หน้าฉากดีลรัก ‘อุ๊งอิ๊ง’ หวานชื่น ‘พิธา’ หลังฉากรอส้มปล่อยมือ

หน้าฉากดีลรักไม่ล่ม พิธา หวานชื่น อุ๊งอิ๊ง เพื่อไทยยอมถอย ไม่ชิงประธานสภา จับตาเกมโหวตนายกฯ ก้าวไกลจะผ่านด่าน สว.หรือไม่ 

ตามแผนดีลรัก อุ๊งอิ๊ง เพื่อไทยคงลาก พิธา เข้าสู่กับดัก 250 สว. โหวตกี่ครั้งก็ไม่ผ่าน รอให้ก้าวไกลปล่อยมือเอง ค่อยเปลี่ยนเกมเล่น
 

สัปดาห์ที่แล้ว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์แบบยาวๆ ย้ำเรื่องดีลรักไม่ล่ม ขอหนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ไปจนสุดทาง 

ดังที่รู้กัน กว่าจะถึงช็อตโหวตนายกฯ ก็ต้องผ่านด่านแรกเลือกประธานสภาผู้แทน ราษฎร ซึ่งทั้งก้าวไกล และเพื่อไทย ต่างก็จองเก้าอี้ตัวนี้

วันที่ 17 มิ.ย.2566 รังสิมันต์ โรม ว่าที่ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้ สัมภาษณ์ว่า พรรคก้าวไกล ต้องการตำแหน่งประธานสภา เพราะมีเรื่องที่อยากผลักดัน คงต้องเป็นกระบวนการที่ต้องไปพูดคุยให้เรียบร้อย

วันเดียวกัน ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็พูดกับนักข่าวอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทย กำลังรอคำตอบจากพรรคก้าวไกล หลังจากที่ได้เสนอไปว่า เพื่อไทยขอตำแหน่งนี้ และจากการสอบถามไปยัง ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ที่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังไม่มีการประสานกลับมาแต่อย่างใด

ล่าสุด วันที่ 18 มิ.ย.2566 ภูมิธรรม แถลงข่าวว่า เพื่อไทยยอมให้ก้าวไกล ได้ตำแหน่งประธานสภา แต่พรรคอันดับ 2 ควรได้ตำแหน่งรองประธานสภา ทั้ง 2 เก้าอี้

 

 

ดีลรักไม่ล่ม
เมื่อ 14 มิ.ย.2566 อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เบรกนั่งเก้าอี้นายกฯ และกรณีพ่อทักษิณจะกลับบ้าน เคลียร์ปมข่าวลือเรื่องพร้อมจะเป็นนายกฯ ก๊อกสอง หาก พิธา ไม่ผ่านด่าน สว.

สาเหตุที่อุ๊งอิ๊ง ต้องออกมาแถลงยาวๆ มาจากข่าวชิ้นหนึ่งที่ว่าด้วยการให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมืองของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านถนนหลานหลวง

 

 

 

วันนั้น คุณหญิงพจมานนัดลูกๆ พร้อมครอบครัวไปรับประทานอาหารจีน ซึ่งขาดเฉพาะครอบครัวโอ๊ค พานทองแท้ บังเอิญวันนั้น คุณหญิงอ้อ ได้พบกับกลุ่มผู้สื่อข่าวสายทหาร ที่ไปพบแหล่งข่าวในโรงแรมเดียวกันพอดี และมีนักข่าวคนหนึ่งในกลุ่มนั้น เคยรู้จักมักคุ้นกับคุณหญิงอ้อ จึงมีการพูดจาทักถามกันตามประสาคนคุ้นเคย

ตรงนี้แหละที่กลายมาเป็นประเด็นข่าวคุณหญิงพจมาน เบรกอุ๊งอิ๊งขึ้นนายกฯ และไม่อยากให้ทักษิณกลับไทยในช่วงเวลานี้

มีรายงานข่าวจากวงในเพื่อไทย ระบุว่า ถ้า พิธา ไม่ผ่านด่าน สว. และเพื่อไทยมีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ยังไงตระกูลชินวัตร ก็จะไม่จับมือกับ 2 ป.อย่างแน่นอน 

 

 

รอปล่อยมือ
เป็นที่คาดหมายกันว่า กกต.จะประกาศรับรอง สส. ให้ได้จำนวนอย่างน้อยร้อยละ 95 ของ 500 คน ก็คือ 475 คน ภายในไม่เกิน 28 มิ.ย.นี้ จากนั้นมีการเสนอทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกา เรียกประชุมรัฐสภา เพื่อเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญครั้งที่หนึ่ง ช่วงต้นเดือน กค.นี้

การประชุมสภานัดแรกคือ การโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเป็นประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ

ฟังจากปากคำของแกนนำเพื่อไทย ถึงจะไม่ได้ตำแหน่งประธานสภา พรรคก็ยืนยันจะหนุน พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีทางจะแยกวงไปจับมือกับขั้วรัฐบาลเดิม

ปัจจุบัน พิธา ต้องเผชิญวิบากกรรมเรื่องหุ้นไอทีวี เพื่อไทยก็จะเดินหน้าเดินหน้าสนับ สนุนพิธาต่อไป แล้วไปลุ้นกันว่า จะได้เสียงโหวตเห็นชอบถึง 376 เสียงหรือไม่ 

พูดง่ายๆ เพื่อไทยจะไม่ปล่อยมือทิ้งก้าวไกล หากวันใด ก้าวไกลรู้สึกว่า หนทางดันพิธาไปสู่เก้าอี้นายกฯ ตีบตัน ยอมปล่อยมือจากเพื่อไทยเอง ก็จะเป็นการเล่นเกมอำนาจบนกระดานใหม่