอฟังผลการเจรจาสองพรรคในปลายเดือน มิ.ย.นี้

ดังที่ทราบกัน แนวทางของบ้านจันทร์ส่องหล้าคือ ไหลตามน้ำ จับมือก้าวไกลไปสุดทาง หากพิธาฝ่าด่านไม่ได้ ก็รอให้แกนนำสีส้มตัดสินใจ จะเปลี่ยนให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เพื่อไทยยังยึด 8 พรรคเป็นแกนหลัก อาจจะดึงพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนากล้า มาเข้าร่วมแล้วเดินหน้าต่อไป

บ้านจันทร์ส่องหล้า ประเมินว่า เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย จะได้เสียงตอบรับจาก สว. เนื่องจาก สว.ไม่กังขาเพื่อไทย ในประเด็นแก้ ม.112 เหมือนก้าวไกล