กลยุทธ์หนี ‘อุ๊งอิ๊ง’ ถอย ดัน ‘พิธา’ สุดทาง สยบคลื่นใต้น้ำเพื่อไทย

พรรคอันดับสอง อุ๊งอิ๊ง ยอมถอย ไม่เลือกเกมเสี่ยง ดัน พิธา ไปจนสุดทาง สลัดหนีอำนาจเก่า ชิงดักคอ สส. 141 คน อาจมีบางกลุ่มเล่นเกมใต้ดิน

17 ปีแห่งความหลัง ตระกูลชินวัตร เจอทั้งดีและร้าย ทักษิณ มีบทเรียนเยอะ เลือกหนีดีกว่าเล่นเกมเสี่ยง ท่ามกลางกระแสคนอยากเปลี่ยนแปลง
 

เช้าวันที่ 14 มิ.ย.2566 อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตั้งใจมาพูดกับนักข่าวอยู่ 2 ประเด็นคือ ไม่ทิ้งก้าวไกล และพ่อกลับบ้านแน่ แต่ต้องดูสถานการณ์

“เราไม่มีแผนที่จะพลิกขั้วใดๆ ทั้งสิ้น งงข่าวดีลลับที่ออกมาจำนวนมาก คงลับมากเพราะไม่รู้เรื่อง ซึ่งมันไม่ใช่ อยากให้หนักแน่นไว้ พรรคเพื่อไทยที่คุยกับพรรคก้าวไกลไว้อย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

ตกค่ำ อุ๊งอิ๊ง โพสต์เฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ตอกย้ำสิ่งที่พูดไว้ช่วงเช้า “เราตกในหล่มของการแช่แข็งประเทศไทยด้วยวิธีการที่ไม่ยึดหลักประชาธิปไตยและนิติธรรมมา 17 ปีแล้ว ทำให้ประชาชนทุกข์ยาก ประเทศล้าหลัง..” ดังนั้น อิ๊งค์และพรรคเพื่อไทย จะหนุน พิธา และพรรคที่ชนะการเลือกตั้งอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ
 

หากมองในมุมเกมการเมืองเรื่องจัดตั้งรัฐบาล พรรคอันดับสองที่ห่างจากพรรคอันดับหนึ่ง 10 ที่นั่ง ก็มีสิทธิ์ที่คิดจะตั้งรัฐบาลแข่งได้ แต่พรรคเพื่อไทย เลือกที่จะถอยมาเป็นกองหนุน ดันพรรคก้าวไกลให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

 

 

นักกลยุทธ์เคยกล่าวว่า “ถอยหนีมิผิด เป็นวิสัยซึ่งสงคราม” การถอยหนีในการทำสงคราม เป็นเรื่องธรรมดาสามัญในการรบ ยามที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ย่อมเลือกถอยดีกว่ารุกในเกมที่เสี่ยงเกินไป

เชื่อว่า มีการพูดคุยกันนอกรอบหรือสารพัดดีลลับ แต่สุดท้ายแล้ว นายห้างดูไบอาจจะเลือกถอยหนีมาอยู่วงนอก และเฝ้ามองสถานการณ์การเผชิญหน้าแตกหัก 

 

 

บทเรียนสอนใจ
การประกาศกลับบ้านของ ทักษิณ ชินวัตร ในช่วงเดือน กค.นี้ ย่อมถูกโยงเข้ากับสถานการณ์การเมืองช่วงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และมีการวิเคราะห์กันไปมากมาย

ล่าสุด อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ออกมายืนยันว่า ทักษิณจะกลับบ้านตามแผนเดิม แต่ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน ต้องประเมินดูสถานการณ์หลายอย่าง เพราะไม่อยากกลับมาแล้วมีความวุ่นวา

ส่วนประเด็นที่ว่าจะถูกหลอกหรือไม่ อุ๊งอิ๊งบอกว่า ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ข่าวสารที่ได้รับจากคนรอบตัว มีทั้งถูกมีทั้งผิด เชื่อว่า คำว่า ระวังถูกหลอก เป็นแค่การแสดงความห่วงใย เตือน สติกันว่าให้ดูดีๆ

นับแต่รัฐประหาร 2549 จนถึงปัจจุบัน ทักษิณและครอบครัวชินวัตร คงได้บทเรียนมาเยอะ จึงต้องตรวจสอบทุกย่างก้าว เพื่อไม่ให้เพลี่ยงพล้ำตกหลุมพรางของผู้มีอำนาจ

 

 

สยบคลื่นใต้น้ำ
ในพรรคเพื่อไทย ก็มีหลายกลุ่มหลายก๊ก ในวันที่ กกต.ยังอยู่ระหว่างการประกาศรับรอง สส. สภาพภายในพรรคจึงดูสงบนิ่ง แต่เชื่อว่า หลัง สส.ผ่านการรับรอง คงจะมีการเคลื่อนไหวของ สส.บางกลุ่ม

มีรายงานข่าวว่า กลุ่ม สส.ที่เป็นลูกหม้อพรรคเพื่อไทย แถวอีสานและเหนือ ลุ้นให้ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร นั่งเก้าอี้นายกฯ หาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตกสวรรค์ ฝ่าด่าน สว.ไม่สำเร็จ รวมถึงทีมยุทธ ศาสตร์พรรคก็แอบเชียร์เช่นกัน

ขณะที่ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย น่าจะมีแนวคิดแบบเดียวกับจาตุรนต์ ฉายแสง และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่อยากให้พิธา และก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ส่วนเพื่อไทยก็ยอมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และหันมารีแบรนด์พรรคอย่างจริงจัง เพื่อเตรียมตัวสู่การเลือกตั้งสมัยหน้า

อย่างไรก็ตาม การที่อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ออกมาย้ำประเด็นจุดยืนพรรคเพื่อไทย ที่ต่อสู้กับการแช่แข็งประเทศไทย อันหมายถึงจะไม่ปรองดองกับกลุ่มอำนาจเดิม อาจเป็นเกมสยบคลื่นใต้น้ำในพรรค หลัง กกต.เตรียมรับรอง สส.ล็อตใหญ่         

ธรรมชาติของนักเลือกตั้ง เมื่อได้เป็น สส.อย่างเป็นทางการ พวกเขาก็มีฤทธิ์มีเดช และอาจคิดต่างจากนายห้างดูไบก็เป็นได้